posttoday

กลุ่มสร้างสถานการณ์ในเมียนมา

22 พฤษภาคม 2564

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

เมื่อเวลาประมาณ 15:00 น.ของวันที่ 19 พฤษพาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ลานจอดรถของห้างแม็คโคร สาขาย่างกุ้ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านผมที่เมืองย่างกุ้ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนซัตส่านลาน ที่เขตปะซุ่นตอง ใกล้ๆกับตลาดค้าไก่

ในบริเวณดังกล่าวเป็นเขตกลางเมืองย่างกุ้งก็ว่าได้ ซึ่งโชคดีที่ไม่มีรายงานคนบาดเจ็บล้มตาย และหวังว่าประชาชนตาดำๆทั่วไปจะไม่ได้รับบาดเจ็บครับ

ถนนเส้นนี้ผมจะคุ้นเคยมาก และต้องขับรถผ่านทุกวัน ตอนเช้าไปทำงานที่บริษัท ก็จะขับผ่านถนนเส้นนี้ตลอดเลยครับ อีกอย่างหนึ่งที่ผมคุ้นเคยกับถนนเส้นนี้ เพราะว่าในอดีตบริษัทของผมเคยตั้งอยู่ที่นี่ถึงสองครั้งครับ ที่เล่ามาอย่างนี้บางท่านอาจจะไม่เข้าใจ ต้องอธิบายสักนิดนะครับ ที่ประเทศเมียนมาเวลาที่เราไปหาที่เช่าที่ตั้งสำนักงานนั้น

ทางผู้ให้เช่าเขาจะให้เช่าครั้งละหนึ่งปี  สมมุติว่าเราเริ่มเช่ากันเดือนมกราคมปีนี้ เขาก็จะขอเก็บค่าเช่าก่อนหนึ่งปีล่วงหน้า บวกค่านายหน้าหนึ่งเดือน และบาวค่าภาษีอีกหนึ่งเดือน รวมเบ็ดเสร็จ 14 เดือนเลยครับ และพอถึงเดือนมิถุนายน ผู้ให้เช่าก็จะมาถามเราว่า ปีหน้าจะเช่าต่ออีกมั้ย หากเช่าต่อต้องจ่ายค่าเช่าของปีหน้าก่อนเลยอีกหนึ่งปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้เป็นต้นไป

หากเราไม่ประสงค์จะเช่าต่อ เขาก็จะเริ่มหาผู้เช่ารายใหม่กันเลย พอครบเวลาถึงเดือนธันวาคม เราจะไม่ยอมออกไปก็ไม่ได้แล้ว เพราะผู้เช่ารายใหม่มารออยู่แล้ว นี่เป็นตลาดของผู้ให้เช่าอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตลาดของผู้เช่าที่ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลยครับ

ดังนั้นทั่วๆไปพอผู้ให้เช่าเห็นว่าผู้เช่าแสดงเจตจำนงค์จะเช่าต่อ โดยการเสียเงินเสียทองไปเยอะแยะในการตกแต่ง คราวนี้ผู้ให้เช่าเขาก็จะขอขึ้นราคาค่าเช่าทุกปีๆละ10%-20% แล้วแต่เขาจะเรียก คนที่คิดว่าลงทุนตกแต่งไปเยอะแล้ว หรือไม่อยากหาที่ใหม่ไป ก็ต้องหวานอมขมกลืนไป

แต่ผมมักจะอยู่ได้แต่ละที่ไม่เกินสี่ห้าปี ก็ต้องหาที่ใหม่แล้ว เพราะสู้ราคาค่าเช่ากระโดดสูงเกินไปไม่ไหว ทีนี้ท่านคงพอจะเข้าใจนะครับว่า ที่ผมบอกว่าผมอยู่บนถนนเส้นนี้มาสองครั้ง คือย้ายสำนักงานมาสองครั้งนั่นเองครับ

เข้าเรื่องการระเบิดที่ลานจอดรถในห้างแมคโครต่อนะครับ มีคนโทรศัพพ์มาถามผมว่า ที่เกิดระเบิดขึ้นที่ห้างฯที่มีคนไทยเป็นเจ้าของนั้น มีนัยยะสำคัญอะไรหรือเปล่า กล่าวคือ คงจะคิดว่าเป็นการแสดงสัญญาลักษณ์ว่า คนเมียนมาเกลียดชังผู้ประกอบการไทยหรือเปล่านั่นเอง โดยส่วนตัวผมคิดว่า “ไม่น่าจะใช่”นะครับ

ที่กล้าพูดคำนี้ก็เพราะว่าการปฎิบัติการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในครั้งนี้ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้มีทัศนคติไม่ดีต่อนักลงทุนไทย หรือนักลงทุนชาวต่างชาติอย่างแน่นอน เพราะว่าถ้าหากเขามีความประสงค์จะทำร้ายหรือมุ่งเน้นมาที่ผู้ประกอบการไทยรายใดรายหนึ่งจริงๆ

ผมเชื่อว่าเขาคงไม่ไปวางที่ลานจอดรถหรอกครับ เขามีศักยภาพทำได้มากกว่านั้นมาก ดังนั้นการวางระเบิดในจุดที่เกิดเหตุ จะไม่ได้มีความไม่ชอบต่อบริษัทหรือผู้ประกอบการไทยนั้นหรอกครับ เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ หรือถ้าเขาจะทำจริงๆ เขาคงเลือกไปทำในที่ๆสร้างความเสียหายได้มากกว่านี้แน่ๆครับ

ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เราจะได้ยินข่าวว่า มีการวางระเบิดหรือขว้างปาระเบิดเข้าไปยังสถานที่ราชการ สถานีตำรวจ หรือสถานที่ๆสำคัญทางราชการมาบ่อยๆมาก ซึ่งมักจะทำกันยามค่ำคืน และการกวดขันไล่ล่าจับกุม ก็ยังคงดำเนินต่อไปกันอยู่ แต่ที่ผ่านๆมาผมยังไม่ได้ยินข่าวว่ามีการจับกุมมือวางระเบิดได้เลยนะครับ

อีกทั้งถ้าหากผู้ไม่หวังดีต้องการที่จะมุ่งตรงมาที่ผู้ประกอบการสัญชาติไทยจริงๆ ผมเชื่อว่าเขาคงมีความสามารถหาเป้าหมายที่สำคัญกว่านั้นแน่นอนครับ เพราะการกระทำครั้งนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นเป็นสัญญาลักษณ์ที่ชัดเจนอะไรเลยครับ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ จึงหวังว่าพวกพี่ๆน้องๆที่ทำธุรกิจที่นั่น จะไม่ตื่นตระหนกจนเกินไปนะครับ

อีกประการหนึ่งการไปลงทุนในเมียนมาครั้งนี้ของผู้ประกอบการไทยดังกล่าว ได้รับเชิญจากท่านอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ (ซึ่งเป็นคนของพรรค NLD) และท่านฑูตพาณิชย์เมียนมาประจำประเทศไทย ท่านได้มาเชิญให้ผู้ประกอบการไปลงทุนในประเทศเมียนมาด้วยตัวท่านเอง ดังนั้นคงไม่มีเหตุผลที่ฝ่ายผู้ไม่หวังดีจะต้องมาทำร้ายแน่นอนครับ

ส่วนเหตุผลที่แท้จริงในการป่วนเมืองครั้งนี้ ส่วนตัวผมเชื่อว่า น่าจะสร้างกระแสให้รัฐบาลใหม่ของเมียนมา ได้เห็นถึงความไม่พึงพอใจมากกว่า ไม่น่าจะเป็นการเหยียดหรือไม่พอใจผู้ประกอบการไทยนะครับ

ส่วนเรื่องนี้เราคงต้องปล่อยให้ทางรัฐบาลประเทศเมียนมากับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เขาไปแก้ไขกันเองครับ เราในฐานะคนนอก เราไม่ควรจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการวิพากษ์วิจารณ์อะไร ที่จะทำให้เกิดความบาดหมางหรือสร้างปัญหาความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศเสียหายเกิดขึ้น

เพราะถ้าเราถือว่าเป็นเรื่องกิจการภายในประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน น่าจะดีที่สุดนะครับ

ภาพข่าว - REUTERS/Stringer