posttoday

เสริมเขี้ยวเล็บ SMEs ลุยยึดตลาดเมียนมา

11 พฤศจิกายน 2559

เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้านไทยที่กำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด

โดย...นภัค ตรีแดงน้อย

เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้านไทยที่กำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด หลังเปิดประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ส่งผลทำให้อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีที่ผ่านมากว่า 7.8% และยังมีแนวโน้มการขยายตัวไม่หยุด เพราะมีความต้องการสินค้าจากภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยอีกจำนวนมาก เช่น สินค้าประเภทอาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง สินค้าเกี่ยวกับการเกษตร รวมถึงพวกอุปกรณ์การก่อสร้าง

การส่งออกสินค้าไปเมียนมาผ่านเส้นทางด้านภาคตะวันตกของประเทศไทยเอง ซึ่งมีชายแดนที่ติดต่อกันจะอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร หลังไทยพัฒนาเส้นทางคมนาคมแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงที่จะรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจของเมียนมาเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดงานมหกรรมวันนัดพบผู้ประกอบการ เพื่อเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ในภาคตะวันตกมีศักยภาพและมีมาตรฐานสากลรับการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน

อรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เมียนมาถือเป็นประเทศที่ผู้ประกอบการทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ทั้งเข้าไปร่วมลงทุนและนิยมส่งออกสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทยมีภาคอุตสาหกรรมการผลิตมากกว่า 5 แสนราย เข้าไปร่วมลงทุนและทำธุรกิจด้วย ขณะที่ในส่วนของภาคตะวันตกมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากกว่า 2.3 แสนราย ซึ่งหากจะทำธุรกิจและการค้าขายระหว่างประเทศกับเมียนมา ผู้ประกอบการทางภาคตะวันตกสามารถทำได้อีกมาก และเชื่อว่าทำได้ดีด้วย แต่ยังขาดทักษะทางกระทรวงอุตสาหกรรมจึงเปิดคอร์สอบรมเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บรุกตลาดเมียนมา

“ครั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องพลิกธุรกิจเอสเอ็มอีให้กับผู้ประกอบการภาคตะวันออกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0  ต่อด้วยการบรรยายพิเศษเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจพิชิตการตลาดยุคใหม่ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 และการเสวนา ผู้ประกอบการไทยพร้อมหรือไม่ในยุคการเปลี่ยนสู่ดิจิทัล สร้างความรู้และพัฒนาขีดความสามารถให้ผู้ดำเนินธุรกิจมีความพร้อมเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงไปในทิศทางเดียวอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งไปสู่การพัฒนาในระดับภูมิภาคอย่างทั่วถึง” อรรชกา กล่าวถึงอาวุธเด็ดเจาะตลาดเมียนมา

ขณะที่ ภัทรภร มีแสงเงิน เลขานุการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรหลักสอง จ.สมุทรสาคร หนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและสถาบันการเงินพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ หากมีการต่อยอดสินค้าเพื่อการส่งออก ซึ่งอาจจะไม่ใช่ธุรกิจเดิมหรืออาจจะเป็นสินค้าใหม่ แต่ผลิตจากวัตถุดิบเดียวกัน อย่างทางกลุ่มอยากทำว่านหางจระเข้กวน เพื่อที่จะส่งออกได้ แต่ต้นทุนยังสูง คงต้องมีการพูดคุยกับสมาชิกอีกครั้ง

ด้วยความได้เปรียบที่มีชายแดนติดกับเมียนมา อีกทั้งจากความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ความเพียบพร้อมในระบบคมนาคมขนส่ง หากทางภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจังก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของภาคตะวันตกเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมียนมาเติบโตแบบก้าวกระโดด