posttoday

เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจในเมียนมา

29 พฤษภาคม 2564

โดย กริช อึ๊งวิฑูรย์สถิตย์

ในช่วงชุลมุนวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ ทำให้ธุรกิจต่างๆในประเทศไทยต้องประสบปัญหากันแทบจะทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านบริการและร้านอาหาร ที่ต้องใช้การให้บริการผู้คน เพื่อมาแลกกับตัวเม็ดเงินเข้ามา เมื่อไม่สามารถให้ผู้คนมาใช้บริการได้ ก็ทำให้เม็ดเงินไม่รู้จะเข้ามาสู่กระเป๋าของผู้ประกอบการได้อย่างไร

เราอ่านจากข่าวทั่วไปก็จะพบเห็นกันมากมาย บ้างก็กล่าวโทษโน่น นี่ นั่น โดยไม่รู้ว่าจะโทษใครหรืออะไรดีครับ ส่วนตัวผมคิดว่าอาการเช่นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงประเทศไทยเราที่เดียวเท่านั้นนะครับ ที่จริงก็เป็นกันทั้งโลกนั่นแหละ

ผมมีพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่ทั่วทุกมุมแห่งในโลก วันๆได้รับข่างสารจากเพื่อนๆทั่วโลก ก็ยังไม่เห็นชาติไหนที่บอกว่าค้าขายดี เศรษฐกิจดีมากเลยครับ ดังนั้นเราคงต้องหันมาช่วยตัวเราเองให้มากๆก่อนที่จะไปโทษโน่น นี่ นั่นนะครับ

ที่ประเทศเมียนมาก็เช่นเดียวกันครับ ที่นี่ก็ถูกพิษร้ายของเจ้าวายร้าย COVID-19 เข้าไปเต็มๆเหนี่ยวเลย เมื่อวานนี้อาการเริ่มเป๋อีกแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ทางการประกาศ จากเดิมที่เป็นตัวเลขสองหลักมานาน(ตัวเลขที่ผมพูดตลอดว่าไม่น่าเชื่อถือ)

เมื่อวานนี้กระโดดมาใกล้ตัวเลขสามหลักอีกแล้ว ทั้งๆที่ผมเชื่อว่า การตรวจหาเชื้อไม่ได้เพิ่มมากขึ้น แต่ตัวเลขก้าวกระโดดขึ้นมา และที่หนักหนาสาหัสมาก ก็ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่นำมาซึ่งการประท้วงอาริยะขัดขืน

จนกระทั่งมาลงสู่ท้องถนนและต่อด้วยการปราบปรามจากภาครัฐ ต่อมาจนถึงขั้นการวางระเบิดป่วนเมืองที่เริ่มจากเมืองใหญ่ๆก่อน ตามมาด้วยหัวเมืองต่างๆ และสุดท้ายเมื่อต้นอาทิตย์ก็เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นตามรัฐต่างๆ

รวมถึงตามชายแดนที่มีการส่งออก-นำเข้าสินค้า อันเป็นปัจจัยในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั่นเอง จะเห็นว่าอาการของประเทศเมียนมาหนักหนาสาหัสกว่าประเทศไทยเราหลายเท่าตัวเลยครับ

เมื่อเป็นเช่นนี้ การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยทั้งที่อยู่ในประเทศเมียนมา หรือตามชายแดนสิบจังหวัดของไทย และผู้ที่มีการค้าเกี่ยวข้องกับชาวเมียนมา ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมเองในฐานะที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศเมียนมามานานกว่าสามสิบปี

ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่หนักหนาที่สุดเลยครับ เชื่อว่าเพื่อนๆที่เข้าไปทำธุรกิจที่นั่นเกือบทุกคน ต้องมีความยากลำบากเหมือนผมแน่นอน เรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เพราะธนาคารเอกชนในเมียนมา เปิดได้ไม่เต็มที่ การเบิกเงินสดไม่สามารถเบิกได้ตามจำนวนที่ต้องการ อีกทั้งการโอนเงินออกมานอกประเทศ ทำได้ยากมาก เรียกว่าย่ำแย่กันไปหมดทุกคนครับ

ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาซึ่งผมเป็นหัวเรือใหญ่อยู่ จึงได้ร้องขอให้ทางกระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือ นำมาซึ่งการประชุมร่วมกันทุกภาคส่วน สรุปผลออกมาจึงได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) ได้ออกซอฟท์โลนมาช่วยผู้ประกอบกการไทยทุกส่วนเลยครับ

หลังจากที่ได้มีการจัดการประชาสัมพันธ์ออกไปหนึ่งครั้ง ทางสัมมนาออนไลน์ แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่มีผู้เข้ามายื่นแบบแสดงความจำนงค์เข้ามา เพื่อขอกู้เงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำครั้งนี้ไม่กี่สิบราย ส่วนใหญ่ที่ผมได้สัมผัสมาจากในวันสัมมนา ก็มีเพื่อนๆผู้ประกอบการส่งคำถามผ่านเข้ามาที่ไลน์ส่วนตัวผมหลายราย

ส่วนใหญ่มักจะมีความกังวลใจว่า เมื่อยื่นขอไปแล้วจะขาดคุณสมบัติ เพราะหลายๆคนที่มีประสบการณ์ในการยื่นเรื่องเพื่อขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทยแล้ว มักจะไม่ผ่านกัน ส่วนใหญ่มักจะพูดว่าธนาคารพาณิชย์เอกชนจะกู้ง่ายกว่า Exim Bank จึงทำให้ไม่มีความมั่นใจในตนเองว่าจะมีคุณสมบัติหรือไม่ ส่วนใหญ่ถอดใจไปเสียก่อนเสมอ ซึ่งผมก็พยายามที่จะสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจว่า

ครั้งนี้รัฐบาลท่านมีความจริงใจในการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพราะฉนั้นอย่าเพิ่งถอดใจหรือตัดสินใจว่าตนเองจะไม่ผ่าน ขอให้ยื่นเข้าไปก่อน ผู้ที่จะตัดสินว่าจะให้กู้หรือไม่ให้กู้ ไม่ใช่ตัวเราเอง แต่เป็นธนาคารเป็นผู้ตัดสิน

ดังนั้นขอให้ทุกคนลองทำตามที่ทางธนาคารเสนอมาว่า จะต้องการเอกสารอะไรบ้าง เรายื่นเข้าไปแล้วหากขาดเหลืออะไร เรามีหน้าที่ที่จะต้องเติมเต็มความต้องการของธนาคาร อย่าลืมว่านี่คือโอกาสในการอยู่รอดทางธุรกิจของเราครับ

หลังจากสัมมนาผ่านพ้นไป ผมได้พยายามสอบถามไปยังธนาคารไปหลายครั้ง เมื่อทราบผลแล้ว ผมจึงได้เชิญคณะทำงานของกรรมการสภาธุรกิจไทย-เมียนมาร่วมหารือกับธนาคารกันอีกครั้ง สรุปว่าเรามีความเห็นตรงกันว่า ควรจะต้องจัดสัมมนากันอีกครั้งหนึ่ง จึงได้กำหนดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายนที่จะถึงนี้

โดยในวันสัมมนานี้ เราจะเชิญเพื่อนๆที่ผ่านการอนุมัติให้กู้ซอฟท์โลนดังกล่าวไปแล้ว และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก (Exim Bank) มาให้ความรู้ในการยื่นเรื่องขอกู้เงินดังกล่าว

อีกทั้งจะมีผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการจัดทำงบดุล-งบกำไรขาดทุน มาให้คำแนะนำด้วย การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการจัดสัมมนาทางออนไลน์ ซึ่งท่านที่สนใจไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้ามาร่วมสัมมนาที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเลยครับ

เพียงแต่ท่านสมัครเข้ามาที่สภาธุรกิจไทย-เมียนมา ที่เบอร์โทรศัพพ์ 02-345-1128 และ 02-345-1125 ติดต่อจองเข้าร่วมได้ที่คุณกี๊ฟ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ