posttoday

ทรัมป์ปรับแผนชิป AI ใช้ไม้แข็งประเทศ 'ทางผ่าน' ไทยยังอยู่ในลิสต์

09 พฤษภาคม 2568

พลิกเกมชิป AI โลก "ทรัมป์" เตรียมยกเลิกกฎคุมเข้มยุค "ไบเดน" เปิดช่องเจรจาตรงรายประเทศ ไทย มาเลเซียถูกจับตาเป็นพิเศษ สหรัฐฯ หวั่นส่งต่อชิปให้จีน

ข่าวใหญ่ในโลกเทคโนโลยีและภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุดเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา เมื่อสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า

 

รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาครั้งใหญ่ในการยกเลิก "ข้อจำกัดบางส่วน" เกี่ยวกับการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่งคลอดออกมาในยุคอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน

 

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนนโยบายธรรมดา แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า "ยุคที่สอง" ของการควบคุมชิป AI ภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะมาถึง

 

และอาจมีวิธีการที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับประเทศที่ไม่ได้ถูกสหรัฐฯ มองว่าเป็น "คู่แข่งหลัก" อย่างจีน

 

ทรัมป์ปรับแผนชิป AI ใช้ไม้แข็งประเทศ \'ทางผ่าน\' ไทยยังอยู่ในลิสต์

 

กฎเดิมของไบเดน (ที่กำลังจะถูกยกเลิก) คืออะไร?

 

ย้อนกลับไปที่ยุคไบเดน เพื่อสกัดกั้นไม่ให้จีนเข้าถึงชิป AI ขั้นสูงของสหรัฐฯ ผ่านประเทศที่สาม รัฐบาลได้ออกกฎที่เรียกว่า "AI diffusion rule" ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเปลี่ยนผ่านอำนาจ

 

กฎนี้มีความซับซ้อน โดยได้แบ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลกออกเป็น 3 ระดับ พร้อมกำหนดข้อจำกัดและข้อกำหนดด้านใบอนุญาตในการส่งออกชิปจากบริษัทอย่าง Nvidia ไปยังประเทศเหล่านี้

 

กฎดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อทำให้การส่งออกชิป AI ขั้นสูงยากขึ้นในวงกว้าง ไม่ใช่แค่กับจีนโดยตรง แต่รวมถึงอีกกว่า 40 ประเทศ (ซึ่งขยายมาจากกฎเดิมในปี 2023)

 

ในกลุ่มประเทศอ่าว, บางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอื่นๆ ที่เคยไม่มีข้อจำกัดมาก่อน เช่น อินเดีย มาเลเซีย โปแลนด์ โดยกำหนดเพดานการส่งออกรวม หรือแม้แต่กำหนดให้ต้องขอใบอนุญาตแม้การส่งออกจะมีจำนวนน้อย

 

ทรัมป์ปรับแผนชิป AI ใช้ไม้แข็งประเทศ \'ทางผ่าน\' ไทยยังอยู่ในลิสต์
 

แล้วรัฐบาลทรัมป์จะทำอะไรแทน?

 

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เผยกับ Bloomberg ว่า รัฐบาลทรัมป์จะไม่บังคับใช้กฎ AI diffusion rule นี้เมื่อถึงกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ แม้ว่ากฎนี้จะอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้วก็ตาม

 

เหตุผลที่ยกเลิก? สำนักอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security - BIS) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ออกมาให้ความเห็นชัดเจนว่า

 

"กฎ AI ของไบเดนนั้นซับซ้อนเกินไป มีระบบราชการมากเกินไป และจะขัดขวางนวัตกรรมของอเมริกา"

 

พวกเขาจะแทนที่ด้วยกฎที่ง่ายกว่ามาก เพื่อปลดปล่อยนวัตกรรมและรักษาความเป็นผู้นำ AI ของอเมริกา

 

แนวทางใหม่ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะเน้นการ "เจรจาโดยตรงแบบทวิภาคี" กับแต่ละประเทศแทนการใช้กฎแบบหว่านแห เช่น

 

การเจรจากับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือซาอุดีอาระเบีย โดยข้อตกลงเหล่านี้อาจเชื่อมโยงกับคำมั่นสัญญาด้านการลงทุน หรือประเด็นทางการค้าและความสัมพันธ์ทางการทูตอื่นๆ

 

สำคัญคือ มาตรการที่มุ่งเป้าไปยังประเทศจีนโดยตรง จะยังคงอยู่ หรืออาจเข้มงวดขึ้นด้วยซ้ำ การเปลี่ยนแปลงนี้มุ่งเน้นที่การปรับวิธีควบคุมการส่งออกไปยัง "ประเทศอื่นๆ" ที่ไม่ใช่จีน

ทรัมป์ปรับแผนชิป AI ใช้ไม้แข็งประเทศ \'ทางผ่าน\' ไทยยังอยู่ในลิสต์

 

ใครได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้บ้าง?

  1. บริษัทชิปสหรัฐฯ (โดยเฉพาะ Nvidia): ทันทีที่มีรายงานข่าวนี้ หุ้นของผู้ผลิตชิปก็ปรับตัวสูงขึ้น หุ้น Nvidia พุ่งขึ้นกว่า 3% นโยบายที่ง่ายขึ้นและการเจรจาแบบรายประเทศอาจเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถส่งออกชิปไปยังตลาดที่เคยถูกจำกัดได้ง่ายขึ้น Nvidia เองก็ออกมาแสดงความยินดีกับทิศทางใหม่นี้ โดยระบุว่าจะช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมและสร้างงานในสหรัฐฯ
     
  2. ประเทศที่เคยได้รับผลกระทบจากกฎ AI diffusion: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย, อินเดีย, มาเลเซีย, โปแลนด์ จะได้รับการผ่อนปรนในทันที และมีโอกาสใหม่ในการเจรจาเงื่อนไขการเข้าถึงชิป AI โดยตรงกับสหรัฐฯ และอาจเป็นข่าวดีสำหรับโครงการขนาดใหญ่ อย่าง Oracle ที่กำลังวางแผนขยายศูนย์ข้อมูลในมาเลเซีย ซึ่งเคยติดเพดานข้อจำกัดเดิม
     
  3. ประเทศที่มีความเสี่ยงจะเป็น "ทางผ่าน" ให้จีน (รวมถึงไทย): แม้จะมีการยกเลิกกฎเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลทรัมป์จะพุ่งเป้าไปยังประเทศที่ถูกมองว่ามีความเสี่ยงในการ "ส่งต่อ" ชิปไปให้จีน แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ของทรัมป์อาจกำหนดข้อจำกัดกับประเทศอย่างมาเลเซียและไทย ที่มีรายงานเกี่ยวกับการส่งออกชิปไปยังจีน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ จะยังคงบังคับใช้กฎการส่งออกที่มีอยู่เดิมอย่างเคร่งครัดกับประเทศเหล่านี้
     

รัฐบาลไทยเองก็ออกมาระบุว่ากำลังรอรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายนี้ ขณะที่มาเลเซียก็แสดงความเห็นว่า นโยบายที่ชัดเจนและสอดคล้องกันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภาคเทคโนโลยี

 

ทรัมป์ปรับแผนชิป AI ใช้ไม้แข็งประเทศ \'ทางผ่าน\' ไทยยังอยู่ในลิสต์

 

มุมมองของ Nvidia ต่อมาตรการทรัมป์

 

Nvidia ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาดชิป AI ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ มาโดยตลอด

 

บริษัทมองว่ากฎ AI diffusion rule จะยิ่งผลักดันประเทศที่สามให้หันไปพึ่งพาจีนมากขึ้น

 

Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ยังคงเชื่อว่าบริษัทสหรัฐฯ ควรขายชิปในจีนได้ และมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?

 

การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งชี้ถึงแนวทางการบริหารที่เน้นการเจรจาและความยืดหยุ่นของรัฐบาลทรัมป์ แต่ก็มาพร้อมกับความไม่แน่นอนใหม่ๆ

 

แทนที่จะมีกฎเดียวที่ซับซ้อน แต่บังคับใช้กับหลายประเทศ อาจกลายเป็นการมีข้อตกลงทวิภาคีจำนวนมาก ซึ่งแต่ละข้ออาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

 

ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญกับกฎเกณฑ์ที่หลากหลายและซับซ้อนในอีกรูปแบบหนึ่ง

 

นโยบายชิป AI ของสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่บทใหม่ ซึ่งจะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก และความสามารถในการแข่งขันด้าน AI ของแต่ละประเทศ

 

โดยเฉพาะประเทศที่ต้องการเข้าถึง "ขุมพลัง" อย่างชิป AI ขั้นสูงจากซิลิคอนแวลลีย์