Nvidia ย้ำบัลลังก์ตัวพ่อ AI อวดของใหม่ครบไลน์ ชิปแรง ซอฟต์แวร์ล้ำ

 

ถ้าพูดถึงวงการเทคโนโลยี AI นาทีนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของชายในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำอย่าง 'เจนเซ่น หวง' ซีอีโอแห่ง Nvidia ซึ่งเปรียบเสมือน 'ร็อกสตาร์' ของโลกเทคโนโลยี

 

และล่าสุด สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เจนเซ่น หวง ได้ ปรากฏตัวขึ้นที่งาน Computex ในไต้หวัน บ้านเกิดของเขา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลก

 

การมาเยือนครั้งนี้ ไม่ใช่แค่มาทักทาย แต่มาพร้อมภารกิจสำคัญ คือการประกาศความก้าวหน้าครั้งใหม่

 

ที่จะตอกย้ำว่า ทำไม Nvidia ถึงยังคงเป็นผู้นำในยุค AI ครองโลก และพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่ร้อนระอุขึ้นทุกวัน

 

 

ยังไง Nvidia ก็คือหัวใจของ AI... แต่วันนี้ต้องขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น

 

ต้องบอกว่า นาทีนี้ Nvidia คือหัวใจหลักของวงการ AI โลก เพราะชิปประมวลผล (GPU) ของพวกเขานี่แหละ คือขุมพลังสำคัญที่ทำให้โมเดล AI ต่างๆ ฉลาดขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด

 

ความต้องการชิป Nvidia พุ่งทะลุเพดาน จนทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็นประวัติการณ์

 

แต่แน่นอนว่า เมื่อตลาดใหญ่ขึ้น เค้กก้อนนี้ก็หอมหวานจนผู้เล่นรายอื่นอยากเข้ามาร่วมวงแข่งขันมากขึ้น ทั้งจากคู่แข่งโดยตรง

 

หรือแม้กระทั่งจากลูกค้ารายใหญ่ของตัวเองอย่าง Microsoft หรือ Amazon ที่ก็เริ่มซุ่มพัฒนาชิปของตัวเองขึ้นมาใช้แล้ว

 

นี่คือบริบทที่ เจนเซ่น หวง ต้องมาไต้หวัน ไม่ใช่แค่เพื่อโชว์ของใหม่ แต่ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเหล่าพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทานการผลิต ซึ่งเป็นฐานทัพสำคัญของ Nvidia ด้วย

 

Nvidia เปิดไพ่เด็ด ฮาร์ดแวร์แรง ซอฟต์แวร์ครอบคลุม

 

สิ่งที่ซีอีโอ Nvidia นำมาเปิดเผยที่งาน Computex ครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่ชิป แต่เป็นโซลูชันแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ:

 

ระบบประมวลผล AI เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมส่งมอบ Q3

 

ซีอีโอ Nvidia อัปเดตความคืบหน้าของระบบประมวลผล AI เจเนอเรชั่นถัดไปที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม นั่นคือ GB300 Systems ซึ่งจะพร้อมส่งมอบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เป็นการต่อยอดและอัปเกรดจากระบบ Grace Blackwell รุ่นปัจจุบันที่กำลังติดตั้งในศูนย์ข้อมูลคลาวด์ชั้นนำทั่วโลก

 

RTX Pro Server แรงกว่า H100 หลายเท่าตัว

 

พร้อมกันนี้ ยังได้เผยโฉมระบบเซิร์ฟเวอร์ใหม่ล่าสุด RTX Pro Server ที่ทำมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ เจนเซ่น หวงเคลมว่า แรงกว่า H100 รุ่นเรือธงเดิมถึง 4 เท่าสำหรับงาน DeepSeek

 

และเร็วกว่า 1.7 เท่าสำหรับโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) อย่าง Llama ของ Meta ที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์นี้เริ่มเดินสายการผลิตในปริมาณมากแล้วด้วย
 

กลยุทธ์เปิดกว้าง NVLink Fusion

 

ความน่าสนใจอีกอย่างคือกลยุทธ์การเปิดกว้างมากขึ้น Nvidia เปิดตัวผลิตภัณฑ์ NVLink Fusion ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล ที่ไม่ได้บังคับให้ใช้แต่ชิปของ Nvidia เท่านั้น

 

แต่ลูกค้าสามารถนำ CPU ของค่ายอื่นมาใช้ร่วมกับชิป AI ของ Nvidia หรือจะเลือกใช้ CPU ของ Nvidia คู่กับ AI Accelerator ของเจ้าอื่นก็ได้ นี่คือการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า

 

ที่สำคัญยังแสดงให้เห็นว่า Nvidia เลือกที่จะร่วมมือกับผู้เล่นรายอื่น แทนที่จะปิดกั้นทั้งหมด และยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศของตัวเองไปในตัว
 

 

ผนึกกำลังพันธมิตรเต็มสูบ

 

ความร่วมมือก็มาเต็ม ทั้งกับ MediaTek, Marvell, และ Alchip ที่จะสร้างชิป AI พิเศษ (custom AI chips) ที่ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ Nvidia ได้อย่างราบรื่น

 

หรือ Qualcomm และ Fujitsu ที่จะทำโปรเซสเซอร์ (CPU) ที่ออกแบบมาให้ใช้กับ AI Accelerator ของ Nvidia ได้เป็นอย่างดี
 

 

คอมพิวเตอร์ไซส์เล็กเข้าถึงง่ายขึ้น

 

แม้แต่คอมพิวเตอร์ไซส์เล็กอย่าง Spark และ Station ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็ขยายช่องทางขายให้เข้าถึงง่ายขึ้น

 

มีพันธมิตรผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำอย่าง Acer Inc. และ Gigabyte Technology Co. เข้ามาเสริมทัพผู้จัดจำหน่ายเดิมอย่าง Dell และ HP 
 

 

ซอฟต์แวร์และบริการครบวงจร

ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์ ด้านซอฟต์แวร์และบริการ Nvidia ก็เข็นของใหม่ออกมาเพียบ เช่น
 

• ใช้แพลตฟอร์ม Omniverse สร้าง 'ดิจิทัลทวิน' ของโรงงาน ช่วยบริษัทต่างๆ รวมถึง TSMC วางแผนและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้เร็วขึ้น

 

• เปิดตัวซอฟต์แวร์ 'dream' ช่วยให้การฝึกสอนหุ่นยนต์ผ่านการจำลองทำได้สมจริงและรวดเร็วกว่าเดิม

 

• มีบริการทำ 'โรงงาน AI' หรือศูนย์ข้อมูล AI แบบครบวงจร สำหรับบริษัทที่อาจจะยังไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ Nvidia มีพิมพ์เขียวและบริการช่วยดูแลให้

 

• และที่น่าสนใจคือ DGX Cloud Lepton ซอฟต์แวร์ที่จะเป็นตัวกลางอัตโนมัติ เชื่อมต่อผู้พัฒนา AI ที่ต้องการพลังประมวลผลบนคลาวด์ เข้ากับผู้ให้บริการที่มีทรัพยากร เหมือนสร้างตลาดกลางสำหรับพลังประมวลผล AI ทั่วโลกเลยทีเดียว

 

 

กล่าวโดยสรุป Nvidia ยังไงก็ไม่ยอมแพ้ พร้อมปั้นระบบนิเวศ AI ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก!

 

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ ชัดเจนว่า Nvidia กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือการแข่งขัน และทำให้ตัวเองยังคงเป็นศูนย์กลางของโลก AI ต่อไป ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายขึ้น

 

ที่ไม่ได้มีแค่ชิป แต่รวมถึงระบบ ซอฟต์แวร์ บริการ และการสร้างพันธมิตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วนสามารถนำ AI ไปใช้งานได้ง่ายขึ้น

 

การเปิดตัวและการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญที่ Computex ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Nvidia ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม AI

 

และเสริมความแข็งแกร่งในทุกมิติของระบบนิเวศ AI เพื่อรักษาบัลลังก์ 'เจ้าพ่อชิป AI' ของโลกไว้ให้ได้ท่ามกลางสมรภูมิที่ดุเดือดนี้