posttoday

อินเตอร์ลิ้งค์ฯทุ่มพันล. เชื่อมข่ายไอทีเพื่อนบ้าน

27 มิถุนายน 2560

นับเป็นปีทองของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ก็ว่าได้ เมื่อกลุ่มอุตสาหกรรมไอที ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ฯลฯ

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

นับเป็นปีทองของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ก็ว่าได้ เมื่อกลุ่มอุตสาหกรรมไอที ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ฯลฯ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ที่ล้วนใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตส่งและเชื่อมโยงข้อมูลเข้ามาเกี่ยวข้อง

ณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL เปิดเผยว่า ITEL เป็นธุรกิจด้านไอที ให้บริการ 3 กลุ่มหลัก คือ บริการโครงข่ายความเร็วสูง รับเหมาติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสง และ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทคนไทยที่เริ่มต้นธุรกิจในประเทศ

“ถึงแม้จะเน้นการทำธุรกิจในไทย แต่เมื่อมีการลงทุนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงทั่วประเทศ และไทยเป็นศูนย์กลางในประเทศอาเซียนทั้งหมด หมายความว่าเมื่อประเทศเพื่อนบ้านต้องการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น จึงต้องใช้เส้นทางที่ผ่านประเทศไทย ซึ่งบริษัทสามารถให้บริการประเทศเพื่อนบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม” ณัฐนัย กล่าว

สำหรับในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 70% กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 200% มูลค่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 67 ล้านบาท โดยในปี 2560 ตั้งเป้าเติบโตขึ้น 40-60% และเป็นการเติบโตในส่วนกำไรสุทธิ 60% เนื่องจากทุกธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตดี โดยกล่าวได้ว่าเป็นความโชคดีที่รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านไอทีในประเทศ ประกอบกับบริษัทมีจุดแข็งด้านการลงทุนโครงข่ายใยแก้วนำแสงบนบก ครอบคลุมทั้งเส้นทางถนน และเส้นทางรถไฟ ซึ่งเป็นรายเดียวในประเทศที่ให้บริการทั้งสองเส้นทาง โดยเส้นทางเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์

ขณะที่ การดำเนินธุรกิจในอาเซียน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การทำงานกับบริษัทต่างชาติในอาเซียนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย เช่น บริษัทมาเลเซียมาตั้งสาขาสำนักงานในประเทศไทย เมื่อต้องการการเชื่อมต่อจากมาเลเซียมายังประเทศไทย บริษัทจึงเป็นผู้สนับสนุนด้านโครงข่าย เรียกว่าธุรกิจขาเข้าซึ่งในพื้นที่ชายแดน กัมพูชา ลาว เมียนมา บริษัทได้เชื่อมต่อโครงข่ายเรียบร้อยแล้ว เมื่อประเทศอื่นตั้งสาขาสำนักงานในไทยจึงสามารถใช้บริการเชื่อมโยงยังเพื่อนบ้านได้ทันที โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจองค์กร ผู้ให้บริการมือถือ และผู้ให้บริการในต่างประเทศที่ต้องการสร้างโครงข่ายในไทย อีกประเภทหนึ่ง คือ ธุรกิจขาออก ธุรกิจของคนไทยที่ต้องการไปตั้งสาขาสำนักงานในประเทศเพื่อนบ้าน

โดยธุรกิจขาออก เช่น สาขาธนาคารสัญชาติไทยที่ไปทำตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยบริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีสาขาสำนักงานหลายแห่ง เช่น ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย อุตสาหกรรมบันเทิง เป็นต้น

ขณะที่การเติบโตรายได้ในปี 2559 มาจากการทำธุรกิจในต่างประเทศ 5% และปีนี้คาดว่าจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 10% ซึ่งแผนในปีนี้เน้นความร่วมมือกับเมียนมาและมาเลเซียมากขึ้น “เราสนใจทำธุรกิจในเมียนมาด้วยเล็งเห็นว่าอนาคตธุรกิจไอทีในประเทศนี้จะเติบโตเร็ว เพราะปัจจุบันเมียนมาเปลี่ยนมาสู่ยุค 4จี แบบก้าวกระโดด อีกทั้งรัฐบาลอนุญาตให้บริษัทต่างชาติมาลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมได้มีเงินทุนมหาศาล จึงเป็นโอกาสของบริษัทในการมองหาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง”

สำหรับประเทศมาเลเซียมีข้อดี ในด้านการเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างไทยและสิงคโปร์ หมายความว่า หากจะเชื่อมโยงเส้นทางโครงข่ายข้อมูลไปสิงคโปร์ต้องผ่านมาเลเซีย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในอาเซียนอยู่ที่สิงคโปร์ เมื่อมาเลเซียจะเป็นตัวกลางการเชื่อมโยงที่มีบทบาท บริษัทจึงต้องเป็นพันธมิตรกับมาเลเซียด้วยโดยทั้งสองประเทศ มาเลเซียและเมียนมา อยู่ระหว่างศึกษาตลาด คาดได้ ข้อสรุปธุรกิจที่จะลงทุนเป็นรูปธรรมได้อีก 6 เดือนข้างหน้า พร้อมเตรียมตั้งสาขาสำนักงานของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ใน 2 ประเทศนี้ โดยตั้งงบประมาณการลงทุนใน 2 ประเทศคร่าวๆ จำนวน 1,000 ล้านบาท