กลับบ้านเรา รักรออยู่

สงกรานต์ของเมียนมา หรือเทศกาล"เต็งจั่น" ปีนี้รัฐบาลพรรค NLDให้หยุดยาวเพียง 5 วันเกรงกระทบเศรษฐกิจ หากหยุดยาวมากเกินไป

โดย กริช  อึ้งวิทูรสถิตย์

ทุกๆปีจะมีปัญหาการเดินทางในช่วงเทศกาลของทุกประเทศจะเหมือนกันหมด ไม่ว่าไทย จีน หรือเมียนมา ที่นี่ในเทศกาล “เต็งจั่น” ของทุกปี ก็จะโกลาหลกันมากๆ ถามว่าเทศกาลเต็งจั่นคือ? ที่บ้านเราก็คือเทศกาลสงกรานต์นั่นเอง ทุกปีทางรัฐบาลเมียนมาจะถือว่าวันนี้เป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด และจะหยุดยาวที่สุดคือต้องหยุดยาว 12 วันเลยครับ

พวกเราชาวไทยได้หยุด 4 วันก็นับว่ายาวแล้ว แต่ที่นี่เอาเสียจนทำให้เดือนเมษายนของทุกปี จะเป็นฝันร้ายของผู้ประกอบการเลยแหละครับ และทุกปีชาวเมียนมาจะต้องกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ไปทำบุญกันที่วัด บางคนก็ถือโอกาสไปปฏิบัติธรรมกันที่วัด บางคนก็ไปบวชเป็นภิกษุหรือผู้หญิงก็บวชภิกษุณีกันเลย เพราะฉะนั้น ช่วงจบงานเต็งจั่น เราจะเห็นคนหัวโล้นทั้งชายทั้งหญิงกันเยอะมากพอควรเลยแหละครับ

ผมแกล้งล้อน้องๆที่บริษัทไปว่า“พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าชั่งลึกซึ้งเหลือเกินนะ พวกคุณสงสัยจะเข้าไม่ถึง จึงต้องโกนหัวกระโดดเข้าไปให้ถึงพระธรรมกระมั้ง”แต่ปัจจุบันนี้ หลังจากรัฐบาลพรรค NLD เข้ามาบริหารประเทศ ได้เล็งเห็นผลกระทบของเศรษฐกิจต่อการหยุดยาว ในปี 2018 จึงประกาศให้หยุดเพียง 5 วัน แต่ชาวบ้านซึ่งเคยชินกันมายาวนาน ไม่ยอม มีการยื่นขอผ่อนปรน ทางรัฐบาลจึงได้เลื่อนเป็นมาประกาศใช้ในปีนี้ นี่คือเมียนมาครับ กฏหมายมีการต่อรองได้อีกด้วย

ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ขอเทศกาลนี้คือดอกปะเต้าปาน หรือดอกประดู่ ซึ่งจะผลิดอกบานสะพรั่งทั่วไปหมด ดอกปะเต้าปานเขาจึงนำเอามาเป็นดอกไม้ประจำเทศกาลเต็งจั่นครับ เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผมเดินทางมาย่างกุ้ง พอไปเช็คอินที่เคาเตอร์สายการบินเมียนมา บนเคาเตอร์เช็คอินก็มีดอกปะเต้าปานมาประดับอยู่ด้วย จึงถามน้องที่เคาเตอร์ไปว่าคุณทราบมั้ยว่านี่คืออะไร

เขาตอบว่าไม่ทราบความหมาย ผมจึงได้บอกเขาไปครับว่านี่คือ “ปะเต้าปาน”หรือดอกสงกรานต์ของเขานั่นเองครับ คนเมียนมาจะให้ความสำคัญกับดอกนี้มาก เพราะเขาเห็นว่า ดอกปะเต้าจั่นนั้นมีความสัตย์ซื่อตรงต่อเวลา ทุกปีจะออกดอกในเดือนเมษายนเท่านั้น เปรียบเสมือนคนรักเดียวใจเดียว ซึ่งทุกปีคนเหล่านั้นแม้นจะอยู่ห่างไกลบ้านไกลเมือง ก็จะต้องกลับมาบ้านทุกปี เพื่อมากราบใหว้พ่อแม่นั่นเองครับ “กลับบ้านเรา รักรออยู่”

ส่วนการเดินทางกลับบ้านของชาวเมียนมา เนื่องจากการควนาคมไม่ได้สะดวกเหมือนบ้านเรา เขาจึงลำบากมากในการเดินทาง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะต้องหยุดยาว แต่ปัจจุบันนี้การคมนาคมสะดวกขึ้นมาก รัฐบาลจึงขอให้วันหยุดลดลงนั่นเองครับ

และปีนี้ทางการรถไฟเมียนมา ได้ประกาศว่าได้จัดขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษเพิ่มให้ชาวบ้านได้เดินทางกลับบ้านสะดวกขึ้นโดยมีทั้งหมด 8 โบกี้ โดยเพิ่มรถด่วนสายย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ ซึ่งจะจอดระหว่างทางเพียง 5 สถานี ประกอบด้วย Togyaunggalay, Bago ,Toung oo,Pyinmana, Nay Pyi Taw,Thazi แล้วก็จะถึงสถานีสุดท้ายที่มัณฑะเลย์เลยครับ รถไฟนี้จะใช้เวลาวิ่งเพียงสิบสี่ชั่วโมงเท่านั้นครับ ถามว่าระยะทางไกลมั้ย ก็ประมาณ 800 กิโลเมตร ก็ประมาณกรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั่นแหละครับ