DeepSeek ส่งโมเดลใหม่ V3.1 ลงสนาม ชูจุดเด่น ‘จำเก่ง-คุยฉลาดขึ้น’
DeepSeek สตาร์ทอัพดาวรุ่งจากจีน เปิดตัวโมเดล V3.1 อัปเกรดความสามารถให้ฉลาดและจำเก่งกว่าเดิม ตอกย้ำศักยภาพเทคโนโลยีแดนมังกรที่พร้อมท้าชนยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า DeepSeek สตาร์ทอัพดาวรุ่งด้านปัญญาประดิษฐ์จากเมืองหางโจว ประเทศจีน สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการ AI อีกครั้ง
ด้วยการประกาศเปิดตัวโมเดล AI V3.1 เวอร์ชันอัปเกรดใหม่ล่าสุด พร้อมให้ทดลองใช้งานแล้ว
การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงศักยภาพของเทคโนโลยีจีน แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณท้ารบโดยตรงไปยังยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความดุเดือด
จุดเด่นสำคัญของ V3.1 ที่ถูกชูขึ้นมาคือ "Context Window" ที่ยาวขึ้น
พูดง่ายๆ ก็คือมัน ‘จำเก่งขึ้น’ สามารถรับและประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อทำความเข้าใจบริบทได้ลึกซึ้งกว่าเดิม ทำให้การสนทนาต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ ไม่หลงลืมเรื่องที่คุยกันไปก่อนหน้า
แต่ถึงอย่างนั้น DeepSeek ยังคงอุบรายละเอียดทางเทคนิคเชิงลึกเอาไว้ และยังไม่มีการเปิดเผยเอกสารฉบับเต็มบนแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาอย่าง Hugging Face
การผงาดขึ้นมาของ DeepSeek ทั้งในแง่ความเร็วและความนิยม กำลังท้าทายบัลลังก์ของเจ้าตลาดเดิมจากสหรัฐฯ อย่าง OpenAI อย่างจัง
ทั้งยังเป็นบทพิสูจน์ว่าบริษัทเทคฯ จีนสามารถสร้าง AI ระดับโลกที่เทียบชั้นหรือแม้กระทั่งเหนือกว่าคู่แข่งได้ ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก
ก่อนหน้านี้ โมเดล R1 ของค่ายก็เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วเมื่อต้นปี หลังโชว์ผลคะแนนทดสอบมาตรฐาน (Benchmark) ที่ทุบสถิติ เอาชนะโมเดลจากฝั่งตะวันตกไปหลายตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ V3.1 ถูกปล่อยออกมาให้ได้ทดลองใช้ บรรดาผู้ติดตามและนักพัฒนาในแวดวง AI ต่างยังคงเฝ้ารอการมาถึงของ R2 ซึ่งเป็นโมเดลเรือธงรุ่นถัดไปที่สืบทอดความสำเร็จจาก R1
โดยสื่อท้องถิ่นในจีนรายงานว่า ความล่าช้าดังกล่าวมีสาเหตุมาจากความเคี่ยว ของ เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ผู้เป็น CEO และปัญหาขัดข้องทางเทคนิคบางประการที่พบในระหว่างการพัฒนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสู่ตลาด


