ChatGPT เปิดฟีเจอร์เชื่อม Google Drive ยกระดับ AI สู่ใจกลางธุรกิจ

วงการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงร้อนระอุ และล่าสุด OpenAI เจ้าของ ChatGPT ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มขีดความสามารถของ ChatGPT ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น มุ่งตอบโจทย์การใช้งานในภาคธุรกิจโดยเฉพาะ

 

ตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถ เชื่อมต่อ ChatGPT เข้ากับบริการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์ยอดนิยม อย่าง Google Drive, Dropbox, Box, SharePoint และ OneDrive ได้แล้ว

 

ถือเป็นการปลดล็อกศักยภาพให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและสอบถามจากเอกสาร หรือสเปรดชีตที่จัดเก็บไว้ได้ทันที ทำให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ OpenAI ยังได้เปิดตัว "โหมดบันทึก" (record mode) ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดบันทึกการประชุม และระดมสมอง ได้อย่างครบถ้วน

 

ฟีเจอร์เหล่านี้ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ของ OpenAI ที่มุ่งมั่นจะเจาะตลาดลูกค้า AI ระดับองค์กร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท

 

เจาะลึกฟีเจอร์ใหม่ ยกระดับ AI สู่ใจกลางธุรกิจ

 

ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มคลาวด์ ผู้ใช้ ChatGPT สามารถป้อนคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ได้ทันที อาทิ "รายได้ของบริษัทในไตรมาสแรกของปีที่แล้วเท่าไหร่?" หรือ "บอกหน่อยว่าฉันนั่งเรือเฟอร์รี่กี่ครั้งในการเดินทางไปอิตาลีเมื่อปีที่แล้ว"

 

OpenAI ระบุว่า ChatGPT จะจัดระเบียบและนำเสนอข้อมูลจากเอกสารเหล่านั้นอย่างชัดเจน พร้อมระบุแหล่งที่มา และที่สำคัญยังคง เคารพการอนุญาตการเข้าถึงข้อมูลตามสิทธิ์ของผู้ใช้ในองค์กรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล

 

สำหรับฟีเจอร์การบันทึกเสียง ขณะนี้เปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้ ChatGPT Team เท่านั้น (แพ็กเกจสมัครสมาชิกรายปีที่คิดค่าบริการ 25 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน สำหรับการสมัครสมาชิกตั้งแต่ 2 ผู้ใช้ขึ้นไป)

 

โดยบันทึกและถอดความจะมาพร้อมกับการระบุเวลาที่ชัดเจนและรายการสิ่งที่ต้องดำเนินการ (action items) ที่ช่วยให้การติดตามงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ส่วนการเชื่อมต่อกับบริการจัดเก็บข้อมูลของบุคคลที่สามมีให้สำหรับผู้ใช้ ChatGPT Team, Enterprise และ Edu ซึ่งเป็นข้อเสนอของ OpenAI ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักเรียนนักศึกษา เพื่อให้เข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างทั่วถึง

 

ยึดหัวหาดตลาด AI ภาคธุรกิจ

 

ฟีเจอร์ใหม่นี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์  OpenAI ในการครองตลาดลูกค้า AI ระดับองค์กร ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของอุตสาหกรรมนี้

 

OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Enterprise ในปี 2023 ซึ่งเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัว ChatGPT รุ่นแรก และประสบความสำเร็จอย่างสูง มีลูกค้ารายใหญ่มากมายเข้าร่วม อาทิ Block, Canva, The Estée Lauder Companies และ PwC

 

ตามมาด้วยการเปิดตัว ChatGPT Team ในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับบริษัทขนาดเล็กหรือทีมงานที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก AI

 

ปัจจุบัน OpenAI มีผู้ใช้งานภาคธุรกิจที่ชำระเงินแล้วถึง 3 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านรายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตที่น่าจับตาและสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้ AI ในภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 

การแข่งขันในตลาด AI ระดับองค์กรทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง OpenAI กำลังแข่งขันโดยตรงกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพหลายราย เพื่อชิงลูกค้า AI ระดับองค์กรที่มีมูลค่าสูง

 

ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft, Amazon และ Anthropic ต่างก็เร่งเปิดตัวฟีเจอร์ Generative AI สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ในสมรภูมิ AI ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ เกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 7 ปีข้างหน้า