ก้นทะเลก็ชัดแจ๋ว AI ปรับปรุงสีภาพถ่ายใต้ทะเลอัตโนมัติ

หนึ่งในเรื่องปราบเซียนของบรรดาช่างภาพคือ การถ่ายภาพใต้น้ำ โดยเฉพาะการเก็บภาพใต้ทะเลจะยิ่งเป็นเรื่องท้าทาย ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ รวมถึงอุปกรณ์เฉพาะทางที่มีราคาสูง แต่ไม่ว่าจะเตรียมตัวหรือเชี่ยวชาญแค่ไหน ธรรมชาติใต้ทะเลก็จะทำให้ภาพของเราเพี้ยนจากที่ควรเป็น

 

นี่เป็นเหตุผลในการพัฒนา AI รุ่นใหม่ที่จะช่วยขจัดปัญหาการถ่ายภาพใต้ทะเล

 

 

UDnet อัลกอริทึมปรับภาพถ่ายใต้ทะเล

 

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจาก James Cook University จากประเทศออสเตรเลีย กับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ Uncertainty Distribution Network(UDnet) ระบบ AI สำหรับปรับปรุงคุณภาพภาพถ่ายใต้น้ำโดยเฉพาะ ช่วยปรับความคมชัดและสีสันของภาพที่ถ่ายใต้ทะเลอัตโนมัติโดยไม่ต้องอาศัยการปรับแต่งจากมนุษย์

 

สาเหตุที่ทำให้ภาพที่ถ่ายใต้น้ำไม่เหมือนเวลาที่อยู่บนบกมาจาก ธรรมชาติของน้ำมีอัตราดูดกลืนแสงสูงกว่าอากาศทำให้ความยาวคลื่นแสงบางช่วงหายไป ภาพที่ได้จึงเหลือเพียงแสงความยาวคลื่นสั้นแบบสีฟ้าหรือเขียว เมื่อรวมกับความหนาแน่นของน้ำที่มากกว่าอากาศ แสงที่ส่องจึงกระเจิงและถูกบดบังได้ง่าย

 

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงพัฒนาอัลกอริทึมเฉพาะสำหรับอุปกรณ์เก็บภาพอย่าง UDnet อาศัยการป้อนข้อมูลภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่ถูกบันทึกใต้น้ำจำนวนมาก จากนั้นเมื่อได้รับข้อมูลภาพถ่ายใต้น้ำ AI จะทำการประเมินภาพแต่ละพิกเซลอย่างละเอียด แล้วจึงเริ่มปรับแต่งแสงพร้อมชดเชยความสมดุลของสีที่ควรเป็น

 

กลไกนี้ช่วยให้ AI สามารถปรับภาพที่ได้รับจากกล้องให้เป็นปกติ ในขั้นตอนการทดสอบพบว่า UDnet มีคุณสมบัติในการปรับภาพถ่ายใต้น้ำได้มีประสิทธิภาพกว่าโมเดลอื่นตามท้องตลาด อีกทั้งสามารถติดตั้งลงบนกล้องและกล้องวีดีโอได้โดยตรง จึงสามารถทำการแก้ไขภาพที่มองผ่านเลนส์ได้แบบเรียลไทม์

 

UDnet จึงถือเป็นอัลกอริทึมที่ช่วยปรับภาพถ่ายใต้น้ำให้ใกล้เคียงกับภาพถ่ายปกติอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ความสำคัญของภาพถ่ายใต้ทะเล

 

จริงอยู่หลายท่านไม่รู้สึกว่าภาพถ่ายใต้น้ำมีสีผิดเพี้ยนเป็นเรื่องแย่ อาจถูกมองเป็นเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ สร้างความแปลกใหม่แก่วงการ มีความสวยงามอยู่ในตัว รสนิยมส่วนนี้อาจไม่ใช่เรื่องผิด แต่สำหรับบางสายงานสีที่เพี้ยนอาจสร้างความลำบากแก่พวกเขาเป็นอย่างยิ่ง

 

แรกสุดในด้านการอนุรักษ์ทางทะเล หลายครั้งเราไม่สามารถระบุรายละเอียดท้องทะเลได้แน่ชัดจากสีบนภาพถ่ายที่ผิดเพี้ยนจนการเก็บข้อมูลรายละเอียดทำได้ยาก หากสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้จะช่วยให้เราเก็บข้อมูลของสัตว์น้ำและสภาพแวดล้อมให้แม่นยำขึ้น

 

ต่อมาคือการสำรวจทางโบราณคดี หลายครั้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่จมอยู่ใต้น้ำยากต่อการศึกษา ทั้งในส่วนของซากเรืออับปาง โบราณสถาน หรือซากเมืองใต้ทะเล ภาพถ่ายส่วนมากไม่สามารถแสดงสีจริงของโบราณสถานเหล่านั้นได้ เมื่อมีการนำ AI นี้ไปปรับใช้จะช่วยให้การจำลองภาพในอดีตได้สะดวก

 

อีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ ภารกิจช่วยเหลือกู้ภัย การค้นหาซากเรืออับปางหรือเครื่องบินที่ตกใต้ทะเลเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยความพยายามและการตรวจสอบน่านน้ำอย่างละเอียดซึ่งกินเวลา แต่การนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้อาจช่วยย่นเวลาการค้นหาอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

 

 

จุดเด่นอีกอย่างของ UDnet คือ ติดตั้งง่ายพร้อมนำไปใช้งานได้ทันที อาศัยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถนำไปติดตั้งลงบนกล้องและอุปกรณ์เก็บภาพใต้ทะเลได้ทั่วไป ทางทีมวิจัยยังเปิดให้เข้าถึงและใช้งานอัลกอริทึมนี้ในฐานะโอเพนซอร์สโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

นี่จึงถือเป็น AI อัลกอริทึมที่เป็นประโยชน์ต่องานที่เกี่ยวพันกับการถ่ายภาพใต้ทะเลอย่างแท้จริง

 

 

 

ที่มา

 

https://techxplore.com/news/2025-01-underwater-exploration-boosted-image.html