posttoday

AI ปี 2025: ยุคแห่งความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจเลี่ยง

17 กุมภาพันธ์ 2568

ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราอย่างแยกไม่ออก พร้อมกระแสความเห็นที่หลากหลาย บางส่วนในแวดวงเทคโนโลยีมอง AI ด้วยความตื่นเต้นและเชื่อมั่นในศักยภาพ ขณะที่อีกหลายคนมองว่าเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะความกังวลเรื่องการว่างงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างแยกไม่ออก พร้อมกับกระแสความคิดเห็นที่หลากหลาย บางส่วนในแวดวงเทคโนโลยีมอง AI ด้วยความตื่นเต้นและเชื่อมั่นในศักยภาพ ในขณะที่อีกหลายคนมองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะความกังวลเรื่องการว่างงาน ข้อมูลเท็จ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 ความเป็นจริงของ AI อาจอยู่ตรงกลางระหว่างสองขั้วนี้ทั้งการสร้างโอกาสในวงการต่างๆมากมาย ขนานไปกับความท้าทายในการควบคุมเทคโนโลยี เราลองมาดูกันว่า 5 เทรนด์สำคัญที่กำลังกำหนดทิศทางของ AI ในปี 2025 และอนาคต จะมีอะไรบ้างที่จะทำให้การใช้ AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของเราอย่างลงตัว

 

1. กฎเกณฑ์ใหม่และการตรวจจับคอนเทนต์ AI: ความท้าทายของข้อมูลที่ไร้พรมแดน

ตั้งแต่บทความ เพลง ไปจนถึงวิดีโอ Deepfake คอนเทนต์ที่สร้างโดย AI อยู่รอบตัวเรา และนั่นทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยีถูกกดดันให้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลและพัฒนาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแยกแยะคอนเทนต์ที่สร้างจาก AI

ในปี 2025 เราคาดว่าจะได้เห็นนโยบายใหม่ๆ และเทคนิคการใส่ลายน้ำเพื่อแยกสื่อที่สร้างโดย AI ออกจากคอนเทนต์ที่สร้างโดยมนุษย์ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ เครื่องมือเหล่านี้อาจไม่ได้ผลเสมอไป คอนเทนต์ที่เขียนโดยมนุษย์อาจถูกระบุผิดว่าเป็น AI และยิ่งโมเดล AI พัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ การตรวจจับก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

แม้ว่าหลาย ๆ คนจะมองว่าปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มีประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญคือการแยก AI ออกจากข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ข้อมูลที่บิดเบือน และ Deepfake สิ่งเหล่านี้กำลังกลายเป็นเรื่องที่ตรวจจับได้ยากขึ้นทุกที โชคดีที่ AI เองก็กำลังถูกพัฒนาเพื่อต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งอาจฟังดูขัดแย้ง แต่ AI ตรวจจับ AI เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ในปีนี้ เราหวังว่าจะได้เห็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา ระบุเนื้อหาที่ถูกบิดเบือน และช่วยให้ผู้คนรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อความจริงและเรื่องเท็จกลายเป็นสิ่งที่แทบจะผสานกันจนแยกแยะได้ยาก

2. ผู้ช่วย AI: จากแชทบอทธรรมดาสู่ผู้ช่วยอัจฉริยะ

แม้ว่าผู้ช่วย AI จะอยู่รอบตัวเราไปหมด แต่มีเพียงไม่กี่ตัวที่จะสร้างประโยชน์ได้อย่างแท้จริง หลายครั้งแชทบอท AI ยังติดขัดเรื่องการเข้าใจภาษา สร้างข้อมูลเท็จ หรือดูน่าสนใจแค่ช่วงแรกก่อนจะกลายเป็นภาระมากกว่าผู้ช่วย

แต่นวัตกรรมล่าสุดกำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แทนที่จะรอรับคำสั่งตรงๆ หรือทำงานแบบแยกส่วน ผู้ช่วย AI รุ่นใหม่จะเข้าใจบริบทได้ลึกซึ้งขึ้น ทำงานเชิงรุก และผสานเข้ากับการทำงานของเราได้อย่างกลมกลืน

ความก้าวหน้านี้เกิดจากเทคโนโลยี Multimodal AI ที่สามารถประมวลผลทั้งข้อความ เสียง และภาพได้พร้อมกัน ลองจินตนาการถึงผู้ช่วย AI ที่เข้าร่วมประชุมออนไลน์กับคุณโดยอัตโนมัติ จดบันทึก สรุปงานที่ต้องทำ และอัปเดตระบบจัดการโครงการให้ทันที แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้แล้ว แต่ความท้าทายคือต้องทำให้มันทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพจริงๆ ไม่ใช่เสียเวลาไปกับการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือจัดการกับระบบที่ยุ่งยาก

3. AI ที่เข้าถึงความต้องการของผู้ใช้

AI อยู่รอบตัวเราและทำหน้าที่ปรับแต่งทุกอย่างให้เข้ากับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเพลย์ลิสต์ แนะนำคอนเทนต์ หรือวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ แต่คำถามคือมันมีประโยชน์จริงหรือไม่?

เราหวังว่าการปรับแต่งความต้องการเฉพาะบุคคลด้วย AI จะก้าวไกลกว่าแค่การแนะนำทั่วไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีที่เราใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่การช้อปปิ้งและความบันเทิง ไปจนถึงการศึกษาและการดูแลสุขภาพ AI จะสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยเข้าใจบริบท อารมณ์ และพฤติกรรมในระยะยาว 

อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งที่ละเอียดขึ้นนี้ก็มาพร้อมความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ผู้พัฒนา AI จึงต้องสร้างสมดุลระหว่างความโปร่งใส การควบคุมของผู้ใช้ และประสบการณ์ที่ปรับแต่งให้เข้ากับแต่ละคน

4. ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส ใส่ใจโลก

เมื่อระบบ AI ซับซ้อนขึ้น การใช้พลังงานก็เพิ่มตาม การฝึกฝนโมเดล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้พลังงานมหาศาล สิ่งที่ตามมาคือการปล่อยคาร์บอนจำนวนมโหฬารตามไปด้วย

ในปี 2022 Data Center คริปโตเคอร์เรนซี และ AI รวมกัน ใช้พลังงานราว 2% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก เพื่อตอบรับประเด็นนี้ คาดว่าจะมีการพัฒนาโมเดล AI ที่ประหยัดพลังงาน ฮาร์ดแวร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความโปร่งใสในการใช้พลังงานมากขึ้น

บริษัทต่างๆ จะได้รับแรงกดดันให้เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้ AI และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น 

5. โอกาสใหม่ในยุค AI ควรเพิ่มอัตราการจ้างงาน

หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานของตน โดยเฉพาะงานที่ทำซ้ำๆ หรือใช้ทักษะที่ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ AI อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นในสังคม เนื่องจากผู้ที่มีทักษะด้าน AI จะได้เปรียบในตลาดแรงงาน

อย่างไรก็ตาม AI จะเพิ่มโอกาสการสร้างงานใหม่ๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึงในวันนี้ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรม AI, ผู้เชี่ยวชาญด้าน MLOps, นักออกแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI, และ Prompt Engineer

AI จะเข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมนุษย์และ AI จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไปจนถึงผลักดันให้คนต้องพัฒนาทักษะของตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ แม้ความเห็นของสังคมยังแตกต่างกันมาก บางคนเห็น AI เป็นวิวัฒนาการที่น่าตื่นเต้น ขณะที่บางคนกังวลว่ามันแทรกซึมเข้าทุกมิติชีวิต ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ ความท้าทายที่แท้จริงคือการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความรับผิดชอบ ทำให้ AI ฉลาดขึ้น เป็นธรรมมากขึ้น และโปร่งใสยิ่งขึ้น

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา