"Claude" คุยได้แล้ว! Anthropic เปิดโหมดเสียง พลิกโฉมแชทบอท AI

 

Anthropic บริษัท AI ดาวรุ่งที่หลายคนจับตา ล่าสุดได้เริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์เด็ดอย่าง "โหมดเสียง" (Voice Mode) สำหรับแอปพลิเคชันแชทบอท Claude แล้ว

 

ซึ่งเตรียมยกระดับการสนทนาระหว่างคนกับ AI ให้เป็นธรรมชาติยิ่งกว่าเดิม นี่อาจเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น

 

 

Claude คุยได้เหมือนเพื่อน โลกของ AI เปลี่ยนไปอีกขั้น

 

ลองจินตนาการว่าเราสามารถพูดคุยกับ AI ได้เหมือนคุยกับเพื่อน โหมดเสียงที่ Anthropic เปิดตัวนี้กำลังจะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงได้แล้ว

 

แม้จะยังอยู่ในช่วงทดลอง (beta) แต่ผู้ใช้งานแอป Claude บนมือถือจะสามารถ "สนทนาด้วยเสียงกับ Claude ได้อย่างสมบูรณ์"

 

โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการเป็นภาษาอังกฤษในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตามข้อมูลจากบัญชีทางการบน X และเอกสารบนเว็บไซต์บริษัท

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ มีผู้ใช้งานบางรายบน X ได้ลองใช้โหมดเสียงนี้แล้วตั้งแต่ช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา

 

โดยพื้นฐานแล้ว โหมดเสียงนี้จะถูกขับเคลื่อนด้วยโมเดล AI ตัวเก่งของ Anthropic อย่าง Claude Sonnet 4

 

ตามคำอธิบายในหน้าสนับสนุนการใช้งาน ระบุไว้ชัดเจนว่า “โหมดเสียง… ช่วยให้เราพูดคุยและฟังการตอบกลับจาก Claude ได้ด้วยเสียง ทำให้ใช้งาน Claude ได้สะดวกมากขึ้น แม้ในขณะที่มือของเราไม่ว่าง แต่สมองยังคงทำงาน”

 

นอกจากนี้ โหมดเสียงยังฉลาดพอที่จะ “แสดงประเด็นสำคัญบนหน้าจอในขณะที่ Claude กำลังพูด และช่วยให้เราพูดคุยกับ Claude และฟังเสียงตอบกลับจาก Claude ได้อย่างราบรื่น”

 

 

สงคราม "เสียง" ในโลก AI: ใครจะครองใจผู้ใช้งาน?

 

การที่ Anthropic กระโดดเข้าสู่สนามนี้ สะท้อนให้เห็นว่า "การสนทนาด้วยเสียง" กำลังเป็นเทรนด์สำคัญที่บริษัท AI ชั้นนำต่างให้ความสนใจ

 

ก่อนหน้านี้เราได้เห็น OpenAI นำร่องไปแล้ว รวมถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่มี Gemini Live หรือแม้แต่ xAI ของ Elon Musk ที่มี Voice Mode สำหรับ Grok

 

การที่แชทบอทเหล่านี้สามารถโต้ตอบด้วยเสียงได้แทนการพิมพ์ ทำให้การสนทนารู้สึกเป็นธรรมชาติและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย

 

สำหรับโหมดเสียงของ Anthropic ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร หรือแม้แต่รูปภาพ และยังสามารถเลือกเสียงที่แตกต่างกันได้ถึง 5 แบบ

 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถสลับไปมาระหว่างการพิมพ์และการสนทนาด้วยเสียงได้ทันที และที่เจ๋งคือ หลังจากสนทนาเสร็จ ระบบยังสามารถถอดเสียงและสรุปบทสนทนาให้เราได้อีกด้วย

 

ข้อจำกัดและอนาคตที่ต้องจับตา

 

แน่นอนว่าฟีเจอร์ใหม่ย่อมมีข้อจำกัดอยู่บ้าง การสนทนาด้วยเสียงจะถูกนับรวมในขีดจำกัดการใช้งานปกติ โดย Anthropic บอกว่าผู้ใช้งานฟรีส่วนใหญ่จะสามารถสนทนาได้ประมาณ 20-30 ครั้ง

 

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการเชื่อมต่อกับ Google Workspace เพื่อให้โหมดเสียงเข้าถึงการนัดหมายใน Google Calendar และอีเมล Gmail จะสงวนไว้สำหรับผู้ที่สมัครสมาชิก Claude แบบเสียเงินเท่านั้น

 

ส่วนการเชื่อมต่อกับ Google Docs จะเป็นฟังก์ชันพิเศษเฉพาะสำหรับแผน Claude Enterprise

 

ก่อนหน้านี้ Mike Krieger, CPO ของ Anthropic เคยแย้มเป็นนัยๆ ในบทสัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อต้นเดือนมีนาคมว่า

 

บริษัทกำลังพัฒนาความสามารถด้านเสียงสำหรับ Claude โดยมีข่าวลือว่ามีการหารือกับ Amazon ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่และพันธมิตร รวมถึง ElevenLabs สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เน้นเสียง เพื่อผลักดันฟีเจอร์เสียงในอนาคตสำหรับ Claude

 

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าความร่วมมือเหล่านั้นได้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือ "โหมดเสียง" ของ Claude กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตประจำวันของเราอีกครั้ง และนี่คือสัญญาณบ่งชี้ว่าเทคโนโลยี AI กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว