posttoday

เจาะตลาดดานัง โอกาสธุรกิจไทย

14 กันยายน 2560

เป็นโอกาสที่น่าท้าทายสำหรับธุรกิจไทย ที่จะเข้ามาเปิดการค้าและการลงทุนใหม่ในประเทศเวียดนาม

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

เป็นโอกาสที่น่าท้าทายสำหรับธุรกิจไทย ที่จะเข้ามาเปิดการค้าและการลงทุนใหม่ในประเทศเวียดนาม ถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และผู้บริโภคมีกำลังซื้อ รวมถึงอีกเมืองของเวียดนามที่มีความน่าสนใจลงทุนอย่างมากคือ "ดานัง"

ปีเตอร์ เบลนีย์ เดวิดสัน หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ซันนี่ เวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์เปอเรชั่น เปิดเผยว่า เมืองดานังของเวียดนามจะกลายเป็นเมืองสำคัญอย่างมากในอนาคต จึงอยากแนะนำธุรกิจไทยรวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ควรที่จะขยายการลงทุนในเมืองนี้ เพราะเศรษฐกิจในเมืองดานังมีการเติบโตสูง ภาครัฐบาลของเวียดนามให้ความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นเมืองด้านอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ธุรกิจที่น่าสนลงทุนในดานัง เช่น การท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจสปาและบริการดูแลสุขภาพ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจบริการทางการแพทย์และบริการทางสุขภาพ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่จะเข้ามาลงทุนเพื่อเปิดตลาด และขยายฐานหาลูกค้าใหม่ ส่วนขั้นตอนการเข้ามาลงทุนและเปิดธุรกิจในเวียดนาม ปัจจุบันมีความสะดวกมากขึ้น

ส่วนราคาที่ดินเฉลี่ยในปัจจุบันเฉลี่ย 200 ดอลาร์สหรัฐ/ตารางเมตร (ตร.ม.) โดยประเมินว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า ราคาที่ดินในดานังจะปรับขึ้นเป็น 1,000 ดอลลาร์/ตร.ม. ขณะที่การขนส่งและโลจิสติกส์ ภายในประเทศก็มีความสะดวก รวมถึงคนเวียดนามชื่นชอบสินค้าไทยระดับสูงและเป็นสินค้าที่มีราคาสมเหตุสมผล

ด้านการขนส่งสินค้าที่เป็นระยะทางจากประเทศไทย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาสู่ดานัง จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จึงเพิ่มโอกาสขนส่งสินค้า หรือการเดินทางโดยเครื่องบินก็ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในเวียดนาม สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจไทยต้องดำเนินการ คือ การศึกษาข้อมูลของตลาดให้ชัดเจน รวมถึงการทำวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อให้วางแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง เหมือนกับเอกชนของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้เข้ามาลงทุนในเวียดนามจำนวนมาก ต่างประสบความสำเร็จ เพราะการทำวิจัยข้อมูลอย่างจริงจัง

"องค์ประกอบสำคัญอีกด้านในการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจ จะต้องมีการทำธุรกิจด้วยความตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ ทำธุรกิจให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น และมั่นใจ ได้รับการยอมรับ รวมถึงการที่ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในประเทศ" เดวิดสัน กล่าว

นอกจากนี้ โอกาสในดานังที่น่าสนใจ ในฐานะที่ตนเองทำงานในเวียดนามมายาวนาน และต้องการส่งเสริมธุรกิจไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีไทยให้เข้ามาทำตลาดมาในเวียดนาม จึงสนใจที่จะเปิดเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่มีรูปแบบคล้ายกับตลาดนัดจตุจักรในไทย เพื่อให้มีสินค้าไทยวางจำหน่ายได้อย่างหลากหลาย และมีราคาค่าเช่าใกล้เคียงกับตลาดนัดจตุจักรของไทย

การเลือกพื้นที่เปิดศูนย์กระจายสินค้าไทยในเวียดนาม ได้เปิดที่เมืองโฮจิมินห์ ที่มีพื้นที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก พร้อมกันนี้จะมีการให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการในด้านต่างๆ อย่างครบวงจร ทั้งการเข้ามาทำธุรกิจ การแนะนำในด้านกฎหมาย กฎระเบียบและเอกสารต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคนักธุรกิจไทย

"การลงทุนในเวียดนาม มีความน่าสนใจอย่างมาก จึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึงเอสเอ็มอีไทย ให้เข้ามาหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เป็นตลาดที่กำลังเติบโต มีกำลังซื้อ เชื่อมั่นว่าเอสเอ็มอีไทย จะสามารถประสบความสำเร็จที่นี่อย่างแน่นอน" เดวิดสัน กล่าว

เดวิดสัน กล่าวทิ้งท้ายว่า ถึงเวลาที่ธุรกิจไทยจะต้องเร่งขยายสู่ตลาดต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมั่นว่า เวียดนาม เป็นตลาดที่สำคัญแก่เอกชนไทย และธุรกิจในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน รวมถึงตนเองที่พร้อมเป็นสะพานเชื่อมเอสเอ็มอีไทยมาตลาดในเวียดนาม