Meta หวนคืนอ้อมอกกลาโหม พัฒนา Gadget - AI เพื่อกองทัพสหรัฐฯ

 

แอนดรูว์ บอสเวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Meta Platforms Inc. จุดประเด็นร้อนในการประชุม Bloomberg Tech Summit ณ นครซานฟรานซิสโก

 

ด้วยการประกาศกร้าวว่า ใน Silicon Valley "กระแสลมได้เปลี่ยนทิศแล้ว" การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะมันบ่งชี้ถึงการกลับมาจับมือกันอย่างแนบแน่นระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และกองทัพสหรัฐฯ หลังจากที่เคยมีระยะห่างกันมานาน

 

 

รากฐานแห่งความรักชาติใน Silicon Valley

 

บอสเวิร์ธเผยว่าภายใต้ความเงียบงัน ยังมีกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ไม่กล้าแสดงออก (silent majority)แต่ต้องการจะริเริ่มโครงการที่เกี่ยวข้องกับด้านกลาโหมมานานแล้ว

 

แอนดรูว์ บอสเวิร์ธ ให้ความเห็นว่า "รากฐานความรักชาติใน Silicon Valley นั้นแข็งแกร่งกว่าที่ผู้คนทั่วไปรับรู้กันเสียอีก"

 

ย้อนกลับไปในอดีต Silicon Valley ถือกำเนิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการทหาร และบอสเวิร์ธมองว่านี่คือการหวนคืนสู่รากเหง้าที่แท้จริง ถึงแม้จะเป็นเพียงก้าวแรก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโลกเทคโนโลยีและกองทัพกำลังจะเชื่อมโยงกันอีกครั้ง

 

 

หมวก AI อัจฉริยะเพื่อกองทัพ

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง ล่าสุด Meta ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Anduril Industries Inc. ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาด้านกลาโหม โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยสำหรับกองทัพสหรัฐฯ 

 

หนึ่งในโครงการที่น่าจับตาคือการสร้าง หมวกนิรภัยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมคุณสมบัติเทคโนโลยีโลกเสมือน (Virtual Reality - VR) และโลกเสริมความจริง (Augmented Reality - AR)

 

บอสเวิร์ธมองว่าความสัมพันธ์บทใหม่ระหว่าง Silicon Valley กับกองทัพสหรัฐฯ เปรียบเสมือนสัญญาณแห่งการฟื้นคืนความไว้วางใจ

 

 

บอสเวิร์ธ: สถาปนิกแห่งโลกเสมือนของ Meta

 

แอนดรูว์ บอสเวิร์ธ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงที่มีบทบาทสำคัญใน Meta มากว่าสองทศวรรษ ด้วยประสบการณ์ด้านวิศวกรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

 

ปัจจุบันเขากุมบังเหียนหน่วยงาน Reality Labs ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุปกรณ์ VR และ AR ของ Meta ไม่ว่าจะเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta หรือชุดหูฟัง Quest VR ที่เราคุ้นเคย

 

บอสเวิร์ธทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวที่น่าคิดว่า "ประวัติศาสตร์กำลังจับตามองเราอยู่" และคาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ชี้ชะตาสำคัญสำหรับทีมของเขา

 

เขาตั้งคำถามถึงอนาคตของผลิตภัณฑ์จาก Reality Labs ว่า "ผู้คนจะยอมรับเทคโนโลยีนี้หรือไม่?" ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ตลาดจะเป็นผู้ตัดสินความสำเร็จที่แท้จริง