posttoday

ขุมทรัพย์เริ่มละลายไปกับโรคระบาด

28 มีนาคม 2563

ช่วงนี้คงไม่มีข่าวอะไรในรอบชายแดนเราร้อนแรงเท่ากับข่าวโรคระบาด COVID19 แล้วละครับ การเขียนบทความของผม ก็ไม่สามารถเขียนทิ้งใว้นานๆได้

เพราะข่าวจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ต้องเกาะติดตลอดเวลา จนตัวเองก็จะกลายเป็นกังวลกับสถานการณ์อย่างมากๆแล้วครับ

บางครั้งถึงกับป.ส.ด.ไปเลยครับ เพราะข่าวที่ติดตามนั้นล้วนแต่ทำให้เป็นกังวลไปหมด จึงอยากจะบอกเพื่อนๆว่า พยายามเลือกเสพข่าวด้วยนะครับ

ส่วนข่าวที่จะเสพนั้นผมแนะนำว่า ถ้าเป็นในประเทศไทย ควรจะเลือกข่าวจากภาครัฐบาลเท่านั้น เพราะบางครั้งข่าวจากไลน์หรือจาก Facebook จะมีข่าวปลอมเยอะมาก ส่วนที่เมียนมา ผมจะเลือกข่าวจาก The Myanmar Time กับสำนักข่าว The Irrawaddy เท่านั้น

ส่วนใน Facebook และ Viber บางครั้งก็มี Fake News เยอะเหมือนบ้านเราแหละครับ ดังนั้นถ้าท่านต้องการหาข่าวในเมียนมาจะสามารถดูได้ที่นั่น หรือ ติดตามไลน์กลุ่มหรือ Facebook ของ MTCCI (Myanmar – Thai Chamber of Commerce And Industry ) ท่านจะได้อ่านข่าวประเทศเมียนมาที่ชัดเจนทุกวันครับ ที่ประเทศลาวก่อนนะครับ

ในช่วงที่ผ่านมาทางสปป.ลาวได้ระมัดระวังเรื่องโรค “ห่าตำปอด” COVID19 อย่างเข้มงวด การเดินทางของผู้คนทางชายแดนก็เป็นไปอย่างยากลำบาก แม้แต่รถขนส่งสินค้าเข้าไปก็ยังได้รับการตรวจตราโรคระบาดอย่างจริงจัง

จนกระทั่งล่วงเลยมาในวันที่ 23 มีนาคม เริ่มมีข่าวดีว่า ทางการได้ผ่อนปรนให้รถขนส่งสินค้าข้ามไปได้ แต่คนติดรถต้องไม่เกินสองคน คือ คนขับรถกับเด็กติดรถเท่านั้น ผมนี่โล่งอกเลยครับ เพราะสินค้าผมส่งผ่านสปป.ลาวเพื่อส่งไปขายที่เวียดนามเยอะมาก ถ้าปิดด่านทั้งไทย-สปป.ลาวและสปป.ลาว-เวียดนาม ผมมีหวังคางเหลืองแน่นอนครับ

โชคดีที่ทางสปป.ลาวผ่อนปรนมา ก็เหลือแต่ฝั่งสปป.ลาว-เวียดนามแล้วละครับในเบื้องต้นทางฝั่งเวียดนามยังคงประกาศใช้นโยบายเดิม คือ

“ให้บุคคลใดผ่านแดนจากด่านพรมแดนทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดก็ตาม

อันหมายรวมถึงสัญชาติเวียดนาม จักต้องถูกกักกันตนเอง 14 วันหลังจากวันเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรเวียดนามแล้ว จึงจะสามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้” เสร็จสิครับ

ทั้งคนขับรถและเด็กรถทุกครั้งรถผมจะมีประมาณ 37 พ่วงต่ออาทิตย์ เป็นอันว่าจะต้องสำรองคนประมาณ 150 คนจึงจะเพียงพอต่อการกักกันและทำงานได้ต่อเนื่องแล้วผมจะมีปัญญาไหนไปหาคนมาทำงานได้ ยิ่งยากไปอีกเมื่อเข้าทำงานให้เราแล้วกลับมาถูกกักกันตัวอีก ตายๆๆๆๆๆ

แต่พอหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีการผ่อนปรนให้ ด้วยการให้คนเวียดนามข้ามมารับรถที่ด่านได้ ค่อยโล่งอกไปอีกรอบครับ เรียกว่างานนี้ใจหายใจคว่ำตลอดอาทิตย์เลยครับมาทางด่านชายแดนทางด้านเหนือของประเทศไทยบ้าง ที่อำเภอแม่สายเมื่อวันที่21-22-23 มีนาคม เห็นแรงงานเมียนมาแห่แหนกันข้ามแดน เพราะเกรงว่าจะถูกกักตัวไม่ให้ข้ามแดนกลับบ้าน เห็นแล้วใจหายเลยครับ

เพราะนั่นหมายถึงโกลาหล อีกทั้งไม่ทราบว่าใครมีของฝาก (โรคระบาด COVID19)นำกลับบ้านไปด้วยบ้าง ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น การค้าชายแดนมีหวังล่มสลายแน่เลยยิ่งประเทศเมียนมาสาธารณสุขพื้นฐานเขายังไม่ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้านนี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากๆ น้องๆที่ออฟฟิศผมที่ย่างกุ้ง ได้รวบรวมเงินซื้อหน้ากากอนามัย (ที่แสนจะหายาก)และแอลกอฮอล์ เพื่อส่งไปให้โรงพยาบาลที่บ้านเกิด เขารวบรวมได้สามล้านกว่าจ๊าด (หกหมื่นกว่าบาท) ก็น่าภูมิใจและเป็นปลื้มกับเด็กๆที่มีใจเมตตาด้วยครับ

หันมาดูที่อำเภอแม่สาย ทางการเมียนมาเข้มงวดมากในวันแรกๆ จนเกิดโกลาหลจนกระทั่งวันที่ 23 มีนาคมเป็นวันสุดท้าย ปัจจุบันนี้ได้ปิดห้ามไม่ให้ผู้คนผ่านเข้าออกไปเรียบร้อย

จากนั้นในส่วนสินค้าที่ข้ามแดน ผมได้สอบถามไปยังน้องสมจิต ทราบมาว่าในวันที่24 มีนาคม ได้เปิดให้รถขนส่งยังสามารถมาใช้บริการที่สะพานมิตรภาพที่ 2 ได้เพียงอย่างเดียว แต่ว่าให้คนขับรถข้ามได้คนเดียวเท่านั้น ส่วนคนติดตามไม่สามารถข้ามแดนได้ ก็แทบกระอักเลือดกันทุกบริษัทเลยครับ

ส่วนที่ด่านชายแดนอำเภอเชียงแสนก็เคร่งเคลียดเช่นเดียวกัน เรือทุกลำที่มาจอดเทียบท่าเรือแม่น้ำโขงที่ด่านเชียงแสน (เฉพาะท่าเรือทางการเท่านั้น ท่าเรืออื่นๆไม่สามารถจอดเทียบท่าได้) จะต้องจอดรอสาธารณสุขอำเภอลงเรือไปฉีดยาฆ่าเชื้อบนเรือก่อนทุกลำ จากนั้นคนเรือจะต้องรับการตรวจโรคทั้งหมดโดยละเอียด

จากนั้นคนที่ติดตามเรือมาทั้งหมดห้ามไม่ให้ขึ้นฝั่งได้เลย จะต้องอยู่บนเรือเท่านั้นสินค้าที่มากับเรือจึงให้กุลีขนสินค้าลงเรือไปขนสินค้าขึ้นบกได้ ส่วนที่อำเภอเชียงของการขนส่งทางเรือไม่สามารถขึ้นฝั่งได้ อนุญาตให้ใช้เฉพาะด่านทางบก คือข้ามสะพานมิตรภาพเท่านั้น แต่แค่ข้ามไปที่สถานที่เปลี่ยนถ่ายสินค้าเท่านั้น

และอนุญาตให้แค่คนขับรถเท่านั้นครับ คนติดตามไม่สามารถจะติดรถไปได้จะเห็นว่าในระยะนี้กระทบไปทุกภาคส่วนครับ ผู้ประกอบการค้าและบริษัทห้างร้านต่างๆอ่วมอรทัยไปตามๆกัน

ต้นเหตุไม่สามารถโทษใครได้หรอกครับ นอกจากเจ้าตัวดี COVID19 (โรคห่าตำปอด) ตัวเดียวจริงๆครับ ไม่น่าลงมาประเทศทางใต้เลย น่าจะอยู่แค่ประเทศทางเหนือก็พอแล้ว เราก็บอกเจ้าตัวดีไปแล้วนะว่า ประเทศทางใต้ยังไม่ว่างต้อนรับ เรากำลังสนุกอยู่กับการเมืองอยู่ ก็ยังอยากมาหาเรื่องเราจนได้ ทำให้ขุมทรัพย์เราละลายไปหมดเลย

แหม........มันน่า....นะ