posttoday

แนวคิดด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์

23 ธันวาคม 2562

โดย กริช อึ๊งวิฑูรสถิตย์

จากการที่ได้คลุกคลีในตลาดการค้าสินค้าอุปโภค-บริโภคในกลุ่มประเทศ CLMV มาช้านานมากกว่า 30 ปี ทำให้มองเห็นว่าปัจจุบันนี้ การค้าได้เปลี่ยนรูปแบบไปเยอะมาก ผลิตภัณฑ์เองก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะเช่นกัน

ผมและหุ้นส่วน คุณมงคล บัณฑรรุ่งโรจน์ เวลามีโอกาสได้เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศไม่ว่าจะประเทศที่เจริญแล้วหรือประเทศที่ล้าหลังกว่าเรา เรามักจะใช้เวลาว่างอันน้อยนิด เข้าไปดูซุปเปอร์มาร์เก็ตของเขา และดูผลิตภัณฑ์ใหม่ๆว่าเขามีอะไรผลิตออกมาสู่ตลาดใหม่ๆบ้างหรือบางครั้งเราก็จะหอบหิ้วเอาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆของเขาเอากลับมาเมืองไทย แล้วก็คิดต่อว่าเขามีจุดดีจุดเด่นอย่างไรบ้าง นี่เป็นความสุขของผมอย่างยิ่งครับ

ในปัจจุบันนี้การเรียนด้านการตลาดเราจะยึดแค่ 4P ไม่ได้แล้วครับน่าจะต้องใช้ปัจจัยอื่นๆมาร่วมคิดเพิ่มเติมแล้วครับ อีกหนึ่ง P หรือ P ตัวที่ 5 คือ Package หรือบรรจุภัณฑ์ก็มีความสำคัญยิ่ง เราต้องยอมรับว่า ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน เกาหลีใต้ ทั้งสามประเทศนี้เป็นผู้นำด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์จริงๆ

ในขณะที่ไทยเราเองยังวิ่งตามหลังเขาอยู่เยอะ สินค้าของเขามีบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆออกมาตลอดเวลา เวลาเดินดูแล้วเพลินตาเป็นอย่างยิ่ง สินค้าที่มีรูปลักษณ์ที่ดูดี จะมีความดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคเป็นอย่างมากบางครั้งสินค้าธรรมดาๆ แต่เราได้พบเห็นก็อยากจะลองซื้อหามาใช้ เสมือนดอกไม้ที่สีสันสวยสด เหล่าแมลงภู่ผึ้งก็อยากจะดอมดมเป็นธรรมชาติครับ แน่นอนว่าหากคุณภาพสินค้าที่ถูกรสนิยมของผู้ซื้อก็ยิ่งถูกโฉลกขายดิบขายดีเป็นธรรมดาครับ

ที่เล่ามาทั้งหมด ผมเชื่อว่าหลายท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว เหมือนเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน แต่ผมมีวัตถุประสงค์อยากจะพูดมากกว่านั้นนะครับ

ที่ผ่านๆมา ผมเองก็ค่อนข้างจะไม่ค่อยเข้าใจผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของเราครับ เวลาจะนำสินค้าเข้าไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน มักจะมองว่าเขาล้าหลังเรามาก เอาอะไรเข้าไปขายก็คงขายได้ไม่ยาก และผลิตภัณฑ์ของตนเองดีที่สุด

บางครั้งได้เห็นรูปลักษณ์สินค้าแล้วดูออกเลยว่า ผู้ประกอบการไม่ค่อยจะพิถีพิถันในการออกแบบหรือคิดว่าไม่ต้องหาคนมาออกแบบให้ก็ได้ เอาแต่ใจตนเองชอบเป็นใหญ่ ออกแบบมาจึงเชยมาก เหมือนดูถูกผู้บริโภคเหลือเกิน

ผมอยากจะบอกว่าปัจจุบันนี้เขามีตัวเลือกนะครับ ดังนั้นควรจะต้องตั้งใจทำกันหน่อย หรือใช้เงินในการจ้างมืออาชีพมาช่วยทำให้หน่อย อย่าสุกเอาเผากินนะครับคู่แข่งของเราปัจจุบันนี้รอบด้านมาก บางประเทศเช่นเวียตนาม เขาก็กระโดดเข้าสู่ตลาดอาเชียนแล้ว เราต้องนำหน้าเขาใว้ อย่าปล่อยปละละเลยไม่ได้แล้วนะครับ หากเราชะล่าใจ สักวันหนึ่งเขาจะวิ่งล้ำหน้าเราอย่างแน่นอนครับ

อีกประการหนึ่งนอกจากการหาคนมาช่วยออกแบบแล้ว เราควรจะต้องศึกษาดูว่าในประเทศที่เราจะขายสินค้าเข้าไป เขามีอะไรที่ชอบอะไรที่ไม่ชอบ บางเรื่องถ้าไม่ทราบต้องกล้าถามผู้รู้ครับ เพราะแต่ละประเทศล้วนมีวัฒนธรรมและความเชื่อของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของสีสัน บางประเทศเขาอาจจะไม่เหมือนไทยเรา

บางประเทศก็อาจจะเหมือน แล้วแต่ความเชื่อของเขานะครับ อย่างประเทศเมียนมา แต่ละรัฐแต่ละสเตทก็ยังไม่เหมือนกันเลยครับ ดังนั้นควรจะต้องระมัดระวังกันด้วยครับ ในส่วนของตลาดสินค้าในเมียนมา ที่ผ่านมา 3-4 ปีมานี้
ผมเองก็สังเกตุเห็นว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงไปพอควร สินค้าใหม่ๆเข้าสู่ตลาดเยอะขึ้นมาก ในขณะที่สินค้าของไทยเราเอง

แม้จะได้รับความนิยมจากในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน แต่บรรจุภัณฑ์หรือ Package เราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แน่นอนว่าสินค้าที่ขายดีเดิมๆเราไม่สามารถไปแตะต้องหรือเปลี่ยนแปลง Packageได้ เพราะคนที่นี่เขาค่อนข้างจะอ่อนไหว(Sensitive)เอามากๆ บางครั้งแก้ไขรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาก็บอกว่าสินค้าปลอมแล้ว

ผมเองเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาเยอะ เช่นฝาดึงกระป๋องเครื่องดื่มเรา เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น แต่ลูกค้าก็บอกว่ามีสินค้าปลอมเข้าสู่ตลาด ข่าวลือเต็มไปทั่วเมืองหมด จนเราแก้แทบไม่ทันเลยครับ ยังมีเครื่องสำอางค์ของเราเปลี่ยนแปลงสีสันกล่องเล็กน้อย ก็เป็นข่าวลืออีกว่าสินค้าปลอม

เหตุผลอาจจะเป็นเพราะที่ตลาดเมียนมามีสินค้าปลอมเข้าสู่ตลาดง่ายมาก กฏหมายเรื่องลิขสิทธิ์ยังตามตลาดไม่ค่อยทันนั่นเองครับ

ดังนั้นสินค้าที่มีจำหน่ายในตลาดอยู่แล้วต้องระวังเช่นกัน สินค้าที่ยังไม่เข้าตลาดหรือสินค้าที่เราจะออกมาทำตลาดในลักษณะคู่แข่งเปรียบเทียบกับสินค้า ที่เรียกว่า Fighting Brand เท่านั้นนะครับที่จะต้องคำนึงถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์

อย่าเหมารวมโดยเด็ดขาด เพราะถ้าท่านเหมารวม เดี๋ยวสินค้าที่ขายได้อยู่แล้ว ต้องมาวิ่งแก้ข่าว แล้วจะบอกว่าก็เห็นคุณกริชบอกให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไง ยุ่งตายเลย !!!