posttoday

ใช่จะดีไปหมด กรรมการเทนนิส AI สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง

21 กรกฎาคม 2568

AI ถูกนำมาใช้ตัดสินเทนนิสวิมเบิลดันแทนกรรมการจริง แม่นยำแต่ไม่ไร้ปัญหา เสียงวิจารณ์ดังขึ้น เมื่อเทคโนโลยีอาจไม่ตอบโจทย์สนามจริง

KEY

POINTS

  • การนำระบบ AI (ELC) มาใช้ตัดสินเทนนิสวิมเบิลดันสร้างปัญหาและความไม่พอใจ แม้จะถูกอ้างว่ามีความแม่นยำสูง
  • ผู้เล่นประสบปัญหาจากการตัดสินที่ผิดพลาดของ AI เช่น กรณีของ Emma Raducanu ที่เสียแต้มอย่างไม่เป็นธรรม และระบบทำงานได้ไม่ดีในสภาพแสงน้อย
  • เกิดเหตุการณ์ระบบล่มกลางคันระหว่างการแข่งขัน ทำให้ต้องหยุดเกมและเริ่มเล่นใหม่ สร้างความกังขาต่อความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี
  • ทั้งผู้เล่นและผู้ชมวิจารณ์ว่า AI ทำให้เกมขาดสีสันและบรรยากาศดั้งเดิม รวมถึงเกิดความกังวลเรื่องการแทนที่ตำแหน่งงานของกรรมการที่เป็นมนุษย์

การนำ AI มาใช้ในวงการกีฬาเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงและความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ บางส่วนเริ่มนำมาใช้งานสนับสนุนการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถนักกีฬา บ้างก็ทำหน้าที่เป็นนักบำบัดสำหรับดูแลสภาพจิตใจ หรือการนำมาใช้เป็นกรรมการตัดสินเพื่อให้ผลการแข่งแม่นยำแม้ในระดับรายละเอียดเพียงเล็กน้อย

 

แต่วันนี้เราจะดูเสียงวิพากย์วิจารณ์จากการนำ AI มาเป็นกรรมการเทนนิสในการแข่งขันจริง

 

ใช่จะดีไปหมด กรรมการเทนนิส AI สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง

 

AI กรรมการเทนนิส อีกระดับแห่งเทคโนโลยี

 

ปีนี้การแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน หนึ่งในการแข่งขันเทนนิสระดับโลกที่มีประวัติการแข่งยาวนานนับร้อยปี ได้เริ่มนำเทคโนโลยี Electronic Line Calling (ELC) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อตรวจจับโดยอัตโนมัติว่าแต่ละลูกที่ตีออกมาออกหรือไม่ โดยไม่ต้องให้มนุษย์มาช่วยตัดสินใจ

 

กลไกสำคัญของระบบ ELC คือ การใช้กล้องความเร็วจับภาพสูงหลายสิบตัวในการจับภาพ จากนั้นนำภาพที่ได้จากหลายมุมมาคำนวณหาตำแหน่งที่บอลกระทบในรูปแบบภาพ 3 มิติ เมื่อตรวจพบว่ามีการออกจะทำการส่งเสียงผ่านลำโพงภายในระยะเวลา 0.1 วินาที

 

จุดเด่นสำคัญของระบบนี้อยู่ที่ระดับความแม่นยำ ทางบริษัทออกมายืนยันว่ากล้องของพวกเขาที่ใช้ระบบ ELC มีอัตราการตัดสินคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 2.6 มิลลิเมตร สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วโดยไม่ต้องย้อนรีเพลย์ ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากกรรมการมนุษย์ อีกทั้งยังแก้ปัญหาอคติในการตัดสินได้อย่างสมบูรณ์

 

ในการแข่งขันวิมบิลดันปี 2025 นี้เป็นครั้งแรกของโลกที่นำระบบ ELC มาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่มีตำแหน่งกรรมการคอยกำกับดูแลผู้เล่นอีกต่อไป ด้วยระบบกล้องจับภาพความเร็วสูงที่ติดตั้งไว้ทั่วสนามมากถึง 450 ตัว พร้อมสรุปข้อมูลเชิงสถิติให้แก่ผู้ชมดูได้แบบเรียลไทม์

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้งานจริง ทั้งผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมกลับไม่ให้ผลตอบรับที่ดีนัก

 

ใช่จะดีไปหมด กรรมการเทนนิส AI สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง

 

เมื่อกรรมการ AI ไม่ได้ดีเสมอไป

 

ในขั้นตอนใช้งานจริงระหว่างการแข่งขันกลับพบข้อจำกัดและปัญหาจำนวนมาก ผู้เล่นหลายคนกังขาผลการตัดสินจาก AI เพราะทำให้พวกเขาผิดพลาดจนเสียคะแนน อย่าง Emma Raducanu จากอังกฤษ ก็ต้องเสียแต้มที่ควรจะได้ระหว่างการแข่ง เนื่องจาก ELC ตัดสินว่าลูกนั้นยังอยู่ ทั้งที่เมื่อดูจากรีเพลย์ภายหลังลูกนั้นต้องถูกนับว่าออก

 

ประเด็นต่อมาคือ ผู้เล่น Ben Shelton จากสหรัฐฯ ที่ถูกขอให้เร่งจบเกมให้เร็วขึ้น เนื่องจาก AI ทำงานได้ดีภายใต้แสงอาทิตย์จ้า เมื่อเข้าสู่ช่วงเย็นที่ท้องฟ้าเริ่มสลัวระบบตัดสินจะหยุดการทำงาน กลายเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้กลับไม่ได้สร้างความสะดวก แต่สร้างความลำบากให้ผู้เข้าแข่งขันแทน

 

อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ท่ามกลางเกมอันดุเดือดผู้เล่นหลายคนไม่ได้ยินเสียงลำโพงอัตโนมัติที่ทำหน้าที่กรรมการ จนสร้างความสับสนระหว่างการแข่งขัน นอกจากนี้ผู้เล่นที่บกพร่องทางการได้ยินยังออกมาแสดงความกังวลว่า การไม่มีกรรมการทำให้เธอไม่รู้เลยว่าลูกที่เล่นได้คะแนนหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการแจ้งเตือนรูปแบบอื่นให้รับรู้

 

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญเกิดขึ้นในคู่ของ Sonay Kartal กับ Anastasia Pavlyuchenkova ที่การแข่งขันต้องยุติลงกลางคันและถูกบอกให้เริ่มเล่นแต้มนั้นใหม่ เนื่องจากระบบ ELC เกิดล่มระหว่างการใช้งานจนไม่สามารถตามลูกได้ แม้จะถูกอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของมนุษย์จากการเผลอไปปิดระบบ แต่ก็สร้างข้อกังขาเป็นวงกว้าง

 

ผู้ได้รับผลกระทบไม่ได้มีเพียงผู้เล่นแม้แต่คนดูก็รู้สึกไม่ชิน ผู้ชมบางส่วนให้ความเห็นว่าการแข่งขันขาดสีสัน บรรยากาศ และความเร้าใจแบบเดิมๆ ขาดเสน่ห์ในการแข่งขันแบบที่พวกเขารู้จักและคุ้นเคยมาชั่วชีวิต อีกทั้งเสียงที่ออกจากลำโพงอัตโนมัติยังเบาเกิน จนให้ความรู้สึกว่างเปล่าในการเชียร์

 

สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขเป็นการด่วน

 

ข้อกังขาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหู

 

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการนำ AI มาปรับใช้ในการตัดสินผล แน่นอนว่าต้องเป็นบรรดากรรมการภาคสนามที่ถูกผลักไปเป็นผู้ช่วยตัดสิน คอยรับหน้าที่ทำงานหลังบ้าน สนับสนุนการตัดสินเมื่อเกิดการขัดข้องหรือระบบทำงานผิดพลาด เป็นการถูกแทนที่ตำแหน่งงานที่มีอยู่เดิมอย่างชัดเจน

 

อันดับถัดมาคือ การขัดข้องหรือล้มเหลวของระบบที่เกิดขึ้น ในการแข่งรอบควอเตอร์ไฟนอลมีการประกาศแต้มเสียที่ผิดพลาด หรือการหยุดทำงานไปเป็นเวลาหลายนาทีในแมชต์สำคัญ ส่งผลให้การตัดสินคลาดเคลื่อนจนกรรมการมนุษย์ต้องตัดสินให้เล่นแต้มนั้นใหม่อีกครั้ง

 

สิ่งนี้ส่งผลกระทบทางความเชื่อมั่นต่อการตัดสินหรือการแข่งขันที่ใช้ AI ในระยะยาว เพราะการขัดข้องที่ไม่สมควรเกิดอาจทำให้หลายคนพลาดจังหวะและช่วงเวลาสำคัญระหว่างการแข่ง อีกทั้งนักกีฬาหลายคนยังออกมาให้ความเห็นถึงข้อผิดพลาดในการตัดสินของ AI จนไม่สามารถเชื่อผลตัดสินได้เต็มร้อย

 

แต่แม้จะถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักหน่วงแต่ทางผู้จัดงานระบุว่า ระบบ ELC ประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกทั้งยังมีบางส่วนเรียกร้องการตัดสินด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำกว่าคนจริง พวกเขาจึงน้อมรับข้อเสนอและจะนำไปปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากับรูปแบบสถานการณ์จริงต่อไป

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามยังมีผู้ชมบางส่วนแสดงความเห็นคัดค้านการนำ AI มาใช้งานเต็มรูปแบบ เพราะเป็นการแย่งงานกรรมการ รวมถึงอาจเกิดเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้า จึงเริ่มมีการเรียกร้องให้มีกรรมการมนุษย์กลับมารับหน้าที่ แล้วนำ AI มาปรับให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความแม่นยำและขีดความสามารถแทน

 

คงต้องรอดูต่อไปว่าทิศทางในการตัดสินกีฬาเทนนิสจะเปลี่ยนแปลงเป็นแบบใด

 

 

 

ที่มา

 

https://techcrunch.com/2025/07/07/tennis-players-criticize-ai-technology-used-by-wimbledon/

 

https://techxplore.com/news/2025-07-line-wimbledon-ai-jobs.html

 

https://apnews.com/article/wimbledon-line-call-malfunction-9895d88a60c6bf96bdac07512ab0c7fc?

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา