หุ่นยนต์บังคับผ่านแว่น VR เพิ่มความเร็วประกอบรถบรรทุก 50%
หุ่นยนต์ VR จาก Extend Robotics ช่วยประกอบรถบรรทุกอย่างแม่นยำ ลดเวลา เพิ่มความปลอดภัย โดยไม่มาแย่งงานแต่ช่วยเสริมกำลังการผลิต
หุ่นยนต์ จัดเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สร้างความกังวลให้แก่ผู้คนก่อนการมาถึงของ AI กับความไม่สบายใจว่าหุ่นยนต์เหล่านี้อาจเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานทีเราทำ จนอาจนำไปสู่ทัศนตติเชิงลบและความรู้สึกต่อต้านจากหลายท่าน แต่อันที่จริงหุ่นยนต์ก็เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาสนับสนุนช่วยเหลือเช่นกัน
หนึ่งในนั้นคือหุ่นยนต์ที่บังคับผ่าน VR และช่วยให้อัตราการผลิตรถบรรทุกเพิ่มถึง 50%
หุ่นยนต์ VR สนับสนุนการประกอบรถบรรทุก
ผลงานนี้เป็นของบริษัท Extend Robotics ในลอนดอน สหราชอาณาจักร ที่คิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้ผู้ใช้งานบังคับจากระยะไกล ออกมาเป็นหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ที่ควบคุมผ่านระบบ VR ที่ช่วยเพิ่มความเร็วการประกอบรถบรรทุกมากถึง 50%
ตัวหุ่นอาศัยการขับเคลื่อนผ่านการบังคับของพนักงานภายในโรงงาน จากอุปกรณ์ VR Headset ร่วมกับ ตัวจับการเคลื่อนไหว ช่วยผู้ใช้งานบังคับควบคุมหุ่นยนต์ให้ขยับตามร่างกาย พร้อมป้อนข้อมูลการหยิบจับ เคลื่อนย้าย และลำเลียงวัตถุผ่านสายผ่านด้วยระบบ AI เพื่อให้ตัวหุ่นเคลื่อนไหวได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เมื่อเริ่มต้นการใช้งานกล้องที่ติดตั้งไว้กับตัวหุ่นจะแสดงภาพออกมาเป็นรูปแบบ 3 มิติ ช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นวัตถุเป้าหมายและสภาพแวดล้อมได้ชัดเจนเหมือนอยู่ตรงหน้า เช่นเดียวกับมือของหุ่นยนต์ที่ทำการควบคุมที่สามารถเคลื่อนไหวได้ลื่นไหล สามารถขยับหรือหยิบจับวัตถุได้อย่างราบรื่น
ในขั้นตอนการใช้งานร่วมกับบริษัท Leyland trucks ในสหราชอาณาจักรพบว่า หุ่นยนต์สามารถใช้งานในการหยิบจับ ติดตั้ง และประกอบชิ้นส่วนภายในโรงงานผลิตรถบรรทุกของบริษัทได้อย่างราบรื่น ด้วยคุณสมบัติการควบคุมที่ไม่แตกต่างไปจากมือจริง จึงสามารปฏิบัติงานที่มีขั้นตอนซับซ้อนอย่างไร้ที่ติ
หากสามารถนำมาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ทางบริษัทคาดว่าอาจช่วยเพิ่มอัตราการผลิตรถบรรทุกจาก 60 เป็น 100 คัน/วัน เลยทีเดียว
ประโยชน์ของหุ่นยนต์ VR สู่การทำงานที่รวดเร็วปลอดภัย
จริงอยูในทางหนึ่งหุ่นยนต์ของ Extend Robotics อาจไม่หวือหวา เมื่อเทียบกับบริษัทหุ่นยนต์หลายแห่งที่เริ่มพัฒนาหุ่นยนต์ Humanoid ที่มีขีดความสามารถสูงในหลายด้าน บางรุ่นใช้ AI ช่วยให้ขับเคลื่อนและปฏิบัติงานอัตโนมัติพร้อมรองรับงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การวิ่ง ชกมวย ไปจนเตะฟุตบอล
อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์ส่วนใหญ่รองรับงานทั่วไปที่มีรูปแบบการทำงานตายตัว เช่น งานบ้าน หรือ จัดการคลังสินค้า ซึ่งมีรูปแบบเรียบง่ายไม่ต้องอาศัยความรู้ความชำนาญมากนัก แตกต่างจากโรงงานอุตสาหกรรมเฉพาะทางบางประเภท ที่ยังต้องอาศัยฝีมือของแรงงานทักษะสูง
ในกรณีโรงงานประกอบรถบรรทุก Leyland trucks หนึ่งในขั้นตอนที่ประสบปัญหาคือการติดตั้ง Master Service Disconnect (MSD) ที่ต้องรับมือระบบไฟฟ้าแรงสูง ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความชำนาญ เป็นขั้นตอนอันตรายที่จำเป็นต้องได้รับการเฝ้าระวังและสวมชุดป้องกันอย่างเคร่งครัด ถึงแบบนั้นผู้ปฏิบัติงานก็ยังมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
แต่เมื่อนำหุ่นยนต์ VR มาใช้ในกระบวนการผลิต ตัวหุ่นรองรับและจำลองการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานออกมาได้อย่างราบรื่น สามารถจับ ย้าย และติดตั้งชิ้นส่วนได้แทบไม่ต่างจากการปฏิบัติงานด้วยมือตามปกติ สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย แม้ผู้ใช้งานจะไม่เคยมีประสบการณ์กับอุปกรณ์ VR มาก่อนก็ตาม
การเปลี่ยนมาใช้งานหุ่นยนต์ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติงานลงมาก รองรับงานหนักช่วยลดภาระของผู้ปฏิบัติงานในระบบให้เบาแรงลง อีกทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาทำงาน จากเดิมที่ขั้นตอนการสวมชุดป้องกันต้องกินเวลาราว 20 นาที/คน รวมถึงมาตรการความปลอดภัยมากมาย แต่หุ่นยนต์ช่วยให้พร้อมทำงานได้ทันที
นั่นทำให้ทางบริษัทคาดว่า การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้งานจะช่วยเพิ่มความเร็วการผลิตเป็นอย่างมาก
จริงอยู่หุ่นยนต์บังคับ VR นี้ยังอยู่ในช่วงระหว่างการพัฒนายังไม่ได้พัฒนาออกมาใช้งานจริง แต่ทางทีมวิจัยตั้งเป้าว่าจะพัฒนาให้นำหุ่นยนต์มาใช้ในขั้นตอนประกอบชิ้นส่วนและพ่นสีเพิ่มเติม นี่จึงอาจเป็นทางออกของการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้งาน ไม่ใช่การมาแทนที่แต่ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้แก่แรงงานมากยิ่งขึ้น
ที่มา
https://www.extendrobotics.com/post/exciting-news-new-collaboration
https://www.youtube.com/watch?v=y8ieFnOv5uc&t=4s&ab_channel=ExtendRobotics