กีเดียน ฮัสซัน ยักษ์ใหญ่ยานยนต์อิเหนา

โดย...ทศพล หงษ์ทอง

เกษตรกรรมและโลจิสติกส์ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่ขับเคลื่อนจีดีพีส่วนใหญ่ของประเทศอาเซียน ทั้งยังเป็นภาคธุรกิจที่บ่มเพาะให้เกิดเศรษฐีแถวหน้ามากมายในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศที่มีศักยภาพด้านประชากรอย่างอินโดนีเซีย จึงไม่แปลกที่ กีเดียน ฮัสซัน (Gidion Hasan) จะเป็นหนึ่งในผู้กุมบังเหียนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าในอาเซียน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1972 บริษัทแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมริเริ่มยึดแนวทางดำเนินกิจการให้ล้อไปกับศักยภาพการเติบโตของประเทศในขณะนั้นซึ่งไม่พ้นเรื่องภาคเกษตรกรรม ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ (United Tractors : UT) ไม่รอช้าที่จะจับมือกับผู้เล่นรายใหญ่อย่างโคมัตสุ เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายรถแทรกเตอร์รายเดียวในประเทศ จากนั้นใช้เวลาไต่เต้าไม่ถึง 20 ปี เพื่อกระโดดเข้าบ่อเงินบ่อทองอย่างตลาดหุ้นของประเทศพร้อมปรับโฉมเป็นผู้เล่นระดับโลก ขณะนี้ ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ มีสาขาทั้งหมด 20 แห่ง ศูนย์กระจายสินค้าอีก 22 แห่ง พร้อมสำนักงานอีก 11 แห่ง และจุดบริการลูกค้าอีก 177 แห่งทั่วประเทศ

ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ ภายใต้การบริหารของกีเดียน ถูกยกให้เป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์หนักและรถแทรกเตอร์รายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ครองสัดส่วนตลาดเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 40% ของมูลค่าตลาด โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายทั้งสิ้น 2,181 คัน ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 159,232 ล้านบาท ด้วยอัตราการเติบโต 15% ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ ก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งกิจการที่เป็นขวัญใจของนักลงทุน จนทำให้มูลค่าตลาดพุ่งทะลุ 639,416 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมามีรายได้ทั้งสิ้น 111,960 ล้านบาท ด้วยกำไรสุทธิ 23,884 ล้านบาท ขยายตัว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมียอดขายรถแทรกเตอร์ทั้งสิ้น 2,181 คัน และรสบัสอีก 211 คัน

กีเดียน ยังได้ต่อยอดกิจการด้านเหมืองแร่ผ่านบริษัทลูกอย่าง Pamapersada Nusantara เพราะเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของการส่งออกแร่ในอินโดนีเซียที่ขยายตัวล้อไปกับยอดขายรถบรรทุก ถือว่าเป็นการต่อยอดกิจการเพื่อยึดหัวหาดตลาดโลจิสติกส์ และเกษตรกรรมได้อย่างแนบเนียน ซึ่งบริษัทมีเหมืองขุดระดับพรีเมียมพื้นที่ 29,022 ไร่ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะกาลิมันตัน กำลังการผลิต 3 ล้านตัน/ปี ส่วนยูไนเต็ด แทรกเตอร์ รับช่วงเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินอีก 9 แห่ง รวมกำลังผลิต 424 ล้านตัน นับว่าเป็นบริษัทที่มีกำลังผลิตถ่านหินมากที่สุดในอินโดนีเซีย ครองสัดส่วนตลาดในประเทศถึง 48%

นอกจากนี้ ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ เตรียมเข้าเทกโอเวอร์บริษัทผลิตถ่านหินรายใหญ่อย่าง Suprabari Mapanindo Mineral ซึ่งมีมูลค่าการผลิตปีละ 1,610 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการควบรวมกิจการกับบริษัทญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินกำลัง 2,000 เมกะวัตต์ ในตอนกลางของเมืองชวา

กีเดียน เปิดเผยเคล็ดลับของความสำเร็จว่า การเป็นที่ 1 ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การรักษาอันดับ 1 ให้คงอยู่นั้นเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ดังนั้นสินค้าและบริการไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่เป็นการต่อยอดกิจการให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของประเทศ ต่อจากนี้เราจะขยายกิจการไปยังตลาดพลังงานเพื่อตอบสนองดีมานด์กว่า 260 ล้านคนในประเทศ

ปัจจุบัน ยูไนเต็ด แทรกเตอร์ ได้แตกแขนงบริษัทไปมากมายเพื่อประสิทธิภาพในการพัฒนากิจการ โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการผลิตในอนาคต เช่น UTREES ดูแลด้านสิ่งแวดล้อม UTFUTURE ดูด้านการศึกษาและวิจัยพัฒนา UTGROW TH ดูแผนยุทธศาสตร์การดำเนินกิจการ UTCARE ดูด้านสุขภาพและสวัสดิการ และ UTACTION ดูแผนแอ็กชั่นแพลนของบริษัท