ซีอีโอ Meta เผยกลยุทธ์โกยรายได้จาก AI หลังผู้ใช้ทะลุหลักพันล้าน
ยอดผู้ใช้ Meta AI ทะลุ 1,000 ล้าน! ซักเคอร์เบิร์กเผยกลยุทธ์สร้างรายได้มหาศาลจาก AI วางแผนเก็บเงินค่าใช้บริการเพิ่มเติมในอนาคต เตรียมเขย่าวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง
คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า Meta กำลังลุยตลาด AI อย่างเต็มสูบ ล่าสุด สำนักข่าว CNBC รายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Meta ได้ประกาศข่าวใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่า
Meta AI ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท มีผู้ใช้งานต่อเดือนทะลุ 1,000 ล้านคนแล้ว!
โดยครอบคลุมอยู่ในแอปพลิเคชันตระกูล Meta ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, WhatsApp หรือ Messenger
นี่คือตัวเลขที่น่าสนใจและสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Meta ที่ต้องการฝังราก AI เข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้คนให้มากที่สุด
ความสำเร็จนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากที่ Meta เพิ่งจะปล่อยแอปพลิเคชัน Meta AI แบบสแตนด์อะโลนออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และนี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่า Meta กำลังปูทางไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า
จุดโฟกัสของ Meta AI ปีนี้ ต้องเข้าถึงง่ายกว่าเดิม
ซักเคอร์เบิร์กย้ำชัดว่าเป้าหมายหลักของ Meta ในปีนี้คือ "การยกระดับประสบการณ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น" และผลักดันให้ Meta AI ก้าวขึ้นเป็น "AI ส่วนบุคคลชั้นนำ" โดยเน้นหนักใน 3 ด้านหลักๆ คือ:
- การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization): AI ที่เข้าใจคุณมากขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้อย่างตรงจุด
- การสนทนาด้วยเสียง (Voice Conversations): ทำให้การโต้ตอบกับ AI เป็นธรรมชาติและราบรื่นเหมือนคุยกับคนจริงๆ
- ความบันเทิง (Entertainment): ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย แต่ยังเป็นเพื่อนที่สามารถให้ความบันเทิงกับผู้ใช้ได้
นี่คือทิศทางที่ Meta ต้องการให้ AI ของตนแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด
จากผู้ใช้ 1,000 ล้านคน สู่โอกาสทางธุรกิจมหาศาล
แม้จะมีผู้ใช้งานถึง 1,000 ล้านคน ซักเคอร์เบิร์กก็กล่าวแบบถ่อมตนว่า
"สำหรับเราแล้ว ตัวเลขนี้ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับ ‘ขยายวงกว้าง’ แต่เราก็มาถึงจุดนี้แล้ว"
คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล นั่นคือการเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างรายได้มหาศาลจาก AI
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta เปิดเผยแผนการในอนาคตสำหรับ Meta AI โดยระบุว่าบริษัทยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาและขยายขีดความสามารถของปัญญาประดิษฐ์นี้อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะเริ่มสร้างโมเดลธุรกิจจากมัน
ซักเคอร์เบิร์กแย้มถึงแนวทางที่เป็นไปได้ในการสร้างรายได้จาก Meta AI ในอนาคต โดยกล่าวว่า "มีโอกาสที่เราจะแทรกคำแนะนำแบบชำระเงิน"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเสนอ "บริการสมัครสมาชิกเพื่อให้ผู้คนสามารถชำระเงินเพื่อเข้าถึงความสามารถในการประมวลผลที่มากขึ้น"
ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรการประมวลผลที่ทรงพลังยิ่งขึ้นของ Meta AI ผ่านการสมัครสมาชิก
โมเดลนี้คล้ายคลึงกับ ChatGPT ของ OpenAI ที่มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันเสียเงิน (ChatGPT Plus) ซึ่งผู้ใช้สามารถจ่ายเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงหรือประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
แผนการนี้สอดคล้องกับกระแสข่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่ CNBC รายงานว่า Meta เตรียมเปิดตัวแอป Meta AI แบบสแตนด์อะโลนในช่วงไตรมาสที่สอง พร้อมทดสอบบริการสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน
ประเด็นร้อนที่น่าจับตาในการประชุมผู้ถือหุ้น
นอกจากเรื่อง AI แล้ว ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ นักลงทุนยังได้ลงคะแนนใน 14 วาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท โดยมี 9 วาระเป็นข้อเสนอของผู้ถือหุ้น ครอบคลุมหลากหลายประเด็น อาทิ:
- ความปลอดภัยของเยาวชน: ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวที่ Meta ถูกจับตามองอย่างมาก
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจก: สะท้อนถึงความสนใจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจากนักลงทุน
- การประเมินการถือครองบิตคอยน์: ชี้ให้เห็นถึงความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัล
หนึ่งในข้อเสนอที่น่าสนใจคือข้อเสนอหมายเลข 8 จาก JLens (ที่ปรึกษาด้านการลงทุนในเครือ Anti-Defamation League)
ที่เรียกร้องให้ Meta จัดทำรายงานประจำปีเพื่อแก้ไขปัญหาเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง
รวมถึงการต่อต้านชาวยิว บนแพลตฟอร์ม หลังจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายในเดือนมกราคมที่ผ่อนปรนแนวทางการกลั่นกรองเนื้อหาลง
ทั้งนี้ Meta ระบุว่าผลการลงคะแนนขั้นสุดท้ายจะประกาศภายในสี่วันทำการบนเว็บไซต์ของบริษัท และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (U.S. Securities and Exchange Commission)


