การเลือกตั้งใหญ่ในเมียนมา

ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งโลกต่างจับตาดูการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีแต่คนถามถึงว่าเชียร์ใคร

ผมเองก็ไม่กล้าบอกว่าผมเชียร์ใคร เพราะถ้าบอกว่าเชียร์นาย โจ ไบเดน  ก็กลัวว่าคู่สนทนาเขาจะเชียร์ประธานาธิบดี โดนัลน์ ทรัมป์อยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้  หรือถ้าบอกว่าเชียร์ โดนัลน์ ทรัมป์ เราก็เกรงว่าเขาจะคิดอย่างไรหรือเปล่า 

เห็นมั้ยครับว่าเรื่องการเมือง มันแรง!!!! ผมคิดว่าไม่ยุ่งจะดีกว่านะครับ

ที่ประเทศเมียนมาก็เช่นกันครับที่นี่การเมืองเขาก็แรงมากๆถ้าไม่อยากเสียเพื่อนก็อย่าไปคุยกับเขาเรื่องการเมืองเลยครับ

เพราะที่เมียนมาเขามีสองพวกหลักด้วยกัน คือ พวกสีแดงกับพวกสีเขียว สีแดงคือพรรค NLD หรือพรรคของท่านดอร์ อ่อง ซาน ซูจี ส่วนพรรคสีเขียว ก็เป็นพรรค USDP ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นพรรคที่มีทหารหรือผู้มีอำนาจอันยาวนานของประเทศเมียนมาหนุนหลังอยู่

ส่วนพรรคอื่นๆนั้นครั้งนี้ก็มีหลายพรรคที่เข้าร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งอีกมากมายดังนั้นถ้ารักใครชอบใครก็อย่าไปให้ความเห็นในวงสนทนาโดยเด็ดขาดถ้าไม่อยากเสียเพื่อนเพราะถ้าพูดไม่ถูกหูหรือให้ความเห็นผิดข้างมีหวังได้มีวงแตกแน่ๆ

เรื่องนี้ไม่ว่าที่ไหน ก็มีทั้งรักและชัง มีทั้งชอบและเกลียด ผมเองอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ก็จะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีอย่างเดียวครับ เวลาใครวิเคราะห์การเมือง ผมชอบฟังครับ แต่จะไม่ชอบออกความเห็น คอยเก็บข้อมูลไว้ในใจ แม้ใจหนึ่งจะชอบใคร ผมก็ไม่แสดงออกโดยเด็ดขาดครับ เพราะผมมีเพื่อนอยู่ทั้งสองพรรค นี่หมายรวมถึงที่เมืองไทยก็เช่นกันครับ เราฟังแล้วก็จะเงียบเฉยไว้ โนคอมเม้นต์ ดีที่สุดครับ

พอกลับมาถึงประเทศไทย ช่วงนี้ไม่ได้เดินทางไปเมืองย่างกุ้งมาหลายเดือนแล้ว เพราะเจ้าวายร้าย COVID-1 อาละวาดหนัก ทำให้ติดแหงกอยู่ที่กรุงเทพฯนี่แหละ  และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้รับเชิญให้ไปร่วมประชุมโต๊ะกลมเรื่องการเลือกตั้งในประเทศเมียนมาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปรากฏว่ากลับมาผมก็ได้พูดคุยกับเพื่อนกรรมการสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ถึงเนื้อหาที่วันนี้คุยกัน ว่าผลของการเลือกตั้งใหญ่ในเมียนมาจะออกมาอย่างไร  เพื่อนเลยยุส่งว่า “คุณกริชรู้เรื่องการเมืองเมียนมาเป็นอย่างดี ทำไมไม่นำเอามาแบ่งปันให้คนไทยได้รับรู้บ้างละครับ น่าจะจัดสัมมนาสักครั้งนะ คิดว่าน่าจะมีคนสนใจนะครับ”

ผมเองก็บ้ายุเสียด้วยสิ เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราควรจัดเป็น Dinner Talk เลยน่าจะดีกว่าจะได้ให้เพื่อนๆได้มาสังสรรค์ทานข้าวกันไปคุยกันไปก็ไม่เลวนะจึงได้โทรไปชวนน้องจอยศุนันทวดี

น้องจอยก็บอกว่า “ดีพี่ เราน่าจะจัดเป็นเวทีเปิดไปเลย คิดว่าคนสนใจน่าจะเยอะ” ผมจึงโทรไปเรียนถามอาจารย์เกษมสันต์ที่ผมนับถือ อาจารย์เกษมสันต์ก็รับปากว่าจะมาร่วมเสวนาบนเวทีให้ คราวนี้เลยสนุกกันไปใหญ่เลยครับ ผมเลยรีบโทรกลับไปคุยและขออนุมัติจากกรรมการสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เพื่อจัดเป็นงานใหญ่ไปเลย จึงเกิดงาน “Dinner Talk เศรษฐกิจและการลงทุนในยุค COVID-19 หลังการเลือกตั้งใหญ่ในเมียนมา” 

โดยจะมีอาจารย์เกษมสันต์ วีรกุลและผม กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ โดยมีน้องจอย ศุนันทวดี อุทาโย เป็นผู้ดำเนินรายการ

ในวันงานอาจารย์เกษมสันต์จะเป็นผู้บรรยายเนื้อหาของประเทศเมียนมา ถึงสภาพเศรษฐกิจมหภาค และอนาคตหลังจากเจ้าวายร้าย COVID-19 ผ่านพ้นไปว่าทิศทางจะไปทางไหน

เรื่องนี้ผู้เข้ารับฟังจะได้ฟังจากปากกูรูที่เชี่ยวชาญด้านAEC ตัวจริงเสียงจริงน่าฟังมากครับส่วนผมจะนำเอาผลการคาดการณ์ว่าเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรจะมีความวุ่นวายมากน้อยแค่ไหนอีกทั้งผมจะชำแหละว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนของประเทศเมียนมาเป็นรายบุคคลเลย

ผมจะเล่าให้ฟังว่ามีใครบ้างที่น่าสนใจและจะมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลใครบ้างที่แม้จะหลุดเข้ามาสู่สภาฯแต่ก็ไม่น่าจะมีโอกาสได้เข้าร่วมเหตุผลเพราะอะไรเป็นต้นแต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆไม่สามารถพูดได้ว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์แน่นอนครับฟังเอาสนุกๆนะครับ

งานนี้จะจัดขึ้นในว้นที่ 11 พ.ย.นี้ เวลา 18:00 น.นะครับ สถานที่คือที่ The Oduem Bangkok ถนนพระรามเก้า ซอย 39/1 ถ้าลอดอุโมงค์ มาจากทางถนนพัฒนาการ  มายังถนนรามคำแหง 24 จะอยู่ด้านขวามือ เป็นบ้านทรงไทย หาง่ายครับ เข้า Google Map ก็จะหาได้ง่ายครับไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ

นอกจากค่าอาหารที่ต้องซื้อหา คนละ 350 บาท อาหารเป็นเมนูอาหารเต้าหู้แสนอร่อย จากร้านเทนเนน โทฟู  ท่านจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารปากและเต็มอิ่มกับข้อมูลที่ท่านไม่เคยได้ยินรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สนใจต้องรีบจองที่นั่งนะครับ เพราะไม่มีเวลาแล้ว และที่นั่งมีจำกัดครับ โดยติดต่อได้ที่ คุณกุลลดา Tel 02-345-1128  คุณสุวิมล Tel 02345-1151 คุณแพรว Tel 02-7185274-80 ต่อ 202 ด่วนครับ