posttoday

มนุษย์เงินเดือนกุมขมับ! Microsoft เปิดโผอาชีพมั่นคง สวนกระแส AI

31 กรกฎาคม 2568

Microsoft  เปิดลิสต์อาชีพ "เสี่ยงมาก-เสี่ยงน้อย" ในยุค AI เผย "แรงงานฝีมือ" ผงาดขึ้นแท่นอาชีพมั่นคง สวนทาง "มนุษย์เงินเดือน"

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ที่ทำให้โลกการทำงานต้องจัดระเบียบใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม "มนุษย์เงินเดือน" หรือ พนักงานออฟฟิศ (White Collar)

 

ที่วันนี้ต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ เมื่อตำแหน่งงานที่เคยเชื่อว่ามั่นคง กำลังถูกท้าทายและมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน 

 

แต่ในขณะเดียวกัน วิกฤตนี้กลับสร้างโอกาสให้กลุ่ม "แรงงานฝีมือ" (Blue Collar) เฉิดฉายขึ้นมาเป็นดาวเด่นในฐานะเส้นทางอาชีพที่แข็งแกร่งและมั่นคงอย่างน่าจับตา ตามรายงานจากสำนักข่าว CNBC

 

ประเด็นนี้ถูกตอกย้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในรายงานฉบับล่าสุดของ Microsoft  ในหัวข้อ Occupational Implications of Generative AI

 

ซึ่งได้วิเคราะห์บทสนทนากว่า 2 แสนเคสระหว่างผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กับ Microsoft Bing Copilot ตลอด 9 เดือนของปี 2024

 

มนุษย์เงินเดือนกุมขมับ! Microsoft เปิดโผอาชีพมั่นคง สวนกระแส AI

 

ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นภาพที่น่าสนใจว่า ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียกใช้ AI เพื่อช่วยงานที่ต้องใช้ "ทักษะการค้นคว้าข้อมูล การเรียบเรียงเขียน และการสื่อสาร"

 

ซึ่งเป็นงานที่ AI สามารถทำหน้าที่เป็น "โค้ช" หรือ "ที่ปรึกษา" ส่วนตัวได้อย่างดีเยี่ยม

 

สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลโดยตรงให้อาชีพในกลุ่มที่ต้องใช้ทักษะดังกล่าวอย่าง ล่าม, นักแปล, นักประวัติศาสตร์, นักเขียน ไปจนถึงพนักงานขาย กลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะถูกเทคโนโลยี AI เข้ามาแทนที่

 

ในทางกลับกัน กลุ่มอาชีพที่ต้องอาศัยทักษะทางกายภาพ การลงมือปฏิบัติจริง และการทำงานกับเครื่องจักรหรือผู้คนแบบซึ่งๆ หน้า

 

เช่น พนักงานล้างจาน, หมอนวด, ช่างซ่อม หรือแม่บ้าน กลับแทบไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพา AI เลย จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ "ปลอดภัย" และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

 

ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มาจาก Microsoft เพียงแห่งเดียว แต่ยังสอดคล้องกับรายงานของ Gallup ที่ชี้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา

 

การใช้ AI ในกลุ่มพนักงานออฟฟิศพุ่งสูงขึ้นถึง 27% ขณะที่การใช้งานในกลุ่มพนักงานฝ่ายผลิตและแรงงานฝีมือกลับลดลงเล็กน้อย เหลือเพียง 9%

 

Ravin Jesuthasan ผู้เชี่ยวชาญด้านทิศทางการทำงานแห่งอนาคต ให้ทรรศนะไว้อย่างเฉียบคมว่า

 

"AI ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการทำงานของมนุษย์เงินเดือนไปอย่างสิ้นเชิง ผลตอบแทนจากทักษะเดิมๆ กำลังหดตัวลงอย่างรวดเร็ว นี่คือยุคที่ทุกคนต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งการเพิ่มทักษะ (upskill) และสร้างทักษะใหม่ (reskill) อย่างไม่มีทางเลี่ยง"

 

"ลองนึกภาพตามง่ายๆ ถ้าเราเป็นช่างประปา ยังอีกนานมากที่หุ่นยนต์จะมาแย่งงานเราได้ เพราะลักษณะหน้างานมันซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละบ้าน นี่คือเหตุผลที่อาชีพเหล่านี้ยังมั่นคง ในยุค AI"

 

มนุษย์เงินเดือนกุมขมับ! Microsoft เปิดโผอาชีพมั่นคง สวนกระแส AI

 

10 อาชีพเสี่ยงถูก AI แทนที่น้อยที่สุด

 

แล้วอาชีพไหนที่เรียกได้ว่าปลอดภัยหายห่วง? รายงานได้จัด 10 อันดับอาชีพที่เสี่ยงถูก AI แทนที่น้อยที่สุดไว้ดังนี้:

 

  1. เจ้าหน้าที่เจาะเลือด
  2. ผู้ช่วยพยาบาล
  3. พนักงานกำจัดวัตถุอันตราย
  4. ผู้ช่วยช่างทาสี, ช่างฉาบปูน
  5. สัปเหร่อ 
  6. พนักงานควบคุมเครื่องจักรในโรงงาน
  7. ทันตแพทย์ศัลยกรรมช่องปาก และหมอ Maxillo
  8. ช่างติดตั้งและซ่อมกระจกรถยนต์
  9. วิศวกรเดินเรือ
  10. ช่างซ่อมและเปลี่ยนยางรถยนต์

 

Ravin Jesuthasan กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลบภาพจำเก่าๆ ซึ่งมองว่างานช่างหรืองานใช้แรงงานเป็นงานที่ลำบาก

 

"ทุกวันนี้งาน Blue Collar ไม่ได้เป็นเพียงอาชีพที่มั่นคงและเป็นที่ต้องการของตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นเรื่อยๆ"

 

"Blue Collar ไม่ได้แค่ยกของหรือใช้แรงงาน แต่พวกเขากำลังควบคุมเครื่องจักรที่ซับซ้อนและมีมูลค่ามหาศาล ส่งผลให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีเยี่ยมและกลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่"

 

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของ Microsoft ศึกษาว่างานประเภทใดบ้างที่สามารถใช้ประโยชน์จาก AI แชทบอทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเสนอคะแนนความสามารถในการประยุกต์ใช้ AI (AI applicability score)

 

ซึ่งวัดความเชื่อมโยงระหว่างความสามารถของ AI และภาระงาน เพื่อชี้ให้เห็นว่า AI อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานไปอย่างไร ไม่ใช่การเข้ามาแทนที่หรือทำให้งานหายไป

 

"งานวิจัยของเรายังแสดงให้เห็นว่า AI สนับสนุนงานหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การเขียน และการสื่อสาร แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่า AI สามารถทำงานใดงานหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์"

 

"เมื่อมีการนำ AI มาใช้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจของ AI ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป" ดร.คิแรน ทอมลินสัน นักวิจัยอาวุโสของ Microsoft กล่าว 
 

ข่าวล่าสุด

ตรวจสอบ 5 วิธีย้ายโรงพยาบาล 'สิทธิประกันสังคม' วันนี้ - 31 มี.ค. 69