posttoday

นิคมขนาดกลางที่น่าสนใจ

03 สิงหาคม 2562

โดย กริช อึ๊งวิฑูรย์สถิตย์

โดย กริช อึ๊งวิฑูรย์สถิตย์

ผมเขียนเรื่องนิคมอุตสาหกรรมที่ย่างกุ้งมาหลายอาทิตย์ติดต่อกัน ก็มีเสียงถามมาว่า “เห็นพูดถึงแต่นิคมอุตสาหกรรมที่ราคาค่าที่ดินแพงๆ และนิคมอุตสาหกรรมที่ไม่มีสภาพเป็นนิคมแล้ว แล้วนิคมอุตสาหกรรม ที่พอจะไปทำโรงงานได้ไม่มีเหรอ” ผมบอกว่ามีครับ และมีไม่น้อยด้วย แต่คงจะไม่ยกมาทั้งหมดนะครับ ผมจะของกล่าวถึงสักสามสี่แห่งพอให้ได้เห็นภาพกันครับ

นิคมอุตสาหกรรมหนึ่งที่ผมและเพื่อนๆชาวสิงคโปร์ไปลงทุนกันทำโรงงาน คือ “นิคมอุตสาหกรรมอะเชะตะโก่ง” ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่น่าสนใจและมีอนาคตที่สดใสที่สุดในอนาคตอันใกล้นี้

จึงขอนำมาเสนอให้เพื่อนๆได้เห็นภาพครับ นิคมนี้ตั้งอยู่บนถนนทางหลางหมายเลขที่ 2 ซึ่งเป็นถนนที่จะใช้ในการเดินทางไปทางเหนือ ที่นี่ในอดีตจะไกลมาก ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษกว่าจะถึงที่นั่น ถนนก็เป็นถนนแคบๆ

แต่ปัจจุบันนี้ ทางการได้ขยายถนนเป็นสี่เลนมีไหล่ทางเล็กน้อย ถือว่าพอใช้ได้ถ้าเทียบกับการเดินทางในต่างจังหวัดก็พอไหวครับ บนถนนนี้เมื่อหลายปีก่อน ในยุคที่เกิดการปฎิวัติ 8888หรือที่เกิดขึ้นในวันที่ 8 เดือน8 ปี1988 ที่นักศึกษาออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ยอมรับผลเลือกตั้ง และเกิดการสังหารกันเกิดขึ้นที่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง

จนทำให้นักศึกษาลี้ภัยเข้ามาที่ประเทศไทยกันเยอะแยะ และทางการเมียนมาก็สั่งปิดการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง จึงมีการย้ายมหาวิทยาลัยบางส่วนไปยังหัวเมืองต่างๆ เพื่อเป็นการแยกไม่ให้นักศึกษารวมตัวกันมากนั่นเอง

มีบางมหาวิทยาลัยได้ย้ายมาอยู่แถบนี้ครับ เช่น มหาวิทยาลัยตะโก่ง มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นที่นี้จึงเกิดแหล่งชุมชนใหม่เกิดขึ้น

ต่อมาเมื่อประมาณเข้าสู่ยุคปี 2000 ที่นี่ก็ได้เกิดนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นมาอีกสองสามเขต ที่นิคมอุตสาหกรรมอะเชะตะโก่งคือหนึ่งในนั้น แต่ช่วงนั้นเศรษฐกิจของเมียนมายังอยู่ในระหว่างติดหล่มของการแซงชั่นจากชาติตะวันตกอยู่ จึงทำให้นิคมว่างเปล่ามาก ราคาก็ถูกมากๆ เอเคอร์ละไม่กี่เท่าไหร่ แต่พอเริ่มขยับตัวแสงสว่างเริ่มเกิดที่ปลายอุโมง

รัฐบาลเริ่มมาสร้างอาคารบ้านพักเป็นคอนโดแปดชั้นหลายหลังมีการย้ายกรมการขนส่งทางบกมาใว้ที่นี่ ใครจะทำธุรกรรมนิติกรรมเกี่ยวกับรถยนต์ต้องมาที่นี่หมด ราคาที่ดินก็ก้าวกระโดดทันที่ เพียงไม่กี่ปีราคากระโดดไป 7-800 เปอร์เซ็นต์เลยครับ

ที่นิคมนี้จึงมีความเคลื่อนไหวมากในช่วงปี2010-2012 ในยุคนั้นลูกน้องที่บริษัทพาผมมาดูที่ดิน เขาบอกว่าเรามาซื้อที่ดินในนิคมเถอะ ผมก็ไม่เอาเพราะบริษัทผมเป็นบริษัทจัดจำหน่ายสินค้า เราไม่มีแผนที่จะผลิตสินค้าอยู่แล้วซื้อไปก็ไม่รู้เอามาทำอะไร

อีกอย่างหากเราย้ายบริษัทไปอยู่ที่นั่นก็ไม่ได้เพราะพนักงานเดินทางลำบากมาก จะเข้ามาขายของในย่างกุ้งก็ยากเสียเวลาเดินทางวันละสี่ห้าชั่วโมงไม่ไหวแน่ จึงไม่ได้ซื้อทิ้งใว้

แต่ต่อมาพอต้องการเปิดเป็นโรงงานผลิตสินค้า จะซื้ออีกทีก็ลำบากในการตัดสินใจมากเพราะหนึ่งเราเคยเห็นที่ดินมันไม่มีราคา อยู่ๆราคาก็ก้าวกระโดดขึ้นไปอยู่บนฟ้าเลย สองภายในนิคมอุตสาหกรรมอะเชะตะโก่ง ถนนหนทางก็ยังเป็นถนนบนโลกพระจันทร์อยู่ ก็ต้องคิดหนักอีก สามแม้จะมีไฟฟ้าแรงสูงวิ่งผ่านที่นี่ แต่น้ำปะปาก็ยังไม่มี ยังต้องใช้วิธีเจาะน้ำบาดาลมาใช้อยู่จึงยิ่งต้องคิดหนักครับ

ระยะหลังสักสองสามปีมานี้ ที่นิคมอะเชะตะโก่งได้พัฒนาอย่างรวดเร็วแค่ห่างไปไม่กี่เดือน ปรากฏว่ามีโรงงานใหญ่ๆผลุดขึ้นมาเป็นดอกเห็นเจอฝนเลยครับ เหตุผลที่นักลงทุนในอุตสาหกรรมเขาเลือกที่นี่เพราะว่าที่นี่มีแหล่งแรงงานที่มากมายมหาศาล

เพราะนอกจากจะมีชุมชนเยอะแล้วยังมีรถเมล์วิ่งตรงจากใจกลางเมืองที่เจดีย์สุเหร่ดากอง ข้างๆศาลาว่าการนครย่างกุ้ง (YCDC) มาสุดปลายทางที่หน้านิคมอุตสาหกรรมเลยตอนเช้าๆจะเห็นคนงานถือปิ่นโตเดินเข้านิคมเป็นเรือนหมื่นคน สองที่นี่มีไฟฟ้าแรงสูงวิ่งเข้ามาสู่นิคมเลย สามที่นี่ห่างจากท่าเรือทั้งติลาว่าและท่าเรือย่างกุ้ง(เก่า)ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร หรืออยู่ระหว่างกลางของทั้งสองท่าเรือ จึงเหมาะสำหรับการขนส่งมาก

หากท่าเรือย่างกุ้ง(เก่า) ยังไม่ปิดทำการ หรือยังใช้งานท่าเรือ(เก่า)ได้อยู่ก็ยังสามารถใช้บริการได้ไม่ลำบาก แต่หากวันหนึ่งท่าเรือย่างกุ้ง(เก่า)ปิดให้บริการมาใช้ท่าเรือติลาว่าทั้งหมด ที่นี่ก็ไม่ลำบากครับ เรียกว่าแทงกั๊กใว้ก่อนได้เลยเหตุผลสุดท้ายคือที่นี่อยู่บนทางหลวงหมายเลขสองการขนส่งไปต่างจังหวัดเกือบค่อนประเทศจะสะดวกที่สุดรถขนส่งขนาดใหญ่ก็ไม่ติดเวลา สามารถเข้าออกได้ 24 ชั่วโมงเลยครับ

ดังนั้นที่นี่จึงมีการพัฒนาที่เร็วมากๆ ปัจจุบันนี้มีปั๊มน้ำมันถึงสามปั๊มมีห้างโปรวันอยู่ใกล้ๆ จึงเป็นที่มาของนักอุตสาหกรรมต่างชาติเข้าไปอยู่มากมายเลยครับ