Speak Ease แอปพลิเคชัน AI คืนเสียงและตัวตนให้แก่ผู้ป่วยอัมพาต

คำพูด จัดเป็นวิธีการสื่อสารมาตรฐานที่ใช้งานทั่วไปในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งต่อการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นและใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามมีคนจำนวนไม่น้อยที่สูญเสียความสามารถทางการพูด ทำให้พวกเขาสูญเสียความมั่นใจและความสามารถในการเข้าสังคม โดยปัจจุบันจำนวนคนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

นี่เป็นเหตุผลในการคิดค้นแอปพลิเคชันสำหรับช่วยเหลือให้พวกเขากลับมาพูดด้วยเสียงของตัวเองอีกครั้ง

 

 

Speak Ease แอป AI ที่ช่วยให้สื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก Northeastern University กับการพัฒนา Speak Ease แอปพลิเคชัน AI จดจำเสียง คำ หรือเนื้อหาที่พูดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างกลุ่มที่มีความบกพร่องทางการพูด สามารถกลับมาติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างได้ใกล้เคียงปกติที่สุด

 

ตัวแอปอาศัยการประมวลผลผ่านโมเดล LLM โดยเริ่มต้นจากการบันทึกเสียง รูปแบบการพูด และการใช้คำ ของผู้ใช้งานแต่ละคน จากนั้นจะเริ่มทำการสังเคราะห์เนื้อหาเสียงและคำพูดที่ใกล้เคียงกับตัวอย่าง หรือผู้ใช้งานสามารถเลือกหรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการพูดลงแอป เพื่อให้ออกมาเป็นเนื้อหาเสียงตามต้องการ

 

เสียงพูดที่สังเคราะห์ขึ้นมาผ่านแอปพลิเคชัน จะรักษาความเป็นเสียงต้นฉบับออกมาให้มากที่สุด ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนเป็น Speak mode เพื่อให้แอปพลิเคชันพูดตามตัวอักษรที่พิมพ์แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบคาดเดาคำเพื่อเพิ่มความเร็วการพิมพ์ ทั้งยังสามารถปรับแต่งอารมณ์แฝงภายในการสนทนา เพื่อการถ่ายทอดเนื้อหาให้ครบถ้วนที่สุด

 

ส่วนที่ผู้พัฒนาให้ความสำคัญที่สุดคือการรักษาอารมณ์ในน้ำเสียง นอกจากเลียนแบบเสียงของผู้ใช้งานสังเคราะห์ออกมาอย่างลื่นไหล ยังสามารถปรับเสียงพูดให้เข้ากับบริบทสถานการณ์ หรือเติมอีโมจิเพื่อปรับอารมณ์เนื้อหาการสนทนาให้เข้ากับช่วงเวลาและสถานการณ์ในขณะนั้นได้อีกด้วย

 

 

อนาคตของ Speak Ease สู่การสื่อสารอย่างครบถ้วน

 

แน่นอนนี่ไม่ใช่แอปพลิเคชันแรกที่ออกแบบมาช่วยเหลือผู้มีความบกพร่องทางการพูด ทั้งระบบจดจำเสียงพูด การแปลงตัวอักษรเป็นข้อความ หรือสังเคราะห์เสียงขึ้นใหม่ ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขารวมฟีเจอร์ทั้งสามให้สามารถใช้งานได้ร่วมกัน เพิ่มความสะดวกขึ้นอีกขั้น

 

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Speak Ease โดดเด่นกว่าแอปพลิเคชันอื่นคือ อารมณ์การสื่อสาร เสียงสังเคราะห์ที่ได้จากแอปพลิเคชันอื่น ด้วยการมาถึงของ AI อาจช่วยให้มีรายละเอียดและเนื้อเสียงที่สมจริง แต่การแปลงเนื้อหาของโมเดล Text to speech(TTS) ทั่วไปกลับไม่สามารถใช้งานได้ดีนัก เนื่องจากการขาดอารมณ์ร่วมในน้ำเสียง

 

ในการพูดคุยสนทนาแต่ละครั้งน้ำเสียงและการใช้คำเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดเนื้อความ โปรแกรม TTS ปกติจะถ่ายทอดออกไปด้วยเสียงโมโนโทนหรือมีอารมณ์ร่วมอย่างจำกัด แต่ Speak Ease ได้รับการออกแบบให้ปรับน้ำเสียงเข้ากับอารมณ์ที่กำหนดอย่างหลากหลาย ช่วยให้การสื่อสารทำได้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

 

นี่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกลับสู่ประสบการณ์สื่อสารผ่านคำพูดอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ได้มุ่งเน้นความถูกต้องของเนื้อหาทางภาษา การออกเสียง หรือความเร็วการตอบสนองแบบแอปพลิเคชันในท้องตลาด แต่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรู้จักด้วยบรรยากาศเดิมๆ

 

นอกจากใช้งานร่วมกับผู้มีความบกพร่องทางการพูดแต่กำเนิดแล้ว ทีมวิจัยยังคาดหวังว่า Speak Ease จะถูกนำไปใช้งานกับผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บหรือโรคที่เกิดขึ้นบริเวณกล่องเสียง ลำคอ ระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ส่งผลกระทบกับการพูด ให้สามารถกลับมาสื่อสารได้อีกครั้ง

 

นี่จึงเป็นแอปพลิเคชันที่ไม่เพียงช่วยสื่อสาร แต่ทำให้ผู้ป่วยยังคงตัวตนและเอกลักษณ์ของพวกเขาเอาไว้ได้

 

 

 

ปัจจุบันแอปพลิเคชัน AI นี้ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบ จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม แต่ในอนาคตทีมวิจัยคาดว่า Speak Ease จะเป็นตัวช่วยในการเก็บรักษาเสียงดั้งเดิมของผู้ใช้งานไว้ ให้สามารถทำการพูดคุยสื่อสารกับผู้คนได้อีกครั้ง แม้จะสูญเสียเสียงจริงไปแล้วก็ตาม

 

 

 

ที่มา

 

https://techxplore.com/news/2025-03-ai-app-speech-impaired-users.html

 

https://www.youtube.com/watch?v=dN_EQlhdSJ4