posttoday

ข้อมูลที่ชัดเจนของCOVID-19 ระลอกสอง

03 ตุลาคม 2563

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

เมื่อหลายวันก่อน ผมได้ไปออกรายการของคุณสุทธิชัย หยุ่น เรื่องสถานการณ์ COVID-19ระลอกสอง ปรากฎว่าหลังจากนั้นหนึ่งวัน ทางคุณสุทธิชัยได้รับไลน์จากแฟนคลับมาบอกว่า ข้อมูลบางอย่างคลาดเคลื่อนไป

เช่น การล็อกดาวน์ในเมืองย่างกุ้งนั้น ที่จริงแล้วไม่ได้ล็อกดาวน์ทั้งหมด เพราะทางราชการเมียนมาได้ประกาศให้ Stay at home policy เท่านั้น

ซูปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งยังเปิดให้บริการอยู่และการขนส่งสินค้ายังสามารถขนส่งได้เป็นไลน์จากคุณวัชรพลซึ่งผมต้องกราบขอบพระคุณจากใจจริงและขอกราบขออภัยที่การให้ข้อมูลที่ผิดพลาดของผมครับ

ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และต่อไปนี้ผมจะพยายามตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนจะเขียนหรือให้ข่าวต่อไปครับ

ผมขอชี้แจงถึงแหล่งข่าวและที่มาของข้อมูลที่ผมได้มาทุกครั้งว่า ผมจะได้มาจากน้องที่บริษัทของผมที่เมืองย่างกุ้ง และบางข่าวผมก็จะอ่านมาจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษสามฉบับ อาทิเช่น The Irrawady News, Myanmar Time, Mizzima News, เป็นต้น

ในวันที่ทางราชการเมียนมาได้ประกาศนั้น น้องคนดังกล่าวได้ส่งรูปที่มีภาพข่าวบนถนนที่ว่างเปล่า และบอกผมมาว่าบริษัทปิดหมดแล้ว เขาได้ไปที่ห้างซิตี้มาร์ทใกล้ๆบ้าน และห้าง Capital Wholesale Market ที่อยู่ตรงข้ามบริษัทผมก็ถูกประกาศปิดไปแล้ว

ผมจึงถามไปว่าล็อกดาวน์หมดแล้วเหรอ เด็กก็ตอบมาว่าน่าจะปิดหมดแล้วนะครับ ผมจึงเข้าใจผิดและไม่ได้ทันตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ผมจึงเกิดการผิดพลาดขึ้น จึงกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยความเสียใจยิ่งครับ

อย่างไรก็ตามผมไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝงเลย เพียงแต่อยากจะเตือนให้คนไทยผู้ที่อยู่ชายแดน 10 จังหวัดให้ตระหนักถึงภัยที่เรามองไม่เห็น อีกทั้งอย่าการ์ดตกโดยเด็ดขาดเท่านั้นครับ

ในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้เข้าพบฯพณฯท่านเอกอัครราชฑูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อเรียนรายงานโครงการ “มิตรภาพปันน้ำใจสู้ภัยCOVID-19 ประเทศเมียนมา”ที่สภาธุรกิจไทย-เมียนมาได้ดำเนินการอยู่

ซึ่งฯพณฯท่านก็เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองย่างกุ้งที่มีผู้ติดเชื้อโควิดระลอกสองให้ฟังที่ค่อนข้างจะหนักหนามากผมเองก็ได้เล่าถึงเหตุผลที่ผมได้เริ่มทำโครงการนี้วัตถุประสงค์เพื่อส่งความปารถนาดีและมิตรไมตรีของประชาชนชาวไทยทุกคนไปให้แก่ชาวเมียนมา

เหตุที่บอกว่าเป็น “จากคนไทยทุกคน”เพราะทางกรรมการที่ร่วมกันรวมพลังดำเนินโครงการนี้ ได้ใช้เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ทุกสนามบิน และศูนย์หนังสือซี-เอ็ดสามร้อยกว่าสาขาเป็นที่รับบริจาคเครื่องเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์โดยส่งสิ่งของเหล่านั้นด้วยสายการบินนกแอร์เพื่อส่งไปที่อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก

ดังนั้นผมจึงแอบอ้างว่ามาจากประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งฯพณฯท่านเอกกอัครราชฑูตฯก็ฝากมาบอกว่าประชาชนชาวเมียนมาซาบซึ้งในน้ำใจ และขอบคุณคนไทยทุกคนมาด้วย 

อีกทั้งท่านขอบคุณทีมงานทุกคนที่ได้ร่วมกันทำโครงการนี้ได้สำเร็จอีกทั้งท่านก็บอกว่าขณะนี้ที่เมืองย่างกุ้งได้เกิดปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์อย่างมากอีกทั้งโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอ

ในขณะที่รัฐบาลเมียนมาก็ไม่ได้ให้นโยบายขอความช่วยเหลือจากมิตรประเทศซึ่งผมเข้าใจเองว่าเขาคงเกรงใจเพราะว่าทุกประเทศก็กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันดังนั้นจึงไม่เหมาะสมที่จะรบกวนมิตรประเทศ

ผมจึงเรียนท่านไปว่า ผมและคณะกรรมการจะพยายามระดมกำลัง เพื่อขอบริจาคโรงพยาบาลเคลื่อนที่ชั่วคราว (ซึ่งด้วยความเป็นจริงก็เพียงเต็นท์ผ้าใบธรรมดาและเตียงพยาบาลเท่านั้น) ซึ่งผมเข้าใจว่าคงใช้เงินไม่มากเท่าไหร่

ดังนั้นหากบริษัทฯห้างร้านไหน อยากจะทำบุญช่วยบริจาค กรุณาติดต่อมาที่สภาธุรกิจไทย-เมียนมาได้เลยนะครับ ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน ในช่วงที่เขาต้องการได้นะครับ

ส่วนการส่งมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมา จะทำการส่งมอบครั้งที่ 1 ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

โดยฯพณฯท่านเอกอัครราชฑูตเมียนมาประจำประเทศไทย จะมารับมอบด้วยตัวท่านเอง ซึ่งอุปกรณ์สิ่งของเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนและบริจาคจากหลายหน่วยงาน เช่น กลุ่มบริษัท TCP กรุ๊ป จำกัด(เครื่องดื่มกระทิงแดง) ได้บริจาคเงินมาให้ 1,000,000 บาท กลุ่มบริษัทสหพัฒน์ บริจาคอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 500,000 บาท บริษัท PTTGC จำกัด(มหาชน)บริจาคให้อุปกรณ์การแพทย์มูลค่า 488,000 บาท 

บริษัทโตโยต้า นนทบุรี จำกัด บริจาคอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 400,000 บาท สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริจาคเวชภัณฑ์ มูลค่า 300,000บาท บจก.สมุนไพรภูมิพฤกษา บริจาคเวชภัณฑ์มูลค่า 200,160 บาท บริษัท SD Industry จำกัด บริจาคเป็นเงิน 200,000 บาท บริษัท INTERROLL จำกัด บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท

และยังมี ทั้งสายการบินนกแอร์และซี-เอ็ด กรุ๊ป บริษัทลีโอ Logistics  บริษัท EAGLE Logistics ที่ช่วยเหลือทุกๆด้าน อีกทั้งยังมีหลายท่านที่บริจาคเงินมาที่ “มูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม” เข้ามาหลักหมื่น หลักพัน หลักร้อยอีกมากมายครับ ผมไม่สามารถอธิบายได้หมด

ในการส่งมอบครั้งนี้เป็นเพียงครั้งแรกอย่างเร่งด่วนก่อน เพราะขณะนี้ทางเมืองย่างกุ้งและเมืองชิตต่วย กำลังรอสิ่งของเหล่านี้อยู่  และทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาจะดำเนินการเพื่อรวบรวมและจัดหาอุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์

เพื่อจัดส่งไปช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สองต่อไปในช่วงปลายเดือนนี้ครับ ยังหวังว่าจะได้รับความกรุณาจากเพื่อนๆที่อยากจะสร้างกุศลฯอีกต่อไปนะครับ

ผมขออนุญาตใช้พื้นที่นี้กราบขอบพระคุณแทนพี่น้องชาวเมียนมาและอนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่านที่ส่งมอบความปารถนาดีและมิตรไมตรีไปให้ชาวเมียนมาในครั้งนี้ด้วยความจริงใจอย่างสูงสุดครับ