การป้องกันยุคใหม่จาก AI เพื่อรับมือการแฮกที่มีต้นทุนเพียง 10 บาท

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ นับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมหลายด้าน ทั้งในส่วนนวัตกรรม วิเคราะห์ข้อมูล ไปจนการตลาดช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจในหลายด้าน แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาให้แก่ภาคธุรกิจได้ไม่แพ้กัน เมื่อ AI ถูกนำไปใช้ในการปลอมแปลงและการโจมตีทางไซเบอร์

 

การนำ AI มาใช้ของแฮกเกอร์มีอยู่หลายรูปแบบ ตั้งแต่การสร้างอีเมลฟิชิ่งอย่างแนบเนียนเพื่อหลอกข้อมูลหรือเข้าสู่ระบบ, สร้าง Deepfake สมจริงในการปลอมตัวเป็นผู้บริหาร แต่ที่รุนแรงที่สุดคือใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ต้นทุนการโจมตีไซเบอร์ในแต่ละครั้งอาจลดลงเหลือเพียงครั้งละ 10 บาท

 

นั่นเป็นเหตุผลให้ Trend Micro บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำว่า แนวทางที่เหมาะสมในปัจจุบันคือ Proactive Security หรือการวางระบบป้องกันเชิงรุก อาศัยการระบบที่มีความมั่นคงแข็งแรง การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอแบบเรียลไทม์ และบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนให้รู้เท่าทันภัยคุกคามทางดิจิทัลใหม่ๆ จึงจะประสบผลสำเร็จ4

 

ในส่วนของ AI แม้จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือโจมตีทางไซเบอร์ตอเนื่องแต่ก็สามารถนำมาใช้ในการป้องกัน ที่สามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เช่นกัน อย่างระบบวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน, การตรวจจับเนื้อหาปลอมแปลงด้วย AI หรือระบบความปลอดภัยที่เรียนรู้และตอบสนองแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยรักษาความปลอดภัยทั้งจากภายนอกและภายใน

 

การนำ AI มาช่วยสนับสนุนความปลอดภัยไซเบอร์จึงเป็นการเปิดพื้นที่และความเป็นไปได้ใหม่ๆ หากสามารถพัฒนาและนำ AI มาช่วยงานอย่างเหมาะสม จะช่วยป้องกันช่องโหว่ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนและสร้างความมั่นคงทางธุรกิจอีกมากในอนาคต