posttoday

สวัสดีปีใหม่ 2565

01 มกราคม 2565

คอลัมน์ เปิดประตูค้าชายแดน

ทุกปีในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกคนมักจะมีจิตใจแจ่มใส ในวันขึ้นปีใหม่ของบางปี ครอบครัวของผมก็จะเริ่มเดินทางออกไปท่องเที่ยวกัน บางปีก็จะไปต่างประเทศ บางปีก็จะเที่ยวในประเทศ บางปีก็จะไปทำบุญกัน

มีอยู่ช่วงหนึ่งสี่-ห้าปีติดต่อกัน ครอบครัวผมจะไปที่แหลมสิงห์ จังหวัดจันทรบุรี เพราะที่นั่นจะมีโฮมสเตย์ที่คุ้นเคยกัน เราจะสนิทสนมกันมาก ทุกครั้งที่ไปถึง เขาจะต้อนรับด้วยปลาหมึกแดดเดียว ทอดมาให้ทานกัน ซึ่งอร่อยมากจนวางมือไม่ลงเลยครับ ส่วนอาหารที่เขานำมาให้ทาน ก็จะเป็นอาหารทะเลที่เขาคัดสรรมาให้อย่างดี อร่อยทุกเมนูเลยครับ

สำหรับปีนี้ ผมมีความรู้สึกว่า ไม่ค่อยมีความคิดที่อยากจะออกไปท่องเที่ยว  แต่อยากจะอยู่บ้านพักผ่อนเสียมากกว่า คงเป็นเพราะสถานการณ์ที่รุมเร้าเข้ามาในประเทศไทยของเราหลายๆเรื่อง

ส่วนที่ประเทศเมียนมา ผมก็เชื่อว่าหลายครอบครัวก็คงจะมีความรู้สึกเศร้าสร้อย หดหู่กับสถานการณ์ต่างๆที่เข้ามาสู่สังคมของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคระบาดโควิด-19 ที่กระหน่ำเข้ามาเป็นปีที่สองแล้ว และที่หนักหนาที่สุดคือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่ทำให้หลายๆครอบครัวต้องระหกระเหินแตกแยกกัน

บางครอบครัวที่เลวร้ายที่สุด อาจมีการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของสมาชิกในครอบครัว บางครอบครัวที่เป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหลากหลายชื่อเรียกหรือหลากหลายกลุ่ม ที่ต้องอพยพหลีกลี้หนีภัยกัน

บางครอบครัวอาจจะโชคดีหน่อย ก็ย้ายครอบครัวมาพักอาศัยที่นอกประเทศ ซึ่งที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็มีมิใช่น้อย บางครอบครัวพ่ออยู่ทางแม่อยู่ทาง แตกกระสานส่านเซ็นกันไปคนละทิศละทางก็มีครับ

เราก็ได้แต่ภาวนาให้เขาเหล่านั้น กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สันติสุขกลับมาสู่ประเทศเมียนมาอีกครั้งครับ  

ในปีเก่า 2564 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ผมได้มีโอกาสอยู่กับบ้านมากที่สุดปีหนึ่ง ในช่วงสี่ห้าสิบปีเลยครับ ตลอดเวลาสิบสามกว่าปีที่ผ่านมา ผมมักจะเดินทางไปทำมาหากินที่ประเทศแถบอินโดจีนหรือ CLMV มาตลอด เดือนๆหนึ่งจะมีเวลาอยู่ที่กรุงเทพไม่เกินยี่สิบวันเลย

ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเมียนมาและต่างประเทศตลอด แต่หลังจากเจ้าวายร้าย COVID-19 เข้ามาอาละวาด ผมก็ไม่ได้เดินทางอีกเลย บางวันหลับก็ยังฝันว่าอยู่ที่บ้านที่เมืองย่างกุ้ง แต่พอตื่นขึ้นมาถึงรู้ว่าฝันไป ซึ่งก็ดีไปอีกแบบ เพียงแต่ต้องพยายามทำใจให้สบาย ไม่คิดมากจะได้ไม่กังวลใจไม่เครียดมาก เพราะทรัพย์สินที่ยังคงตกค้างอยู่ที่นั่นก็มีไม่ใช่น้อย ทุกอย่างต้องทำใจครับ 

ในส่วนพี่น้องชาวไทย ที่ไปลงทุนในเมียนมาเหมือนผม เท่าที่ได้พบปะพูดคุยกัน มีไม่น้อยที่ทำใจไม่ค่อยได้ ก็มีมาปรึกษาผมเยอะมาก ผมก็ได้แต่ปลอบใจ ให้ทำใจให้สบาย มองโลกในแง่บวกเข้าไว้

คิดว่าสักวันทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งถ้ากลับมาเป็นปกติแล้ว คนที่ยังคงมีธุรกิจอยู่ที่นั่น ก็จะได้ประโยชน์กว่าคนที่ไม่มีธุรกิจหรือคิดว่าจะเริ่มเข้าไปใหม่ เพราะเรามีฐานที่มั่นคงในนั้นแล้ว จงคิดว่าตราบใดที่ยังมีป่าไม้หลงเหลืออยู่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีฟืนมาก่อกองไฟครับ

ส่วนคนไทยที่อยู่ที่ประเทศไทย ผมก็คิดว่าเรายังโชคดีกว่าชาวเมียนมาเยอะมาก แม้ว่าบางครอบครัวอาจจะประสบกับปัญหาทางเศรฐกิจบ้าง ซึ่งผมก็มีเพื่อนหลายคนที่ประสบกับปัญหาดังกล่าว ก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ปีเก่าผ่านไป ให้หมดทุกข์ หมดโศรก หมดโรค หมดภัยครับ

สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ ผมขอขอบพระคุณแฟนคลับทุกท่าน ที่ได้ติดตามผลงานการนำเสนอข้อมูลข่าวสารจากประเทศเมียนมาของผมมาโดยตลอด และผมใคร่ขอพรคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้ทุกท่าน จงมีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพพลานามัยแข็งแรงตลอดกาลนานเทอญ !!!!