posttoday

เสน่ห์เมือง ‘เว้’

25 พฤษภาคม 2561

เมืองเว้ เมืองมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเวียดนาม ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดมากกว่า 3 ล้านคน/ปี

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ หรือที่คนไทยรู้จักในนามเมืองเว้ เมืองมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเวียดนาม ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดมากกว่า 3 ล้านคน/ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า ในปี 2559 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ทั้งสิ้น 3,162,800 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 1,597,996 คน และชาวต่างชาติ 1,564,804 คน ขณะที่ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเว้ 2.7 ล้านคน ส่งผลให้ภาคธุรกิจบริการเติบโตขึ้น 6.26% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560

นอกจากนี้ ปัจจัยการเติบโตของธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว มีสาเหตุจากการสนับสนุนของรัฐบาล ตามแผนพัฒนาปี 2559-2563 ที่เน้นพัฒนาจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ใน 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.การพัฒนาการท่องเที่ยว-บริการ 2.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาด้านเทคนิคและอุตสาหกรรม 3.การก่อสร้างชนบทใหม่ และ 4.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวท้องถิ่น เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวได้เพิ่มทางเลือกที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงกลางคืนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ค้างคืนใน
เมืองเว้มากขึ้น เนื่องจากเดิมเว้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในช่วงกลางวันเท่านั้น รวมถึงเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ติดไฟสว่างทั่วทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

ขณะที่ข้อมูลจากสำนักข่าวท้องถิ่นเวียดนามนิวส์ ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมเมืองเว้จำนวน 1.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2560 ทั้งนี้ในจำนวนนักท่องเที่ยว 1.9 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 757,000คน และจากการพัฒนาส่งเสริมของทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เมืองเว้ส่งผลให้อัตราการค้างคืนในเมืองเว้เพิ่มขึ้นถึง 15.9% ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2561 ซึ่งนอกเหนือจากการท่องเที่ยวในเมืองเว้แล้วนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังเมืองดานัง ฮอยอัน และกว๋างบิ่ง

เสน่ห์เมือง ‘เว้’

นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น คือวันหยุดทางราชการ โดยพบว่าช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ได้แก่ เทศกาลตรุษจีน (Luner New Year) ซึ่งหยุดติดต่อกัน 9 วัน และวัน Reunification day ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติของเวียดนาม และวันกรรมกรสากล (May Day) หรือวันแรงงานแห่ง ซึ่งหยุดติดต่อกัน 4 วัน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งเฉพาะเดือน เม.ย. 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเมืองเว้ 4 แสนคน ประกอบกับเว้ได้จัดเทศกาลเว้ 2018 ระหว่างวันที่ 27 เม.ย. 2561-2 พ.ค. 2561 ที่ตรงกับช่วงวันหยุด Reunification Day ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหนาแน่น

เหงวียน วัน ฟุ๊ค รองผู้อำนวยการกรมท่องเที่ยวท้องถิ่น เปิดเผยว่า เว้พยายามรองรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ในช่วงเดือน 8 ที่เหลือของปีนี้ ด้วยความพยายามพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ในเดือน เม.ย. 2561 เว้ได้เปิดตัวรีสอร์ทแห่งใหม่ที่มีน้ำพุร้อนจากธรรมชาตินำเสนอบริการการท่องเที่ยวด้านสุขภาพ ถือเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มอบประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองเว้ ได้แก่ วัดเทียน มุ (Thiên Mụ) สร้างขึ้นในปี 2144 (ค.ศ. 1601) จุดเด่นคือสถาปัตยกรรมเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม 7 ชั้น ที่รับอิทธิพลมาจากพุทธศาสนานิกายเซน สุสานจักรพรรดิมินห์มาง ก่อสร้างขึ้นในปี 2383 (ค.ศ. 1840) กษัตริย์ผู้ยึดถือการปกครองและบริหารแบบจีน ส่งผลให้ศิลปะในยุคนั้นมีลักษณะคล้ายจีน โดยจุดเด่นคือบริเวณลานกว้างที่มีรูปสลักหินของเหล่าบรรดาช้าง ม้า ทหาร และขุนนาง นอกจากนี้ยังมีสุสานจักรพรรดิไคดิงห์ สุสานจักรพรรดิตือดึ๊ก และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกมากมาย

เสน่ห์เมือง ‘เว้’