"The Witch Game" นำร่องใช้ AI พากย์เสียง ภัยคุกคามหรือโอกาสของอุตสาหกรรมหนัง
"The Witch Game" ภาพยนตร์สยองขวัญจากอาร์เจนติน่า นำร่องใช้ AI สร้างเสียงพากย์ภาษาอังกฤษ ภัยคุกคามอาชีพนักพากย์หรือโอกาสใหม่ของวงการบันเทิง?
"The Witch Game" ภาพยนตร์แนวสยองขวัญแฟนตาซีจากอาร์เจนตินาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Harry Potter กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีความพิเศษคือไม่มีซับไตเติ้ลบรรยายแปลภาษาหรือใช้นักพากย์เสียงภาษาอังกฤษแบบเดิมๆ
แต่ "The Witch Game" ใช้เทคโนโลยี AI ในการแปลงเสียงนักแสดง จากเดิมที่พูดภาษาสเปนให้เป็นภาษาอังกฤษโดยยังคงอารมณ์และน้ำเสียงเดิมไว้ ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเข้ามาช่วยให้ผู้สร้างหนังประหยัดต้นทุนได้มากขึ้นทำให้การจัดจำหน่ายภาพยนตร์อิสระในระดับโลกเป็นไปได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม การใช้ AI พากย์เสียงภาพยนตร์ยังก่อให้เกิดประเด็นถกเถียง เนื่องจากเป็นกรณีศึกษาที่เห็นเป็นรูปธรรมว่า AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์โดยตรง
ทางด้านนักพากย์มืออาชีพหลายคนได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในการพากย์ภาพยนตร์ เนื่องจาก AI ขาดความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์และจังหวะการพูดที่เป็นธรรมชาติเหมือนมนุษย์ ส่งผลให้คุณภาพของงานพากย์ลดลงและกระทบต่อโอกาสในการจ้างงานของนักพากย์มืออาชีพ
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดประเด็นคำถามว่า นักแสดงมีสิทธิ์ปฏิเสธการใช้เสียงของตนเพื่อฝึกฝน AI หรือไม่? ในสัญญาจ้างมีการระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนให้นักแสดงรับรู้มาก่อนไหม? ไปจนถึงนักแสดงได้รับค่าตอบแทนสำหรับการพากย์แต่ละภาษาที่ AI นำเสียงของพวกเขาไปใช้หรือไม่?
โดยปกติแล้ว การนำเสียงของนักแสดงไปใช้ในการสร้างเสียงพากย์โดย AI จำเป็นต้องมีการตกลงเรื่องค่าตอบแทนเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการนำทรัพย์สินทางปัญญาของนักแสดงไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ หากไม่มีการตกลงเรื่องค่าตอบแทนล่วงหน้า นักแสดงมีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทนภายหลังได้
แม้ The Witch Game จะเป็นภาพยนตร์อิสระฟอร์มเล็กที่ต้องการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง แต่หากภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างภาพยนตร์อิสระทั่วโลกตัดสินใจใช้วิธีการเดียวกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงการภาพยนตร์ทั่วโลกในระยะยาว
ทั้งนี้ สำหรับเรื่องย่อของ The Witch Game จะเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งได้รับแว่น VR เป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 18 ปี โดยแว่น VR นี้สามารถพาเธอไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ลึกลับในโลกอีกใบหนึ่ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจาก Harry Potter และกำกับโดย Fabian Forte ผู้กำกับดาวรุ่งในวงการหนังสยองขวัญ