posttoday

อุตสาหกรรมสิ่งทอฯเวียดนาม เติบโตแรงแต่ไม่ยั่งยืน

22 กรกฎาคม 2560

อย่างที่เข้าใจกันดีว่าผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักอันดับต้นๆ ของประเทศเวียดนาม คือ "สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม"

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

อย่างที่เข้าใจกันดีว่าผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักอันดับต้นๆ ของประเทศเวียดนาม คือ "สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม" ด้วยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ จากข้อได้เปรียบด้านค่าแรงและจำนวนแรงงาน ส่งผลให้การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มครึ่งแรกของปี 2560 นี้ เพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเวียดนามกลับออกมาระบุว่าเป็นการโตขึ้นแต่ไม่ยั่งยืน

รายงานข่าวจากเวียดนามนิวส์ เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า รายได้กลุ่มเครื่องนุ่งห่มในเวียดนามขยับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นการเติบโตยังไม่ยั่งยืน โดยมูลค่าการส่งออกของสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เวียดนามครึ่งปีแรกเติบโตขึ้น 11.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมูลค่า 1.458 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าในปี 2559 เติบโต 6.1%

เล เตี๋ยน เจื่อง รองผู้อำนวยการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มประเทศเวียดนาม กล่าวว่า มูลค่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากความอุตสาหะท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีเสถียรภาพ แม้ว่าความต้องการสินค้าสิ่งทอของกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ลดลงในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้เป็นกลุ่มหลักในการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม แต่ยังถือว่าเวียดนามประสบความสำเร็จในการส่งออกตลาดดังกล่าว

ทั้งนี้ เวียดนามมีรายได้จากการ ส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยัง สหรัฐมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์เติบโตขึ้น 9% ขณะที่การส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปมีมูลค่า 2,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% และการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นมีมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12%

แต่แท้จริงแล้ว สาเหตุที่การส่งออกเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเวียดนามได้เปรียบในการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในช่วงนี้ เพราะแผนการค้าด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของจีนทำให้ส่งออกลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และบังกลาเทศลดลง 3.5% รวมถึงอินโดนีเซียลดลง 5% แต่จากนโยบายคุ้มครองการค้าของสหรัฐอเมริกา และการปรับอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของโลก และเป็นไปได้ว่าคู่แข่งมีแนวโน้มปรับลดค่าเงินลงเพื่อสนับสนุนการส่งออกในปีนี้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการเติบโตยังไม่มั่นคงนั่นเอง

สำหรับอุปสรรคสำคัญของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเวียดนาม คือ การแข่งขัน โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีการผลิตจำนวนมากทำให้ต้นทุนถูกกว่า ดังนั้นผู้ประกอบการเวียดนามจำเป็นต้องเข้าร่วมห่วงโซ่ อุปทานสากล และแข่งขันในด้านคุณภาพสินค้า ราคา และการจัดส่งที่ทันท่วงที พร้อมปรับปรุงการทำงานรูปแบบเดิมที่ไม่ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการเวียดนามไม่สามารถชนะการแข่งขัน และประสบความสำเร็จในการพัฒนาธุรกิจระยะยาว และอุปสรรคการแข่งขันของธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมในการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศ ยังไม่มีการพัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต รวมถึงประสิทธิภาพการทอและการย้อมผ้าไม่ตอบโจทย์ความต้องการคนในท้องถิ่น ดังนั้นอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศต้องนำเข้าเนื้อผ้าถึง 70% จึงเกิดความไม่สมดุลในการพัฒนา ซึ่งธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศเวียดนามส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีความสามารถในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศที่จำกัดหากไม่ได้เชื่อมโยงกับองค์กรขนาดใหญ่ จึงพบว่ามีธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ต้องล้มหายตายจากไป เพราะขาดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล

อีกทั้งธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศต้องประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น ขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ข้อจำกัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การตลาด การสื่อสารภาษาต่างประเทศและต้นทุนในการนำเข้าสูง

โดยผู้เชี่ยวชาญภาคอุตสาหกรรมเสื้อผ้า แนะนำว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านการฝึกอบรมในธุรกิจ การให้ความรู้ และสนับสนุนการผลิตตามรูปแบบของ ตนเอง (ODM : Original Design Manufacturer) หรือการออกแบบ รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี การสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อ ต่อการพัฒนาจากภาครัฐ การสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อ และการปราบปรามสินค้าลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย

เพื่อเพิ่มการแข่งขันของผู้ประกอบการในประเทศให้ยุติธรรมและยั่งยืน