Apple เล็งเพิ่ม AI ใน Safari เขย่าบัลลังก์ Google มูลค่าหายแสนล้าน
Apple เตรียมนำ AI เสริมพลังค้นหาใน Safari สั่นสะเทือนบัลลังก์ Google ทุบหุ้นดิ่งแรง มูลค่าตลาดวูบ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนภูมิทัศน์การค้นหาที่ก้าวเข้าสู่ยุค AI
การที่ Apple เตรียมเพิ่มทางเลือกการค้นหาโดยใช้ AI ในเบราว์เซอร์ Safari นั้น ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความสั่นคลอนให้กับ Google อย่างมาก เพราะรายได้โฆษณามหาศาลของ Google ส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้ iPhone ที่ค้นหาผ่าน Google
ผลพวงจากข่าวดังกล่าวทำให้หุ้นของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดด้วยการดิ่งลงถึง 7.3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งข่าววงในให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า Eddy Cue ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ได้ให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีที่ Google ถูกฟ้องร้องในประเด็นการผูกขาดตลาดค้นหาออนไลน์เมื่อวันพุธ โดยระบุว่า Apple กำลังอยู่ในระหว่าง "การพิจารณา" ที่จะยกเครื่อง Safari ครั้งใหญ่
นอกจากนี้ Cue ยังชี้แจงด้วยว่า ปริมาณการค้นหาข้อมูลผ่าน Safari ได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้งานหันไปพึ่งพาเครื่องมือ AI มากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสข่าวดังกล่าว ราคาหุ้นของ Apple ก็ปรับตัวลดลง 1.1% เช่นกัน
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ของการค้นหาออนไลน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อธุรกิจค้นหาของ Google ที่เคยผงาดครองความเป็นเจ้าตลาดมายาวนาน
ธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่เป็นช่องทางหลักให้นักการตลาดลงโฆษณาเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังตกอยู่ภายใต้การจับตาตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐฯ ซึ่งได้ยื่นฟ้อง Google ในคดีใหญ่ถึงสองคดี
ปัจจุบัน Google ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือค้นหาหลักที่ตั้งค่าเริ่มต้นไว้ในเบราว์เซอร์ Safari ของ Apple ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ Google ยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้ Apple ในแต่ละปี
โดยคาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 36% ของรายได้โฆษณาจากการค้นหาที่ Google ได้รับผ่านเบราว์เซอร์ Safari ตามการประเมินของนักวิเคราะห์
หนึ่งในแนวทางแก้ไขที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เสนอเพื่อสลายการผูกขาดของ Google ในตลาดค้นหาออนไลน์คือ การออกคำสั่งห้าม Google จ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เพื่อให้ตนเองได้เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
Gil Luria นักวิเคราะห์จาก D.A. Davidson ให้ความเห็นว่า "การที่ Google สูญเสียสถานะการเป็นผู้ให้บริการค้นหาแต่เพียงผู้เดียวบนแพลตฟอร์ม Apple จะส่งผลกระทบที่เลวร้ายอย่างยิ่งต่อ Google ไม่ว่าในอนาคตจะมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมออกมาหรือไม่ก็ตาม"
เขายังเสริมอีกว่า "ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่ทุ่มงบประมาณการค้นหาทั้งหมดไปที่ Google เพราะ Google มีส่วนแบ่งในตลาดเกือบ 90% ซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดตลาด หากมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจสำหรับการค้นหา ผู้ลงโฆษณาจำนวนมากก็อาจพิจารณาย้ายงบโฆษณาส่วนใหญ่ของตนออกจาก Google ได้"
อย่างไรก็ตาม Google เองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แม้จะเคยถูกมองว่าเป็นผู้ตามหลังในสงคราม AI หลังจากการเปิดตัว ChatGPT อย่างฮือฮาเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
แต่ Google ก็ได้เร่งลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อพัฒนาด้าน AI และนำข้อมูลขนาดใหญ่ที่ตนมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัว "โหมด AI" บนหน้าค้นหาของตน เพื่อเป้าหมายในการรักษาฐานผู้ใช้งานหลายล้านคนให้อยู่กับ Google ไม่ให้เปลี่ยนไปใช้โมเดล AI ของคู่แข่ง
ล่าสุด Google ยังได้ขยายบริการ AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์สรุปข้อมูลด้วย AI ที่จะแสดงผลลัพธ์อยู่เหนือรายการลิงก์ค้นหาแบบดั้งเดิม ให้ครอบคลุมผู้ใช้งานในกว่า 100 ประเทศ
พร้อมทั้งได้เริ่มนำโฆษณาเข้ามาแสดงในฟีเจอร์นี้ด้วย เพื่อกระตุ้นยอดขายโฆษณาจากการค้นหา
Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ได้ให้การต่อศาลในคดีต่อต้านการผูกขาดเมื่อเดือนที่แล้วว่า Google คาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับ Apple ได้ภายในช่วงกลางปีนี้
เพื่อนำเทคโนโลยี Gemini AI ของตนไปผนวกเข้ากับโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ของ Apple
นอกจากนี้ รายงานจาก Bloomberg ยังระบุว่า Eddy Cue มีแผนที่จะเพิ่มทางเลือกการค้นหาในอนาคต โดยจะรวมผู้ให้บริการค้นหาที่ใช้ AI รายอื่นๆ เช่น OpenAI และ Perplexity AI เข้ามาด้วย
Yory Wurmser นักวิเคราะห์หลักด้านการโฆษณา สื่อ และเทคโนโลยีจาก eMarketer ให้ความเห็นว่า
"แผนของ Apple สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวหน้าไปมากของเครื่องมือค้นหาเชิงสร้างสรรค์ (Generative Search) อย่างเช่น ChatGPT และ Perplexity"
ขณะที่ Wurmser เสริมว่า การที่ Google ยินยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อคงสถานะการเป็นเครื่องมือค้นหาหลักนั้น ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของข้อตกลงเหล่านี้
ยกตัวอย่างเช่น ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ChatGPT มีรายงานการค้นหาบนเว็บมากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อสัปดาห์ และ ณ เดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ใช้งานจริงเป็นประจำทุกสัปดาห์ (Weekly Active Users) มากกว่า 400 ล้านคน
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI


