posttoday

การรับมือการเปลี่ยนแปลงของชายแดนระนอง (4)

20 มกราคม 2563

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกและเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดของระบบโลจิสติกของการค้าการส่งออก ที่ชายแดนจังหวัดระนอง ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะพอควร
คนที่ไม่อยู่ในวงการค้าการส่งออกชายแดน จะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนัก

แต่คนที่อยู่ในวงการ จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ผมได้มีโอกาสไปเยือนจังหวัดระนองหลายครั้ง ทุกครั้งจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก จนกระทั่งเมื่อช่วง 3-4 ปีหลัง จึงรู้สึกได้ถึงการค้าส่งออกที่ขยับตัวยากมากๆ

และที่ท่าเรือข้างศุลกากรเอง ก็เช่นกันที่ค่อนข้างจะซบเซา ในขณะที่ทางภาครัฐเองก็พยายามจะหาทางแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ

ผมทราบมาว่าจะมีการแก้ไขด้วยการสร้างทางรถไฟแยกมาจากจังหวัดชุมพร เข้าสู่เมืองระนองเพื่อหาทางแก้ไขให้การค้าการส่งออกง่ายยิ่งขึ้น แต่ในความเห็นของผมส่วนตัวนะครับ อย่าถือเป็นสาระอะไรมาก

ผมคิดว่าจะเพิ่มได้ก็ตัวเลขการท่องเที่ยวเท่านั้น ตัวเลขทางการค้าคงได้ไม่มาก เพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านโลจิสติกระลอกสองไปแล้วครับ เดี๋ยวจะสาธยายให้อ่านเล่นๆนะครับ

ปัจจุบันนี้การเดินทางไประนองนั้น หากท่านไม่ขับรถไปเอง ซึ่งต้องใช้เวลาการเดินทางประมาณ 8-10 ชั่วโมง ท่านก็สามารถนั่งรถโดยสารไปได้

แต่ต้องอดทนกันหน่อยนะครับ เพราะถ้าจะเอาสะดวก ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์รอบดึก ส่วนรถโดยสารกลางวันก็มีเหมือนกัน แต่จะไม่ค่อยนิยมกันนัก สนนราคาก็ไม่แพง 450-650 บาทต่อเที่ยว อีกทางหนึ่งคือทางเครื่องบิน

ปัจจุบันนี้มีสายการบินเดียวที่ผูกขาดอยู่ มีวันละสองเที่ยวบิน สนนราคาแพงมาก แพงกว่าไปฮ่องกง หรือไปย่างกุ้งไปกลับอีกครับ ผมคิดว่าคงต้องปรับปรุงกันบ้างนะครับ ถ้าอยากให้การท่องเที่ยวจังหวัดระนองดีขึ้น

ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินและค่ารถเช่าที่เมืองระนอง ที่แพงมหาโหดจริงๆครับ รถเช่าที่นี่แพงกว่าที่เชียงใหม่เสียอีกครับ

การแก้ไขของรัฐบาลที่มุ่งเน้นไปที่สร้างทางรถไฟไประนอง อาจจะทำให้คนหันมาใช้บริการบ้าง แต่ผมคิดว่าคงไม่ได้มากมายนัก

เพราะรถไฟบ้านเราก็อย่างที่ทราบกันดีว่าช้ามากๆ ควรจะเป็นรถไฟรางคู่หรือรถไฟความเร็วสูงได้แล้ว แต่ยังคงล้าสมัยมากๆ

ถ้าจะนำมาช่วยเรื่องการขนส่งสินค้า หากคิดทำเมื่อสักสิบปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าคงไหว แต่ปัจจุบันนี้ช้าไปแล้วครับ ไม่ทันการณ์แล้วละครับ เพราะโลกหมุนเร็วเหลือเกิน

ผมจึงคิดว่าเมื่อการเปลี่ยนแปลงของถนนหนทางจากมะลิด (Myeik)มาที่มูตอง ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์สะดวกขึ้น ใช้เวลาเดินทางเพียง 8 ชั่วโมงก็สามารถมาถึงกรุงเทพฯได้ การขนส่งทางบกผ่านช่องทางนี้จะเป็นทางออกใหม่ให้กับระบบโลจิสติกที่จะปรับตัวทันทีครับ

เหตุผลหลักนอกจากระยะเวลาการเดินทางที่สั้นกว่ามาทางเรือถึงสองวันหนึ่งคืนแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราต้องตระหนักเป็นอย่างยิ่งคือ "เวลา" เพราะอย่าลืมว่านอกจากเวลาสองวันหนึ่งคืนที่ลดไป ยังมีเวลาที่รอเรือออกอีกที่ยังไม่แน่ไม่นอน สินค้าอุปโภค-บริโภคที่ต้องการความเร็ว อีกทั้งสินค้าประมงที่ต้องการความสดใหม่ เป็นการตอบโจทย์อย่างเต็มๆเลยครับ

เมื่อเป็นเช่นนี้จังหวัดระนองในอนาคตต้องหาทางออกทางธุรกิจนะครับ เพราะการส่งออกจะลดลงอย่างรวดเร็ว สินค้าที่ส่งออกประเภทเบาเมื่อหมดไป เหลือเพียงสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างเท่านั้น แต่ถ้าเรามาวิเคราะห์กันให้ลึกๆ ตลาดในอดีตสินค้าจะส่งไปถึงกรุงย่างกุ้งได้ไม่ยาก

แต่ในปัจจุบันนี้สินค้าประเภทนี้จะเหลือตลาดเดียวคือตลาดรัฐตะนาวศรีหรือรัฐตะเหน่งดายี่เท่านั้น เพราะสินค้าที่มาจากทางแม่สอดเข้าสู่กรุงย่างกุ้งจะง่ายกว่าจากจังหวัดระนอง

อีกทั้งสินค้าปูนซีเมนต์เอง ทางผู้ผลิตไทยยักษ์ใหญ่ก็เข้าไปสร้างโรงงานที่นั่นแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ตลาดตอนบนก็จะหมดไปโดยปริยาย ส่วนประเภทเหล็กก่อสร้าง และ เหล็กบีม ปัจจุบันนี้เป็นสินค้าไม่เร่งด่วน อีกทั้งยังต้องการการขนส่งจำนวนมาก น้ำหนักเยอะ การขนส่งทางเรือจึงยังมีความสำคัญอยู่อีกต่อไป จึงต้องไปลงเรือที่จังหวัดระนองต่อไปครับ

ในความคิดของผม ธุรกิจเหล็กในประเทศเมียนมา สักวันต้องพัฒนาขึ้นอีกมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการพัฒนาประเทศ สินค้าพื้นฐานต้องมาก่อน การก่อสร้างที่หยุดชงักมาห้าสิบปี

ขณะนี้เขาได้เริ่มขยับตัวแล้ว การเปิดให้เม็ดเงินจากการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI)เข้ามาสะดวก อีกทั้งไม่มีการตั้งขีดจำกัดของการลงทุน

รวมถึงการปล่อยให้อุตสาหกรรมที่ประเทศอื่นๆห้าม เขาก็เปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาดำเนินกิจการได้ นี่คือสิ่งที่น่าเกรงขามครับอุตสาหกรร มเหล็กก็เป็นอีกหนึ่งในนั้น หากมีการผลิตเหล็กไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงกับจังหวัดระนองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

ทางรอดของจังหวัดระนองมีอยู่ทางเดียวครับ คือ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาใช้ทางด้านการท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรม อีกทั้งต้องอย่าหยิ่งผยองด้วยการตั้งราคาสูงเกินงาม ทั้งการเดินทาง การคมนาคม การขนส่ง การบริการ โรงแรมที่พัก ราคาอาหาร ฯลฯ อย่าให้มีการเก็งกำไรเกินควร

เพราะอย่าลืมว่าผู้บริโภคเขามีทางเลือก ถึงแม้จังหวัดระนองจะมีทิวทัศที่สวยงาม มีน้ำพุร้อน (ออนเซน) มีอาหารทะเลอันอุดมสมบูรณ์ มีภูเขาทั้งภูเขาดินที่งดงามและป่าเขาลำเราไพร มีน้ำตกหงาว มีปูน้ำตกอันงดงาม

แต่หากราคาแพงมากๆ แพงกว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเสียอีก แล้วใครจะช่วยท่านได้ละครับ ฝากเป็นแง่คิดนะครับ