posttoday

มิติใหม่แห่ง AI การแกะเนื้อหาเอกสารที่ถูกเผาเมื่อ 2,000 ปีก่อน

17 กรกฎาคม 2568

AI ช่วยถอดเนื้อหาม้วนเอกสารโบราณอายุ 2,000 ปีที่ถูกเผา ฟื้นคืนเสียงจากอดีตโดยไม่แตะต้องต้นฉบับ เปิดประตูสู่ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยถูกค้นพบ

KEY

POINTS

  • นักวิจัยใช้ AI ร่วมกับการสแกนความละเอียดสูงเพื่อถอดรหัสเนื้อหาจากม้วนเอกสารโบราณที่ถูกเผาจากเหตุภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 2,000 ปีก่อน
  • เทคโนโลยี "virtual unwrapping" สามารถตรวจจับหมึกคาร์บอนและสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ทำให้แกะข้อความได้โดยไม่ต้องคลี่หรือสัมผัสเอกสารโดยตรง ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียหาย
  • การทดสอบกับเอกสาร PHerc. 172 เผยให้เห็นเนื้อหาภาษากรีกเกี่ยวกับดนตรี อาหาร และความสุข ซึ่งคาดว่าเป็นผลงานของนักปรัชญา Philodemus
  • ความสำเร็จนี้เป็นประตูสู่การเข้าถึงเอกสารโบราณอีกหลายร้อยม้วนที่ไม่เคยถูกอ่านมาก่อน ซึ่งอาจมอบความรู้ใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโรมัน

ที่ผ่านมาเรามีเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้มากมาย สาเหตุทั้งจากการสูญหาย ถูกทำลาย ไปจนไม่รู้คุณค่า ทำให้เอกสารทางวิชาการหลายฉบับไม่ได้รับการเข้าถึง แต่ที่ร้ายแรงสุดคงเป็นเอกสารที่ได้รับความเสียหาย ที่แม้จะเก็บกู้กลับมาได้สำเร็จ ก็ไม่สามารถตีความและถอดเนื้อหาออกมาอย่างน่าเสียดาย

 

แต่จะเป็นอย่างไรถ้ามี AI ที่สามารถถอดเนื้อหาจากเอกสารที่ถูกเผาเมื่อ 2,000 ปีที่แล้วได้

 

มิติใหม่แห่ง AI การแกะเนื้อหาเอกสารที่ถูกเผาเมื่อ 2,000 ปีก่อน

 

AI ที่ช่วยแกะเอกสารเมื่อ 2,000 ปีก่อน

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก University of Würzburg ในเยอรมนี ร่วมกับทีมวิจัยแห่ง Vesuvius Challenge กับการคิดค้นระบบสแกนภาพความละเอียดสูง ที่อาศัยการตรวจจับหมึกผ่านคาร์บอน ช่วยให้สามารถแกะเนื้อหาของจดหมายเมื่อ 2,000 ปีก่อนที่ถูกเผาและฝังกลบไว้ในเถ้าภูเขาไฟได้สำเร็จ

 

เอกสารที่นำมาถอดความในคราวนี้ชื่อ PHerc. 172 หนึ่งในเอกสารจำนวนหายร้อยฉบับที่ได้รับการขุดขึ้นมาจากบริเวณเมืองโบราณ Herculaneum บริเวณอิตาลี ในศตวรรษที่ 18 เป็นเอกสารเก่าแก่ที่ถูกเขียนขึ้นมาสมัยโรมัน ในตำแหน่งที่คาดว่าเป็นบ้านของพ่อตาจูเลียส ซีซาร์ ซึ่งคาดว่าถูกกลบฝังและได้รับความเสียหายจากเหตุภูเขาไฟระเบิดตั้งแต่นั้นมา

 

ขั้นตอนการใช้งานระบบนี้เริ่มจากการเอ็กซ์เรย์เพื่อเก็บรายละเอียดของเนื้อหาออกมาให้ครบถ้วน จากนั้นจึงทำการจำลองเอกสารขึ้นมาในรูปแบบ 3 มิติเชิงดิจิทัล แล้วนำ AI ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นตรวจจับสัญญาณความแตกต่างคาร์บอนที่ได้จากข้อมูลภาพสแกน เพื่อนำมาค้นหาความแตกต่างก่อนประมวลผลเป็นเนื้อหา

 

ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแกะเนื้อหาออกมาถูกเรียกว่า virtual unwrapping โดยอาศัยการวิเคราะห์ผ่าน คาร์บอนที่อยู่บนหยดหมึก เพื่อค้นหาระดับความแตกต่างของพื้นผิวในแต่ละส่วน ร่วมกับการจำลองข้อมูลเสมือนจริง จึงช่วยให้สามารถทยอยแกะเนื้อหาที่หลงเหลือไว้ได้ จนเริ่มถอดเนื้อหาออกมาได้บางส่วน

 

แม้จะเป็นเนื้อหาไม่มากนักแต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์

 

มิติใหม่แห่ง AI การแกะเนื้อหาเอกสารที่ถูกเผาเมื่อ 2,000 ปีก่อน

 

ความสำคัญของการถอดเนื้อหาด้วย AI

 

ที่ผ่านมาการถอดเนื้อหาจากเอกสารที่ได้รับจากเมืองโบราณ Herculaneum ยากจนเกือบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเอกสารและม้วนกระดาษทั้งหมดได้รับความเสียหายรุนแรง ทั้งจากภัยพิบัติ สภาพแวดล้อม และกาลเวลา แม้แต่การเก็บรักษาเอาไว้ยังเป็นเรื่องยากที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง

 

ปัญหาสำคัญของเอกสารเหล่านี้คือ การอ่านจำเป็นคลี่ม้วนกระดาษออก แต่ในวินาทีที่พยายามทำม้วนกระดาษจะหลุดเป็นชิ้นจนไม่สามารถรักษาสภาพไว้ได้อีก ครั้นจะนำสารเคมีมาใช้แก้ปัญหา ก็มีความเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อเนื้อหาและกระดาษจนอาจสร้างความเสียหายจนเนื้อหาสูญหายถาวรได้เช่นกัน

 

จุดเด่นสำคัญของกรรมวิธีแกะเนื้อหาด้วย AI นี้คือ ไม่จำเป็นต้องคลี่หรือแตะต้องม้วนเอกสารโดยตรง อาศัยเพียงการสแกนเก็บข้อมูลจากภายนอก ช่วยให้ม้วนกระดาษเอกสารไม่ได้รับความเสียหายจากการพยายามถอดความ เป็นประโยชน์ในขั้นตอนจัดเก็บดูแลเอกสารทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง

 

ด้วยเทคโนโลยี AI นี้เองช่วยให้เราสามารถเข้าถึงและแกะเนื้อหาที่อยู่ในม้วนเอกสารนับร้อยได้อีกมาก เนื้อหาเหล่านี้เป็นส่วนที่ไม่เคยถูกถอดความออกมาก่อนเลยในหน้าประวัติศาสตร์ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราอาจได้รู้และเข้าใจเหตุการณ์ ศิลปะ วัฒนธรรม ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ไปจนสังคมโรมันยุคนั้น

 

ในการทดสอบครั้งล่าสุดโมเดล AI ทยอยแกะตัวอักษรจากเนื้อหาออกมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถถอดเนื้อหาภาษากรีกที่ใช้ในการบันทึกภายในม้วน สามารถอ่านชื่อหนังสือและผู้เขียน พร้อมทยอยถอดความได้ว่า เอกสาร PHerc. 172 มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี อาหาร และความสุข โดยคาดว่าเป็นการบันทึกของ Philodemus นักปรัชญาชาวโรมัน

 

นี่จึงอาจเป็นก้าวแรกที่จะช่วยให้เราไขปริศนาและเข้าใจประวัติศาสตร์โรมันเพิ่มเติมในอนาคต

 

 

 

สำหรับบางท่านอาจไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นนักเนื่องจากเป็นการไขปริศนาจากประวัติศาสตร์โลกตะวันตกเป็นหลัก แต่ในอนาคตหากเทคโนโลยี AI นี้ได้รับการพัฒนา เราอาจนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการถอดความบนแผ่นโลหะ จารึกศิลา หนังสัตว์ หรือแม้แต่ไม้ไผ่ ที่ได้รับความเสียหายและเสื่อมสภาพ พร้อมฟื้นฟูเนื้อหาที่อยู่ภายในได้อีกครั้ง

 

ในทางหนี่งนี่ถือเป็นการรื้อฟื้นและชุบชีวิตมรดกตกทอดจากอดีตให้กลับมาในยุคปัจจุบันอีกครั้ง

 

 

 

ที่มา

 

https://interestingengineering.com/science/herculaneum-scroll-deciphered

 

https://www.theguardian.com/science/2025/feb/05/ai-helps-researchers-read-ancient-scroll-burned-to-a-crisp-in-vesuvius-eruption

 

https://scrollprize.substack.com/p/first-letters-found-in-new-scroll

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"