จับตา "Agentic AI" เทรนด์ AI เปลี่ยนโลก! ไทยควรปรับตัวอย่างไร?

ปี 2567 ที่ผ่านมา "Generative AI" (GenAI) สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการ ด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์เนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูล และตอบโจทย์ธุรกิจหลากหลายรูปแบบ แต่ปี 2568 นี้ เตรียมพบกับคลื่นลูกใหม่ที่ใหญ่กว่า "Agentic AI" ที่จะพลิกโฉมการทำงานและโครงสร้างเทคโนโลยีไปอย่างสิ้นเชิง

Generative AI: รากฐานสู่ยุคใหม่

Generative AI อย่าง ChatGPT และ Gemini ได้พิสูจน์แล้วว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือช่วยงาน แต่ยังเป็น "เพื่อนร่วมงาน" ที่ชาญฉลาด สามารถเขียนอีเมล สรุปรายงาน หรือแม้แต่สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ การนำ GenAI มาผนวกกับข้อมูลองค์กรผ่านเทคนิค Retrieval Augmented Generate (RAG) ยิ่งปลดล็อกศักยภาพให้ AI เข้าใจบริบทเฉพาะของธุรกิจ นำไปสู่การสร้างแชทบอทอัจฉริยะ และระบบจัดการความรู้ภายใน (Internal Knowledge Management) ที่มีประสิทธิภาพ

Agentic AI: ก้าวข้ามขีดจำกัด สู่ "ผู้ช่วยอัตโนมัติ"

Agentic AI คือ AI ที่ทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ เรียนรู้ ปรับตัว และแก้ปัญหาซับซ้อนได้ เหมือนมี "ผู้ช่วย" ส่วนตัวที่จัดการงานต่างๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่ง Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 Agentic AI จะเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจงานประจำวันถึง 15%

Agentic AI พลิกโฉมธุรกิจอย่างไร?

• การตลาด: สร้างแคมเปญ Digital Marketing แบบเฉพาะบุคคล, แนะนำสินค้า (Up-sell/Cross sell) อัตโนมัติ
• ฝ่ายปฏิบัติการ: บริหารจัดการ Supply Chain, จัดซื้อ, แจ้งเตือน และส่งงานอัตโนมัติ
• ไอที: ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาระบบเครือข่ายและแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องพึ่งทีมไอทีขนาดใหญ่

โครงสร้างข้อมูล (Data Infrastructure): หัวใจสำคัญของความสำเร็จ

ข้อมูลคือ "วัตถุดิบ" สำคัญของ AI การมี Big Data ที่มีคุณภาพ ครบถ้วน และจัดเก็บอย่างเป็นระบบ คือกุญแจสู่ความสำเร็จ ซึ่งสิ่งที่องค์กรควรพิจารณา ได้แก่: 

• เทคโนโลยีสมัยใหม่: รองรับข้อมูลและเวิร์กโหลดทุกรูปแบบในแพลตฟอร์มเดียว (เช่น Data Lakehouse)
• เทคโนโลยีเปิด: ยืดหยุ่น ไม่ผูกมัดกับผู้ให้บริการรายใด (Open Platform) รองรับการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต (ตัวอย่าง: Apache Spark, Delta Lake, Trino, Iceberg)
• ความยืดหยุ่นและคุ้มค่า: รองรับการปรับขนาดตามความต้องการของโครงการ ทั้งบนคลาวด์และ On-premise

อนาคตของ AI ในประเทศไทย

การลงทุนด้าน AI และ Data Center อย่างมหาศาล จะปลดล็อกข้อจำกัดและทำให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และถูกลง Agentic AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทั้งในฐานะเครื่องมือช่วยเหลือและทดแทนการทำงานของมนุษย์ในบางส่วน

องค์กรควรเตรียมตัวอย่างไร?

1. เริ่มใช้ AI: หากยังไม่เคยใช้ ให้เริ่มต้นศึกษา ทดลอง และนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน
2. ทดลอง Agentic AI: หากมีพื้นฐาน AI อยู่แล้ว ให้ทดลองสร้างโปรเจกต์ Agentic AI เพื่อทดแทนงานบางประเภท เริ่มจากการทำงานร่วมกับมนุษย์ก่อน แล้วค่อยๆ ปรับให้เป็นระบบอัตโนมัติ
3. เพิ่มประสิทธิภาพ: ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่ไม่จำเป็น หรือ Up-skill/Re-skill พนักงานให้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้น
4. เตรียม Data & AI Infrastructure: สร้าง "ขุมทรัพย์ข้อมูล" ขององค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและสร้างความได้เปรียบในอนาคต

ยุคของ Agentic AI กำลังมาถึง องค์กรที่ปรับตัวและเตรียมพร้อม จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างมหาศาล นี่ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของธุรกิจและโลกใบนี้