การประกวดข้าวที่เมืองฮาบิ้น มณฑลเฮยหลงเจียง

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มีคนจีนส่งวีแชทเข้ามาหาผม แล้วบอกว่าจะเชิญผมไปเมืองฮาบิ้น มณฑลเฮยหลงเจียง เพื่อไปเป็นกรรมการในการประกวดข้าวที่เมืองฮาบิ้นประเทศสาฐารณรัฐประชาชนจีน ผมก็งงๆ
ไม่รู้ว่าเป็นการหลอกลวงหรือเรื่องจริง จึงตอบรับไปอย่างอยากรู้ว่าจริงเท็จเท่านั้น

ปรากฎว่าอีกสามสี่วันต่อมาก็ได้มีหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการของรัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลเฮยหลงเจียง อีกทั้งส่งตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-ฮาบิ้นมาให้ อ้าว...เป็นเรื่องจริงนี่

ผมจึงเริ่มสอบถามรายละเอียดว่าในงานดังกล่าวมีกำหนดการและวัตถุประสงค์อย่างไร เนื่องจากมณฑลเฮยหลงเจียง มีที่ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งที่ภาคนี้ มีอยู่ด้วยกันสามมณฑล ได้แก่มณฑลจี๋หลิง และมณฑลเหลียวหนิง

และที่นี่เป็นพื้นที่ปลูกข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดของประเทศจีน เป็นเพราะที่นี่มีภูมิประเทศที่อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ติดกับประเทศสหพันธ์รัฐรัสเซีย ที่อยู่ทางด้านไซบีเรีย ปีหนึ่งจึงมีอากาศที่หนาวยาวนานประมาณห้าเดือน ฤดูหนาวอุณหภูมิติดลบ 30- 40 องศาเลยทีเดียว

ทุกๆปีที่เมืองฮาบิ้น มณฑลเฮยหลงเจียง จะมีการประกวดการแกะสลักหิมะอันเลื่องชื่อของโลก เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันดี แต่ไม่ค่อยมีใครทราบว่าที่นี่ยังมีดีที่ข้าวสารชื่อข้าว "หวู่ฉาง เต้าหัวเซียงต้ามี่" ซึ่งปลูกที่เมืองหวู่ฉาง มณฑลเฮยหลงเจียง

ข้าวสารของที่นี่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศจีน ใช้บริโภคภายในประเทศก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ไม่ได้ส่งออกไปต่างประเทศ เพราะพื้นที่เพาะปลูกของที่นี่มีน้อยมาก อีกทั้งปลูกได้ปีละครั้งเท่านั้น แต่ปีนี้ทางรัฐบาลมณฑลเฮยหลงเจียง เขาต้องการที่จะประชาสัมพันธ์ข้าวสารของเขา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีที่ครบรอบ 70 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้จัดงานดังกล่าวนี้

การประกวดข้าวของเมื่องฮาบิ้นปีนี้เป็นปีที่ 2 หลังจากปีที่แล้วได้จัดไปหนึ่งครั้ง ครั้งนี้เขาเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้าร่วมด้วย เช่น ประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย

ในตอนแรกผมเองก็ไม่ทราบว่าเขาไปเอาชื่อผมมาจากไหน และอุปโลกให้ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตัดสินข้าวด้วย ซึ่งผมถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง จึงตอบรับไปร่วมงานในครั้งนี้อย่างเต็มใจ (ทั้งๆที่ตอนแรกก็สงสัยว่าจะถูกจีนหลอกให้มาหรือเปล่า) งานนี้จัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม – 14 ตุลาคม 2562 จากการที่ดูรายละเอียดที่เขาส่งมา

นอกจากการประกวดข้าวซึ่งจัดในช่วงแรกของงานแล้ว เขายังจัดงานแสดงสินค้าข้าวสาร อาหาร และเครื่องจักรการเกษตรอีกด้วย ซึ่งมีการออกบูธแสดงมากถึงร้อยกว่าบูธ มีกลุ่มผู้ประกอบการค้าข้าวสารจากทั่วประเทศเข้าร่วมงาน งานค่อนข้างจะคึกคักทีเดียว

ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อข้าวสารไทย เพราะผมเองก็มีธุรกิจค้าข้าว ด้วยการมีโรงปรับปรุงคุณภาพข้าวสารที่นวนคร ซึ่งดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่ายี่สิบปี จึงได้ขออนุญาตเขานำเอาข้าวหอมมะลิไทย
ข้าวเสริมวิตตามินตราช้างทิพย์ ข้าวญี่ปุ่นตราช้างทิพย์ ข้าวหอมประทุม ข้าวหอมมะลิน้ำนมตราช้างทิพย์ ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ตราแกะทอง และสารพัดข้าวไปออกบูทด้วย ไม่ได้คิดว่าจะได้ขายมากมายหรอกครับ

เพียงแต่อยากจะฉวยโอกาสนี้ป่าวประกาศให้คนจีนรู้จักข้าวไทยมากขึ้นเท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านๆมา คนจีนจะรู้จักแต่ข้าวหอมมะลิไทยเท่านั้น พอพูดถึงข้าวสารไทย เขาก็จะรู้จักแค่ว่าเป็นข้าวเมล็ดยาว และมีความเหนียวน้อย

ไม่เหมือนข้าวเมล็ดสั้นของจีนที่เหนียวกว่าข้าวไทย ผมเลยบอกน้องๆที่ไปด้วยกันว่า ให้เอาหม้อหุงข้าวไปด้วย แล้วให้หุงข้าวให้กลิ่นกระจายไปเลย เขาจะได้รู้ว่าข้าวสารไทยนั้นหอมจริงๆ ไม่ต้องใส่กลิ่นสีเติมแต่งก็สามารถเรียกน้ำลายคนให้หิวข้าวได้แล้ว นี่คือเสน่ห์ของข้าวสารไทยครับ ซึ่งการแสดงสินค้าครั้งนี้ จัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าเมืองฮาบิ้น มีฮอลส์อยู่ด้วยกันสามฮอลส์ใหญ่

สินค้าที่นำมาแสดง นองจากเป็นสินค้าประเภทอาหารฮอลล์ A และที่แสดงข้าวอยู่ที่ฮอลล์ B และที่จัดแสดงเครื่องจักรผลิตอาหาร และอาหารจากต่างมลฑลอยู่ที่ฮอลล์ C สินค้าที่นำมาแสดงก็มีทั้งจากต่างมณฑลและจากต่างประเทศ ที่เป็นอาหารมีทั้งมาจาก รัสเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และไต้หวัน

เสียดายจากประเทศไทยไม่มีเลย เพราะเขาไม่ได้ประชาสัมพันธ์เลย ส่วนข้าวก็มีมาจากประเทศญี่ปุ่น ไทย กัมพูชา และเมียนมา ที่มาจากประเทศไทยก็แค่ของบริษัท C&A Ricemill co.,Ltd ของผมบริษัทเดียว

เราเลยทั้งหุงทั้งนึ่งข้าวเหนียวกันอย่างสนุกสนาน พอหุงเสร็จกลุ่มคนก็มามุงขอชิมกันไม่ถึง 5 นาทีก็หมดหม้อ ต้องรีบหุงใหม่ เรียกว่าทำกันมือเป็นระวิงเลยครับ แม้ไม่ได้ตังค์ก็ดีใจครับ ที่ได้ทำให้คนเมืองฮาบิ้นที่ห่างไกลกับเมืองใหญ่ในประเทศ ได้รู้จักข้างไทยมากขึ้น

เพราะเท่าที่สอบถาม กลุ่มคนชิมล้วนทานข้าวไทยเป็นครั้งแรกทั้งนั้นครับ อาทิตย์หน้าจะเล่าถึงการประกวดข้าวกันนะครับ