หุ่นยนต์สุนัขของจีน สู่การดับเพลิงและดูแลซ่อมแซมโบราณสถาน
จีนเดินหน้าพัฒนาหุ่นยนต์สุนัข ทั้งในภารกิจดับเพลิงเสี่ยงภัยและตรวจสอบโบราณสถานด้วย AI พร้อมระบบสแกน 3 มิติความละเอียดสูง
จีนจัดเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความตื่นตัวและก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาคการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม, บริการจัดส่งพัสดุ ไปจนการรักษาความปลอดภัย ถูกนำมาใช้งานในหลายภาคส่วนทั้งยังมีแนวโน้มจะขยายขอบเขตให้กว้างขวางมากขึ้นในอนาคต
ล่าสุดเริ่มมีการพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขสำหรับดับเพลิงและดูแลโบราณสถานโดยเฉพาะ
หุ่นยนต์สี่ขาดับเพลิง พร้อมฉีดน้ำไกลถึง 60 เมตร
ผลงานนี้เป็นของบริษัท Unitree ในประเทศจีน กับการเปิดตัวหุ่นยนต์กู้ภัยสี่ขารูปทรงคล้ายสุนัข ที่ได้รับการออกแบบสำหรับใช้ในภารกิจดับเพลิง กู้ภัย และช่วยเหลือฉุกเฉินโดยเฉพาะ พร้อมระบบฉีดน้ำที่มีระยะทำการสูงสุดถึง 60 เมตร ที่มีระดับแรงดันสูงถึง 40 ลิตร/วินาที
ตัวหุ่นได้รับการออกแบบให้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ ข้อต่อได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากรุ่นเก่าที่ 170% ช่วยให้มีความคล่องตัวสูง สามารถปีนบันไดหรือก้าวข้ามสิ่งกีดขวางภายในพื้นที่ได้สูงถึง 40 เซนติเมตร พร้อมรองรับการทำงานทั้งในสภาพแวดล้อมอันตราย ละเอียดอ่อน และความร้อนสูง
ตัวหุ่นได้รับการติดตั้งกล้องที่มีระบบถ่ายทอดภาพจากระยะไกลร่วมกับระบบบังคับไร้สาย ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถบังคับตัวหุ่นจากระยะไกลโดยไม่ต้องเข้าสู่พื้นที่อันตราย สามารถเก็บภาพความคมชัดสูง ช่วยให้สามารถตัดสินใจรับมือสถานการณ์ที่เกิดได้แม่นยำ ทั้งยังมีระบบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใน 1 วินาที จึงสามารถปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก
อีกหนึ่งจุดสำคัญคือระบบฉีดสารดับเพลิงประสิทธิภาพสูงระยะทำการสูงสุด 60 เมตร พร้อมแรงดันในระดับ 40 ลิตร/วินาที รองรับการฉีดทั้งน้ำและโฟมสำหรับดับไฟ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่นเพิ่มเติม เช่น เครื่องเป่าลมพิเศษสำหรับรับมือไฟป่า ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและยับยั้งการลามของไฟอย่างมีประสิทธิภาพ
ในขั้นตอนการฝึกซ้อมตัวหุ่นรองรับภารกิจดับไฟอย่างดีเยี่ยม และตั้งเป้าจะนำไปใช้งานในภารกิจจริงต่อไป
Daystar Bot GS หุ่นยนต์สี่ขาสำหรับดูแลโบราณสถาน
ผลงานนี้เป็นของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง Lenovo กับการคิดค้นพัฒนา Daystar Bot GS หุ่นยนต์รูปทรงสุนัข 6 ขาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยคุณสมบัติเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวและตรวจจับวัตถุแบบเรียลไทม์ สู่การพัฒนาเพื่อใช้ในการอนุรักษ์โบราณสถานและมรดกทางวัฒนธรรมของจีน
จุดเด่นสำคัญของตัวหุ่นคือ ระบบสแกน 3 มิติอัจฉริยะ เรดาร์ และ LiDAR เซ็นเซอร์ ที่อาศัยการตรวจจับจากการสะท้อนของแสงเลเซอร์ เพื่อใช้ในการสร้างแบบจำลองทางดิจิทัลของวัตถุที่ตรวจสอบผ่านกล้องได้อย่างแม่นยำ สามารถมองเห็นรายละเอียดในระดับมิลลิเมตรโดยไม่ต้องมีการสัมผัสโดยตรง ซึ่งมีส่วนช่วยทั้งในการตรวจจับภาพและการเคลื่อนไหว
ข้อมูลของสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศที่จำลองขึ้นมาภายในเวลาราว 2 ชั่วโมง จากนั้นจะถูกนำไปประมวลผลผ่าน AI แบบเรียลไทม์ ช่วยตรวจจับสภาพพื้นผิวและสิ่งกีดขวาง แล้วนำมาใช้ในการประเมินรูปแบบการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่ตรวจพบภายในพื้นที่ได้เองโดยอัตโนมัติ
ข้อมูลที่ได้รับในฐานะภาพสแกน 3 มิติยังถูกนำไปประมวลผลด้วยอัลกอริทึมการเรียนรู้เชิงลึก ระบบตรวจจับอื่นๆ พร้อมข้อมูลที่บันทึกไว้ในอดีต ช่วยให้ตัวหุ่นสามารถนำระบบ AI มาใช้ในการสแกนความเปลี่ยนแปลงทางของภาพที่บันทึก เพื่อระบุความเปลี่ยนแปลงที่เกิดตั้งแต่ในระดับลวดลาย พื้นผิว งานแกะสลัก ไปจนชั้นสีด้วยความแม่นยำระดับมิลลิเมตร
นี่เป็นเหตุผลให้หุ่นยนต์สุนัข Daystar Bot GS ถูกนำไปใช้ในโครงการ AI Smart Pagoda 2.0 ถูกนำไปใช้ในการดูแลรักษาเจดีย์วัดฝอกง มลฑลซานซี ในประเทศจีน หนึ่งในโบราณสถานสำคัญขนาด 9 ชั้นและได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยยูเนสโก ช่วยให้ตรวจสอบความเสียหายแบบเรียลไทม์ และเป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์ต่อไปในอนาคต
นี่จึงถือเป็นหุ่นยนต์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการดูแลรักษาโบราณสถานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในประเทศจีน ที่มีส่วนช่วยทดแทนงานในพื้นที่อันตรายอย่างการดับเพลิงกู้ภัย ไปจนการทำงานละเอียดอ่อนที่ยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่าของคนเรา และในอนาคตเราคงได้เห็นหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเหลือสาขาอาชีพอื่นอีกมาก
ที่มา
https://interestingengineering.com/innovation/chinas-firefighting-robot-dogs-rescue-testing
https://ifdesign.com/en/winner-ranking/project/lenovo-daystar-bot-gs/642769


