posttoday

เมียนมาเข้าสู่สภาวะวิกฤติแล้ว

24 กรกฎาคม 2564

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

ในอาทิตย์ที่ผ่านมา สถานการณ์ในประเทศเมียนมาร้ายแรงไปด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ที่ค่อนข้างจะรุนแรงมาก มีเพื่อนที่เป็นชาวไต้หวัน ได้โทรศัพพ์เข้ามาสอบถามถึงข่าวคราวที่ทางเขาได้รับว่าเป็นจริงหรือไม่? หลังจากที่เขาเล่าว่าเขาได้ทราบข่าวจากทาง Facebook ว่า ที่ประเทศเมียนมามีการระบาดรุนแรงมาก

ผู้คนต่างไม่ได้รับหยูกยาเพียงพอ ผมจึงได้บอกไปว่า “จริง ไม่ได้ผิดเพี้ยนเลยครับ” วันนี้ผมพอจะอนุมาณได้ว่า ประเทศเมียนมาเข้าสู่วิกฤติแล้วจริงๆ

เริ่มจากตัวเลขผู้ติดเชื้อของประเทศเมียนมา ในช่วงที่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ น่าเป็นห่วงมากๆ เรามาดูกันที่จำนวนการตรวจก่อน (ตามตารางข้างล่างนี้)

เมียนมาเข้าสู่สภาวะวิกฤติแล้ว

ถ้าเราดูจากตารางดังกล่าว จะเห็นว่ายอดของผู้ติดเชื้อใหม่ เมื่อเทียบกับผู้ที่หายแล้วสามารถกลับบ้านได้ จะไม่สัมพันธ์กันเลย จึงทำให้มียอดสะสมที่โรงพยาบาลสูงมาก ทำให้เตียงที่จะต้องรับผู้ป่วยมาดูแล จึงมีไม่เพียงพอ

วันนี้ถ้าใครป่วยติดเชื้อโควิด ถ้าหากอาการไม่รุนแรงจริงๆ แพทย์จะไม่รับเข้าพักรักษาภายในโรงพยาบาล  แต่จะแจกจ่ายยาแล้วให้กลับบ้านได้เลย จะมากระจองอแงไม่ยอมกลับหรืออ้างข้ออ้างใดๆไม่ได้เลยครับ เพราะเขาไม่มีเตียงให้เลย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน

ในขณะที่สถานฌาปนกิจศพ ที่เมืองย่างกุ้งมีเพียง 2 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีเตาเผา (ถ้าผมจำไม่ผิด) มีเพียง 9 เตาเท่านั้น รวมสองแห่งยังไม่ถึงยี่สิบเตาเลย เพราะผมเคยไปร่วมงานศพที่นั่นมาแล้วทั้งสองแห่งหลายครั้ง

ดังนั้นจึงพอจะทราบดีครับ เมื่อมีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ ผมจึงให้พนักงานที่บริษัทของผมเดินทางไปดูที่สถานฌาปนกิจ เขาส่งรูปมาให้ดู จะเห็นศพวางเรียงราย รอเตาเผาอยู่เยอะมาก ไม่น่าเชื่อว่าเมืองย่างกุ้งจะมีวันนี้ครับ

การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายในวันนี้ สาเหตุหลักที่ผมสันนิษฐาน ผมคิดว่าน่าจะมาจากความเชื่อของชาวเมียนมาเป็นสำคัญ เพราะคนที่ประเทศเมียนมา ผู้คนส่วนใหญ่เขาจะมีความเชื่อหมอพื้นบ้าน หรือคนทรงเจ้าเข้าทรงมาก

แม้แต่พนักงานที่บริษัทผมที่มีการศึกษาดี ก็ยังเป็นเช่นนั้น เคยมีพนักงานคนหนึ่ง ได้รับเชื้อ HIV เข้าไป ผมบอกพ่อเขาว่าให้พามารักษาตัวที่กรุงเทพฯเถอะ ค่าใช้จ่ายผมจะช่วยดำเนินการให้ เขาก็ไม่ยอมเชื่อ ดื้อดึงพาลูกเดินทางไปหาหมอพระที่เมืองยัว รัฐสกาย ซึ่งห่างจากเมืองย่างกุ้งร่วมพันกิโลเมตร สุดท้ายก็เสียชีวิตครับ

ดังนั้นถ้าเป็นคนทั่วไปติดเชื้อโควิด เขาอาจจะไม่ไปพบแพทย์ แต่จะไปหายามาทานเอง หรืออาจจะไปหาคนทรงเจ้าเข้าทรงก็เป็นไปได้ครับ ดังนั้นก็มีโอกาส “เดี้ยง”แน่นอน

ถามว่าแล้วทางการเมียนมาทำไมถึงไม่ให้ความรู้กับประชาชนละ ผมเห็นรัฐบาลเมียนมาเขาก็พยายามนะครับ โดยมีการทำการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน ถึงผลร้ายของเจ้าวายร้าย COVID-19 มาตลอดครับ แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลหรอกครับ

เพราะวินาทีนี้ รัฐบาลพูดอะไรประชาชนที่เขากำลังมีอคติกับรัฐบาลอยู่ ก็จะมองไปเป็นด้านลบไปเสียหมด หากจะมองถึงการทำงานของภาครัฐของประเทศเมียนมา วันนี้ค่อนข้างจะลำบากมาก เพราะสถานการณ์ของการประท้วงยังคงมีให้เห็นอยู่ ดังนั้นจึงยากที่จะเกลี้ยกล่อมให้ประชาชนทราบครับ  

สถานการณ์เช่นนี้แนวโน้มจะเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน เพราะวันนี้ที่ประเทศเมียนมาที่มีอยู่14 รัฐ และมีเมืองอยู่ทั้งหมดประมาณ330 เมือง แต่มีผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้ง 14 รัฐ 251 เมือง นับว่าน่ากลัวว่าจะครบทั้งหมดทุกเมืองในเร็ววันนี้แน่นอน

เพราะในเมืองที่อยู่ห่างไกลความเจริญออกไป เขาไม่ค่อยจะรับข่าวสารจากภาครัฐมากนัก ส่วนใหญ่จะห่วงแต่เรื่องปากท้องตนเองเป็นหลัก ดังนั้นที่ผมสันนิษฐานไว้ตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆว่าอีกไม่นานการระบาดของโรคร้ายจะรุนแรงขึ้น จึงได้เกิดขึ้นจริงครับ

เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่จะตามมาก็ต้องระวังการทะลักเข้ามาสู่ประเทศไทยเราแหละครับ วันนี้ทางฝั่งชายแดนด้านประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ได้ปิดสนิท และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ข่าวที่ประเทศจีนก็มีให้เห็นเกือบทุกวัน ถึงการระบาดในเขตเมืองยุ่ยหลี่ เขตปกครองตนเองเตอะหง

วันนี้เขาได้มีการล็อกดาวน์ทั้งเมือง ที่ประเทศจีนหากบอกว่าล็อกดาวน์เขาจะไม่อนุญาตให้มีการสัญจรไปมาเลย การออกนอกบ้านเขายังกำหนดให้ออกไปได้บ้านละ 1 คนเท่านั้น เมื่อจับจ่ายอาหารเสร็จ ต้องรีบกลับบ้านโรงเรียนหรือบริษัทปิดสนิทหมด ซึ่งไม่เหมือนประเทศไทย ที่ประกาศล็อกดาวน์ แต่บนถนนหนทางยังมีรถราวิ่งกันเต็มไปหมด

หรือ หากมีเหตุผลเจ้าหน้าที่ยังอนุญาตให้ไป อยากไปไหนก็ยังไปได้ หน่ำซ้ำอยากจะปิดถนนประท้วง ทั้งๆที่ไม่ใช่ข้าราชการยังสามารถทำได้ ตำรวจก็ยังคงเกรงใจประชาชนกลัวว่าจะก้าวล่วงสิทธิประชาชนอยู่เลย

ในประเทศเมียนมา ทางการเมียนมาเขาไม่เหมือนเราครับ ที่นั่นจะใช้วิธีปราบปรามเลย ดังนั้นก็จะมีการหนีตายกันเป็นผึ้งแตกรังละคราวนี้ แน่นอนครับประเทศไทยเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งรับให้ดีนะครับ มิเช่นนั้นเราจะมีปัญหาหนักกว่าปัจจุบันแน่นอนครับ