Apple ปรับทัพจัดซื้อแร่หายากนอกแดนมังกร หลังเพนตากอนประกาศหนุน

 

ตามรายงานจากสำนักข่าว Bloomberg Apple ประกาศบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ ทุ่มเงินกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดซื้อแร่หายาก (Rare Earths) จาก MP Materials Corp. ผู้ผลิตแร่หายากเพียงรายเดียวในสหรัฐอเมริกา

 

ซึ่งเพิ่งได้รับแรงหนุนทางการเงินจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ “เพนตากอน” ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Apple ในการ ลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีน

 

จากแถลงการณ์ของผู้ผลิต iPhone เมื่อวันอังคาร บริษัททั้งสองจะผนึกกำลังสร้าง โรงงานแห่งใหม่ในรัฐเท็กซัส พร้อมด้วยสายการผลิต แม่เหล็กนีโอไดเมียม (neodymium magnet) ที่ออกแบบมาเพื่อผลิตภัณฑ์ของ Apple โดยเฉพาะ 

 

การลงทุนครั้งนี้ Apple ยืนยันว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะ ลงทุนในสหรัฐอเมริกามากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของ MP Materials ในตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแรงถึง 18% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ขณะที่ราคาหุ้นของ Apple ขยับขึ้น 1% 

 

“แร่หายาก” ตัวแปรใหญ่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

 

การพึ่งพาจีนในด้าน แม่เหล็กถาวร ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับสินค้าเทคโนโลยีผู้บริโภค ยานยนต์ กังหันลม ไปจนถึงเครื่องบินขับไล่ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

 

หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีกับจีนสูงถึง 145% ทางการปักกิ่งจึงได้ตอบโต้ด้วยการระงับการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญดังกล่าว 

 

“แร่หายาก (Rare Earths) เป็นวัสดุที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง และความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานสำหรับวัสดุสำคัญเหล่านี้ในสหรัฐอเมริกา” ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple กล่าวในแถลงการณ์

 

Apple ระบุเพิ่มเติมว่า การเพิ่มกำลังการผลิตนี้จะสนับสนุนการสร้างงานใหม่ๆ นับสิบตำแหน่ง ทั้งในสายการผลิตและการวิจัยและพัฒนา

 

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังจะร่วมมือกันจัดตั้งสายการ รีไซเคิลแร่หายากที่เหมืองของ MP Materials  และพัฒนานวัตกรรมวัสดุแม่เหล็กและเทคโนโลยีกระบวนการผลิตใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแม่เหล็ก

 

ซึ่งจะทำให้ MP Materials สามารถนำวัตถุดิบจากแร่หายากที่ผ่านการรีไซเคิลกลับมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้

 

เจมส์ ลิทินสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MP Materials กล่าวในแถลงการณ์แยกต่างหากว่า “ความร่วมมือครั้งนี้จะเสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน และตอกย้ำศักยภาพทางอุตสาหกรรมของอเมริกาในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง”

 

ภายใต้กลไกนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะจ่ายส่วนต่างให้กับ MP Materials หากราคาตลาดของแร่หายากสองชนิดที่ได้รับความนิยมที่สุด (นีโอไดเมียมและเพรซีโอดิเมียม หรือ NdPr) ต่ำกว่าราคาประกันที่ 110 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม

 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน MP Materials เป็นผู้ดำเนินกิจการเหมืองแร่ Rare Earths เพียงแห่งเดียวในสหรัฐฯ และคาดว่าการจัดส่งแม่เหล็กจากโรงงานในรัฐเท็กซัส จะเริ่มขึ้นในปี 2027 และจะค่อยๆ เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปกรณ์ของ Apple หลายร้อยล้านชิ้นต่อไป

 

 

ทั่วโลกเร่งหาแร่หายาก หวังพึ่งพาตนเอง

 

ผลกระทบจากการที่จีนจำกัดการส่งออกได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วห่วงโซ่อุปทานโลก บริษัทอย่าง Ford Motor Co. และ Suzuki Motor Corp. จำเป็นต้องหยุดสายการผลิตบางส่วน 

 

ขณะที่ อีลอน มัสก์ เคยกล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหุ่นยนต์ของเขา ทำให้รัฐบาลทั่วโลกต่างเร่งหาแหล่งซัพพลายเออร์นอกประเทศจีน

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณว่าสหรัฐฯ และจีนกำลังเริ่มปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในการเจรจาการค้า ณ กรุงเจนีวาและลอนดอนเมื่อสองเดือนก่อนหน้า 

 

โดยจีนตกลงที่จะกลับมาส่งออกแร่หายากอีกครั้ง (ยอดส่งออกพุ่งสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน) ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ได้ยกเลิกข้อจำกัดบางประการในการส่งออกเทคโนโลยีไปยังประเทศจีน ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์บางส่วนจาก Nvidia และ Advanced Micro Devices 

 

ถึงกระนั้น ในความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อตอบโต้การที่จีนใช้แร่หายากเป็นเครื่องมือต่อรองทางภูมิรัฐศาสตร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพนตากอนได้เข้าถือหุ้นมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ ใน MP Materials เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอุปทานแม่เหล็กที่สำคัญต่อการทหารและการใช้งานอื่นๆ 

 

ข้อตกลงดังกล่าวยังมาพร้อมกับการสนับสนุนทางการเงินอีก 1 พันล้านดอลลาร์ จาก JPMorgan Chase & Co. และ Goldman Sachs Group Inc. เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่