K.W. Metal Work เดินหน้า Agentic AI ยกระดับเกษตรอัจฉริยะ
K.W. Metal Work ใช้ Salesforce และ AI Agentic ยกระดับการจัดการข้อมูล–งานขาย เชื่อม ERP–Slack–Tableau ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และบริการ 24 ชม.
K.W. Metal Work ผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรในไทย กำลังเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลด้วยการนำเทคโนโลยีจาก Salesforce มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนของการทำงาน ไม่เพียงเพื่อจัดการข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขาย แต่ยังรวมถึงการสร้างระบบบริการอัตโนมัติที่ใช้ AI เป็นหัวใจหลัก โดยเครื่องมือที่บริษัทนำมาใช้งานครอบคลุมตั้งแต่ Data Cloud, MuleSoft, Sales Cloud, Slack, Tableau ไปจนถึงการเตรียมใช้งาน Agentforce เพื่อนำ AI Agent มาช่วยให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
บริษัทกำลังรวมศูนย์ข้อมูลการขายและการบริการเข้าด้วยกัน โดยใช้ Data Cloud และ MuleSoft เป็นโครงสร้างหลัก ข้อมูลด้านลูกค้า การสั่งซื้อ และสต็อกสินค้า ถูกเชื่อมโยงแบบเรียลไทม์ ทำให้ทีมงานเข้าถึงข้อมูลเดียวกันอย่างครบถ้วน ลดการทำงานซ้ำซ้อน และช่วยให้การตัดสินใจเกิดขึ้นรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการรวมข้อมูลนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาบริการอัตโนมัติผ่าน Agentforce ในอนาคต
AI Agent และบริการลูกค้าอัตโนมัติ
K.W. Metal Work วางแผนใช้ Agentforce เพื่อให้ AI Agent สามารถตอบคำถามลูกค้าเกษตรกรได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามสต็อกสินค้า การสั่งซื้อออนไลน์ หรือการแจ้งปัญหาในขั้นต้น ฟังก์ชันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลุ่มเกษตรกรที่มักเริ่มทำงานตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเป็นช่วงที่พนักงานบริการยังไม่เริ่มงาน การมี AI Agent คอยให้บริการจึงช่วยอุดช่องว่างและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ต่อเนื่องไร้รอยต่อ
Sales Cloud: การจัดการงานขายอย่างมีระบบ
ก่อนหน้านี้ พนักงานขายต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการตรวจสอบข้อมูลสต็อกจากโรงงาน แต่เมื่อมี Sales Cloud ระบบสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดให้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียว พนักงานขายและผู้บริหารเข้าถึงข้อมูลได้ทันที ลดเวลาการตัดสินใจลงอย่างมาก การบันทึกข้อมูลการขายทุกขั้นตอนยังช่วยให้ผู้บริหารติดตามผลงานแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องสอบถามรายบุคคล ผลลัพธ์คือการเติบโตของรายได้ที่มั่นคง โดยเฉพาะแบรนด์ PEGASUS ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% ต่อปี
Tableau และ Slack: การเชื่อมข้อมูลและการทำงานร่วมกัน
Tableau ถูกเชื่อมกับระบบ ERP เพื่อสร้างมุมมองเชิงลึกด้านยอดขาย การส่งสินค้า และปัญหาในสายการผลิต การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยให้ทีมงานสามารถคาดการณ์ความต้องการของตลาดได้แม่นยำขึ้น รวมถึงตรวจจับข้อบกพร่องในการผลิตและลดความเสียหายได้ถึง 60% ในขณะเดียวกัน Slack ถูกใช้เป็นศูนย์กลางการสื่อสารภายในองค์กร ฟีเจอร์ Slack Sales Elevate ทำให้ทีมงานดึงข้อมูลสำคัญเข้ามาในช่องทางการสื่อสารแบบทันที ช่วยให้การตอบสนองลูกค้าและการปรับกลยุทธ์ทำได้เร็วขึ้น ผลลัพธ์คือการลดการสูญเสียลูกค้าจาก 3% เหลือ 0% และเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าไว้ได้ถึง 100%
ก้าวต่อไปสู่ Agentic AI
ด้วยรากฐานที่สร้างขึ้นจากการรวมศูนย์ข้อมูลและระบบ AI ที่เริ่มเข้ามามีบทบาท K.W. Metal Work วางเป้าหมายต่อไปในการนำ Agentic AI มาใช้เพื่อเปลี่ยนโฉมธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรในไทย ให้ก้าวสู่การให้บริการแบบอัตโนมัติและอัจฉริยะยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า แต่ยังทำให้พนักงานมีเวลาลงพื้นที่ พบปะ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเกษตรกรได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทด้านอุตสาหกรรมเกษตรสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เช่น AI, การวิเคราะห์ข้อมูล และระบบอัตโนมัติ มาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเปิดทางไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต


