posttoday

แผนสกัดโรคร้ายจากเมียนมา

19 กันยายน 2563

โดย....กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วงระยะเวลา 20 วันที่ผ่านมา การระบาดของเจ้าวายร้าย COVID-19 ระลอกสอง ได้เข้าสู่โหมดของจริงที่เมียนมา ทำให้ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาเองได้มีกังวลเป็นอย่างยิ่ง

ผมจึงได้เรียนเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ท่านเอกอัครราชฑูตไทย-ประจำประเทศเมียนมา ท่านสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ ท่านฑูตพาณิชย์ ผศ.ดร.ธนาวุฒิ นัยโกวิท ท่านนายด่านศุลกากรทุกด่าน ท่านหัวหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา ตัวแทนจากกองควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข  ตัวแทนจากศบค.มท.กระทรวงมหาดไทย ตัวแทนจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยประจำกรุงย่างกุ้ง 

ภาคเอกชนมีทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกรรมการสภาธุรกิจไทย-เมียนมา โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมออนไลน์และออฟไลน์ ดังนั้นจึงมีหลากหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุมกันโดยถ้วนหน้า ผมต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านมาณ.ที่นี้ด้วยครับ

จากการประชุมครั้งนี้ ทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาได้แสดงความกังวลใจว่าโรคร้ายนี้จะระบาดเข้าสู่ประเทศไทยผ่านทางชายแดนจึงขอให้ท่านเอกอัครราชฑูตสุพัตราช่วยอัพเดทสถานการณ์ปัจจุบันเพราะที่เป็นข่าวออกมาค่อนข้างจะรุนแรงมากท่านได้กรุณาเล่าถึงสถานการณ์ว่าภาพที่ได้เห็นทางหน้าสื่อเรื่องการปิดซอยต่างๆนั้นเป็นการช่วยเหลือกันเองของชุมชนในกรุงย่างกุ้งซึ่งเขาจะรักสามัคคีกันมาก

แต่ทางการของรัฐบาลเมียนมายังไม่ได้ประกาศออกมาล็อคดาวน์อย่างเป็นทางการเพราะยังสามารถที่จะอนุญาตให้ประชาชนทำการค้าและธุรกรรมอื่นๆได้แต่ให้เฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด

ส่วนคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศเมียนมาที่มีมาลงชื่อไว้กับสถานฑูตไทยประจำเมียนมาในกรุงย่างกุ้งมีประมาณสี่ร้อยกว่าคนทุกคนยังสามารถที่จะขอเดินทางกลับประเทศได้แต่ต้องมาขอให้สถานฑูตไทยดำเนินการขออนุญาตและออกเอกสารให้ก่อนและให้ทางสถานฑูตไทยจะประสานกลับมาทางด่านชายแดนต่างๆที่จะเข้ามาเพื่อจะได้เตรียมกักกันตัวที่ด่านชายแดนก่อน

ในขณะที่ด่านชายแดนที่สำคัญทั้ง 3 ด่าน การเดินทางของบุคคลที่เข้ามายังประเทศเมียนมาก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19  ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษก็สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

แต่ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปจะไม่อนุญาตให้ข้ามแดนเว้นแต่รถขนส่งสินค้ายังอนุญาตให้สามารถขนส่งได้ตามปกติเพียงแต่คนที่จะติดไปกับรถยังอนุญาตให้ติดรถได้แค่คนเดียวพร้อมคนขับอีกหนึ่งคนเท่านั้น

ส่วนท่านฑูตพาณิชย์ท่านผศ.ดร.ธนาวุฒิ ก็ได้อัพเดทตลาดที่ย่างกุ้งให้ฟังว่า การค้าทั่วไปในกรุงย่างกุ้งยังทำกันได้อยู่ เพียงแต่จะลดลงไปบ้างตามสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ได้ล็อคดาวน์เหมือนครั้งการระบาดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนจะมีเพียงแต่ร้านอาหารสถานบันเทิงเท่านั้นที่ถูกปิดตายและท่านยังฝากถึงการค้าชายแดนว่าไม่ควรจะปิดด่านในส่วนของการขนถ่ายสินค้าควรจะต้องส่งเสริมให้มีการค้าชายแดนให้มากขึ้น

ในส่วนของภาคธนาคาร ตัวแทนจากธนาคารเพื่อกาส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย คุณวรมินทร์ ถาวราภา ก็ให้ข้อมูลว่า ร้านค้าปลีกทั่วไปจะปิดเป็นบางส่วน ห้างสรรพสินค้าก็เช่นกัน (ข้อมูลณ.วันที่ 18 กันยายนนี้ ซิตี้มาร์ท ซุปเปอร์มาเก็ตรายใหญ่ที่มีสาขามากที่สุดได้ปิดไปแล้ว)  แต่ยังไม่มีเหตุการณ์การกักตุนอาหาร จึงไม่เหมือนครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน

ในส่วนของการค้าตามแนวชายแดนผมได้สอบถามไปที่ด่านศุลกากรทุกด่านก็พูดคล้ายๆกันเกือบทุกด่านคือการค้าส่วนใหญ่ยังคงสามารถทำได้อยู่เพียงแต่บุคคลที่จะข้ามมาเท่านั้นที่ยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดอยู่ในขณะที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้นผมก็ได้สอบถามไปทั้งหมดทุกๆด่าน

เพราะช่วงที่ผ่านมาทางสภาธุรกิจไทย-เมียนมาเป็นกังวลอย่างยิ่ง เพราะหากมีบุคคลที่ติดเชื้อ COVID-19 เล็ดลอดเข้ามาตามด่านชายแดน โดยเฉพาะการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ที่ยากที่จะตรวจสอบได้ เพราะคนที่จะลักลอบเข้ามา ย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเห็นอยู่แล้ว ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองของอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นด่านที่น่าชื่นชมที่สุด เพราะมีการใช้อาสาสมัครหมู่บ้าน(อ.ส.ม.) มาช่วยกันสอดส่องดูแลกัน

หากมีใครที่แปลกหน้าเล็ดลอดเข้ามาในชุมชน อ.ส.ม. จะช่วยกันแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่รับทราบอย่างเร่งด่วน ผมคิดว่าที่เห็นข่าวจับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้ามาได้ ก็คิดว่าน่าจะมาจากการข่าวของอ.ส.ม.นี่แหละครับ

ที่น่าปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง คือ ในช่วงระยะที่เกิดข่าว COVID-19 ระลอกสองที่ผ่านมา ทางสำนักพระราชวังโดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรา ได้ส่งรถพยาบาลพระราชทานเข้ามาในพื้นที่อำเภอแม่สอด ทั้งหมด 5 คัน เพื่อช่วยทำการตรวจรักษาและกลั่นกรองผู้ติดเชื้อ COVID-19 โดยเฉพาะ ซึ่งก็ทำให้มีผู้เข้าการตรวจทั้งหมดหลายพันคน โดยไม่เลือกว่าเป็นคนไทยหรือคนเมียนมา ยังความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ครับ

ในส่วนของการเฝ้าระวังการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ต่อไปจากนี้ ผมได้ขอร้องให้ทุกภาคส่วน ช่วยกรุณาเข้มงวดกวดขันในการตรวจตรา และป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย ซึ่งค่อนข้างจะซุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ จึงขอให้คนไทยทุกคนต้องอย่ากราดตกโดยเด็ดขาดนะครับ

นอกจากนี้การที่จะต้องร้องขอให้ภาครัฐช่วยกรุณาออกมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ไปลงทุนที่เมียนมา ที่ได้รับผลกระทบจากการกลับมาของ COVID-19 ระลอกสองทางรัฐบาลจะมีการช่วยเหลืออะไรได้บ้างเราคงต้องคอยติดตามอย่างคาดหวังต่อไปละครับ

เพื่อนๆทั้งหลายที่เป็นกองทัพงูเห่า ที่ออกไปทำมาหากิน หาเงินเข้าประเทศก็อย่าเพิ่งสิ้นหวังนะครับ สู้ๆๆๆ