posttoday

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูโรง AI 'Gemini' ในทุกอุปกรณ์

21 สิงหาคม 2568

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ นำโดย Pixel 10 Series, Pixel Watch 4 และ Pixel Buds 2a ชูโรง 'Gemini' AI สุดอัจฉริยะ ผสานเข้ากับทุกอุปกรณ์

 

Google ยักษ์ใหญ่แห่งโลกเทคโนโลยี ได้เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ประจำปี นำโดยสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel 10 Series พร้อมด้วย Pixel Watch 4 และหูฟัง Pixel Buds 2a

 

โดยมีไฮไลท์เด็ดคือการผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI) อัจฉริยะอย่าง Gemini เข้าไปในทุกอณูของผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับผู้ใช้งาน ตามรายงานจาก Bloomberg

 

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูโรง AI 'Gemini' ในทุกอุปกรณ์

 

สำหรับไลน์อัปผลิตภัณฑ์และราคาเปิดตัว (ในสหรัฐอเมริกา) มีดังนี้:

 

  • Pixel 10: เริ่มต้นที่ $800 (ประมาณ 26,000 บาท)

 

  • Pixel 10 Pro: เริ่มต้นที่ $1,000 (ประมาณ 33,000 บาท)

 

  • Pixel 10 Pro XL: เริ่มต้นที่ $1,200 (ประมาณ 40,000 บาท) มาพร้อมความจุเพิ่มเป็น 2 เท่า

 

  • Pixel 10 Pro Fold (จอพับ): เริ่มต้นที่ $1,800 (ประมาณ 60,000 บาท)

 

  • Pixel Watch 4: ราคา $350 (41 มม.) และ $400 (45 มม.)

 

  • Pixel Buds 2a: ราคา $130 (ประมาณ 4,200 บาท)

 

(หมายเหตุ: ราคาในไทยอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศอีกครั้ง)

 

ครั้งนี้ Google แสดงความมั่นใจในเทคโนโลยี AI ของตนอย่างเต็มที่ ด้วยการส่งสโลแกน "ask more of your phone" (สั่งการสมาร์ทโฟนของคุณได้มากกว่าที่เคย)

 

เป็นสารท้ารบไปยังคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Apple ที่แม้จะครองตลาดสมาร์ทโฟน แต่ก็ยังต้องทำการบ้านอย่างหนักเรื่องการอัปเกรดผู้ช่วยอัจฉริยะ Siri

 

อย่างไรก็ดี แฟนๆ อาจต้องอดใจรอเล็กน้อย เพราะแม้ Pixel 10, 10 Pro, และ 10 Pro XL จะเริ่มวางขายในเดือนนี้ แต่รุ่นจอพับ Pixel 10 Pro Fold, Pixel Watch 4, และ Pixel Buds 2a จะตามมาในเดือนตุลาคม ซึ่งอาจจะช้ากว่าการมาถึงของ iPhone 17 จากฝั่งคู่แข่ง

 

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูโรง AI 'Gemini' ในทุกอุปกรณ์

 

Gemini ในทุกอณู

 

Google มุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่ง Gemini AI ให้เป็นมากกว่าแค่แชตบอตหรือผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียง สำหรับ Pixel 10 นั้น AI ได้ถูกแทรกซึมไปทั่วทั้งระบบและถูกออกแบบมาให้ทำงาน "เชิงรุก" (proactive) มากขึ้น

 

โดยมีสองฟีเจอร์ใหม่เป็นหัวหอกสำคัญคือ Magic Cue และ Camera Coach ซึ่งมีให้ใช้งานใน Pixel 10 Series ทั้ง 4 รุ่น

 

1. Magic Cue: ผู้ช่วยอัจฉริยะที่โผล่มาถูกที่ถูกเวลา! ฟีเจอร์นี้จะคาดเดาสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการและแสดงข้อมูลขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อกำลังจะโทรหาโรงแรมที่จองไว้ รายละเอียดการจองก็จะแสดงขึ้นมาทันที หรือเมื่อเพื่อนทักมาถามเรื่องนัดทานข้าวเย็น Magic Cue ก็จะดึงข้อมูลจากปฏิทินหรืออีเมลมาสร้างเป็นคำตอบให้เสร็จสรรพ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องสลับแอปไปมาให้วุ่นวาย

 

2. Camera Coach: เปลี่ยนมือใหม่ให้ถ่ายภาพได้อย่างมือโปร! ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่เสมือนโค้ชส่วนตัว คอยแนะนำการจัดองค์ประกอบภาพแบบเรียลไทม์ เช่น หากถ่ายอาหาร ก็จะแนะนำให้ถ่ายมุมท็อป หรือหากถ่ายวิว ก็จะเตือนไม่ให้ติดขอบหน้าต่างเข้ามาในเฟรม พร้อมใช้ Generative AI สร้างภาพตัวอย่างให้ดูก่อนถ่ายจริง

 

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูโรง AI 'Gemini' ในทุกอุปกรณ์

เจาะสเปกเด่น Pixel 10 Series

 

  • Pixel 10 (รุ่นเริ่มต้น): ครั้งนี้มาพร้อมสีสันใหม่สดใสอย่างสีน้ำเงินอินดิโกและสีเลมอนกราส ไฮไลท์สำคัญคือการใส่ เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ 5 เท่า มาให้ จากที่เคยเป็นฟีเจอร์เฉพาะของรุ่น Pro เท่านั้น แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือคุณภาพเซ็นเซอร์ของกล้องหลักจะด้อยกว่ารุ่น Pro เล็กน้อย

 

  • Pixel 10 Pro และ Pro XL: สองรุ่นเรือธงสำหรับมือโปร มาในโทนสีสุขุมกว่า ให้ RAM เยอะขึ้น และมีหน้าจอที่สว่างกว่า พร้อมฟีเจอร์เด็ดอย่าง Pro Res Zoom ที่ใช้ AI ช่วย "สร้าง" รายละเอียดที่หายไปขึ้นมาใหม่ ทำให้การซูมภาพระยะไกลคมชัดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เพื่อความโปร่งใส ภาพที่ผ่านฟีเจอร์นี้จะมีลายน้ำ AI กำกับไว้ และระบบถูกสอนมาไม่ให้ปรับแต่งใบหน้าของบุคคล เพื่อป้องกันการบิดเบือนภาพคนจริง

 

Google เปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูโรง AI 'Gemini' ในทุกอุปกรณ์

 

Pixel 10 Pro Fold: จอพับที่แกร่งกว่าเดิม

สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นที่ 3 ของ Google กลับมาพร้อมการอัปเกรดที่เน้น "ความทนทาน" เป็นพิเศษ โดยเป็นมือถือจอพับรุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่ได้มาตรฐาน กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 เทียบเท่าสมาร์ทโฟนเรือธงทั่วไป สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการ

 

นอกจากนี้ยังขยายขนาดหน้าจอด้านนอกให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มความจุแบตเตอรี่ และการันตีความทนทานของการพับหน้าจอได้นานถึง 10 ปี (เฉลี่ยวันละ 50 ครั้ง) เลยทีเดียว

 

หัวใจสำคัญของ Pixel 10 Series คือชิปประมวลผล Tensor G5 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Google หันไปจับมือกับ TSMC โรงงานผลิตชิปชั้นนำของโลก (แทนที่ Samsung)

 

ส่งผลให้ชิปเร็วขึ้นเฉลี่ย 34% และประมวลผล AI ได้ทรงพลังขึ้น 60% ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหา "เครื่องร้อน" ที่เคยเป็นจุดอ่อนในรุ่นก่อนๆ ได้

 

อีกหนึ่งข่าวดีคือการรองรับมาตรฐานการชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก Qi2 ทำให้ Pixel 10 ทุกรุ่นสามารถ "แปะ" ติดกับแท่นชาร์จและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

 

ที่สำคัญคือสามารถ ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม MagSafe ของฝั่ง Apple ที่มีอยู่แล้วในตลาดได้เลย

 

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68