posttoday

ตลาดอี-คอมเมิร์ซเมียนมา

16 เมษายน 2561

เมื่อครั้งที่ผ่านมาผมได้เล่าถึงการพัฒนาด้านการค้าในเมียนมา

 เมื่อครั้งที่ผ่านมาผมได้เล่าถึงการพัฒนาด้านการค้าในเมียนมา และได้กล่าวไปถึงการพัฒนาของตลาดอี-คอมเมิร์ซในประเทศเมียนมา ต้องบอกว่าทางตลาดเมียนมาปัจจุบันนี้ได้พัฒนาไปมาก ต้องเล่าให้ฟังว่า ในอดีตที่ผ่านมาไม่เกินสิบปี การใช้เครื่องมือสื่อสารในเมียนมาได้ถูกปิดกั้นเป็นอย่างมาก โทรศัพท์บ้านที่มีใช้อยู่นั้น บ้านไหนมีก็ถือว่าเท่มากๆ ผมยังจำได้ว่า ช่วงที่ผมไปอยู่มหานครย่างกุ้งใหม่ๆ ผมจะโทรศัพท์กลับมาเมืองไทยทีไร ผมต้องไปยืนเข้าแถวที่สถานที่ทำการองค์การโทรศัพท์ พอลงชื่อเสร็จเขาจะถามว่าที่บ้านมีโทรศัพท์มั้ย ถ้ามีให้กลับไปรอบ้านก่อน ถ้าโทรติด เขาก็จะต่อสายไปที่บ้านให้เราคุยที่บ้านเลย ถ้าที่บ้านไม่มีโทรศัพท์ เขาก็จะให้รอที่องค์การโทรศัพท์เลย บางท่านอาจจะถามว่าแล้วกลับมาบ้านจะรับโทรศัพท์ทันเหรอ บอกได้เลยครับว่าเวลาทันแน่นอน เพราะต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงคิวเราครับ กว่าจะได้คิวคุยกับทางบ้านได้ก็เหนื่อยเลยครับ ลงชื่อตอนเช้า กว่าจะได้คุยก็บ่าย ...เฮ้อ

พอมาถึงยุคมือถือเริ่มเกิดขึ้นที่เมียนมา ช่วงแรกๆ ราคาโทรศัพท์มือถือแพงมาก เครื่องหนึ่งสามารถซื้อรถได้ครึ่งคันเลยครับ ถามว่าแล้วรถคันหนึ่งแพงมั้ย แพงมากกกกก ใครมีโทรศัพท์มือถือก็เท่มากๆ  ต้องเอามาเหน็บไว้ที่เอว เพราะจะได้โชว์เป็นเครื่องประดับสุดเท่หรูมีสกุล ท่านลองสร้างมโนภาพดูนะครับ ใส่โสร่ง สวมรองเท้าแตะ มีมือถือเหน็บเอว เท่ระเบิด แต่พอมีการปล่อยให้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น แต่เครือข่ายยังมีจำกัด มีแค่สามค่าย คือ MPT Ooredoo และ Telenor ก็ยังดีครับ ราคาลดลงมาเรื่อยๆ ครับ

จากนั้นประมาณห้าปีที่ผ่านมา เริ่มมีร้านขายโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มทยอยเปิดมากขึ้น ราคาก็เริ่มลดลง จากเดิมซิมการ์ด ก็ราคาแพงหูฉี่ แต่พอการแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น ทำให้ราคาเครื่องโทรศัพท์มือถือและราคาซิมการ์ดถูกลงอย่างมาก ชาวบ้านทั่วไปก็สามารถหาซื้อได้ แม้แต่เด็กๆ ทำงานห้างสรรพสินค้า หรือเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารก็มีมือถือใช้แล้ว วัยรุ่นทั่วไปก็เริ่มหาซื้อมาเป็นเครื่องประดับ ดังนั้นเราจึงเห็นร้านขายโทรศัพท์มือถือกลาดเกลื่อนทั่วไป ส่วนการเติมเงินโทรศัพท์ก็แสนจะง่าย มีทั้งจากผ่านบัตรเครดิต หรือหาซื้อเป็นการ์ดเติมเงินตามร้านขายของชำ ร้านอาหาร ร้านขายหมาก ร้านขายชากาแฟ ล้วนสามารถหาซื้อได้ เรียกว่าหาง่ายกว่าหาซื้อยาหม่องเสียอีกครับ

พอโทรศัพท์หาซื้อได้ง่าย สิ่งที่ตามมาคือการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ ก็ตามมาติดๆ สู่ยุคโลกโซเชียล มีเดียครองเมือง Facebook กับ Viber มีบทบาทในตลาดมาก แต่ไลน์กลับรับความนิยมน้อยกว่า เราจะเห็นโฆษณาผ่านสื่อนี้มากทีเดียว อีกทั้งตลาดเครื่องสำอางและสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ต่างเปิดช่องทางนี้กันมาก ที่สำคัญคือเกิดตลาด MLM หรือขายตรงกันเยอะมาก บางวันไปรับแขกที่โรงแรมหรูๆ ในย่างกุ้ง ก็จะเจองานสัมมนาของบริษัทขายตรงแทบจะทุกครั้ง เสียดายที่ผมไม่มีความรู้และไม่ถนัดทำแบบขายตรงเลยอดรวยกับเขาเลย