posttoday

ฮารี ทาโนโซดิบโจ ทรัมป์แห่งอินโดนีเซีย

05 มีนาคม 2561

ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยกำลังเทกออฟติดปีก ทำให้นึกถึงบุคคลทรงอิทธิพลผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อราคาหุ้นบนกระดานทั่วโลกอย่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์

โดย...ทศพล หงษ์ทอง

ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยกำลังเทกออฟติดปีก ทำให้นึกถึงบุคคลทรงอิทธิพลผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อราคาหุ้นบนกระดานทั่วโลกอย่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำฝีปากกล้าที่สามารถสร้างสีสันหรือสั่นสะเทือนโลกทั้งใบด้วยคำพูดของเขา มหาเศรษฐีผู้ยอมถอดหมวกท็อปแฮตเข้าสู่การเมืองเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ชีวิตของทรัมป์ไม่แตกต่างจากเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย ที่มาพร้อมคำพูดว่า "Make Indonesia Great Again"

ฮารี ทาโนโซดิบโจ (Hary Tanoe soedibjo) ถูกยกให้เป็น โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินโดนีเซีย นายทุนใหญ่ผู้ต้องการเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ ด้วยภูมิหลังและความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประธานาธิบดีสหรัฐ เขาเป็นเจ้าของสินทรัพย์กว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากกิจการอสังหาริมทรัพย์และสื่อสารมวลชนเช่นเดียวกับทรัมป์

ชายคนนี้มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์หลายล้านคน และเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มองเห็นโอกาสของอินโดนีเซียจากปัจจัยบวกด้านจำนวนประชากรอันดับ 4 ของโลก และมีมูลค่าจีดีพีของประเทศติดอันดับ 16 ของโลก ฮารีเป็นเจ้าของโครงการรีสอร์ทหรูระดับ 6 ดาวที่ใหญ่สุดในประเทศอินโดนีเซีย ทั้งยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สุดหรูอีกหลายแห่ง และเชื่อเถอะว่าเขาทั้งสองคนไม่ได้มาเจอกันแบบโชคช่วย

ฮารีและทรัมป์มีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันจนน่าเหลือเชื่อ ย้อนกลับไปที่ช่วงวัยเด็ก พ่อของเขาทำธุรกิจด้านรับเหมาเหมือนกับบ้านของทรัมป์ ทั้งสองคนนี้ยังเคยเป็นพิธีกรและครอบครองกิจการด้านสื่อเหมือนกันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ฮารีเริ่มต้นด้วยการใช้เงินทุนราว 2 แสนบาท ลงทุนลองผิดลองถูกอยู่หลายปี ก่อนก่อตั้งบริษัท MNC Group ในปี 1997 ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย เขากลับมองว่ามันเป็นโอกาสที่จะเข้าเทกโอเวอร์กิจการในราคาแสนถูก จากจุดนั้นทำให้เขาเทกออฟความร่ำรวยของตัวเองอย่างรวดเร็วจนมีทรัพย์สินรวมนับหมื่นล้านบาท

ปัจจุบัน MNC เป็นบริษัทกลุ่มทุนอันดับต้นๆ ของประเทศ ลงทุนด้านพลังงาน สินเชื่อ และทรัพยากร ธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการ 4 ช่องสถานี และเป็นผู้นำรายการอเมริกันไอดอล และเอ็กซ์แฟกเตอร์ เข้ามาเผยแพร่ในแดนอิเหนาจนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

ฮารีเป็นเพียงนักธุรกิจไม่กี่คน ที่ได้ลงทุนเมกะโปรเจกต์ร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐก่อสร้างรีสอร์ท ไฮเอนด์พื้นที่ 1 แสนตารางฟุต ไม่ไกลจากเมืองจาการ์ตา ด้วยรีสอร์ทแบบวิลล่ากว่า 300 หลัง และสวนสนุกในคอนเซ็ปต์ธีมปาร์กกว่า 425 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ถูกจับตามองจากนักลงทุน คาดว่าจะเปิดให้บริการภายใน 1 ปีนับจากนี้ ภายใต้ชื่อว่า Lido และเขายืนยันว่าจะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องอีกกว่า 7 หมื่นล้านบาทในอนาคต เพื่อพัฒนาให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของอินโดนีเซียที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องตามหา

"อนาคตของประเทศชาติสำคัญกว่าตัวเลขกำไรขาดทุนของเงินในบัญชีส่วนบุคคลหรือตัวเลขงบดุลในบริษัท เพราะประชาชนฐานรากคือผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศทั้งการผลิตและการบริโภค" แนวคิดของ ฮารีสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ด้านการเมืองและด้านเศรษฐศาสตร์ว่าเขานับถือฟันเฟืองฐานรากอย่างประชาชน เพราะเขาเชื่อว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพที่จีดีพีจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศจีน หากดูจากประชากรที่มีกว่า 270 ล้านคน ดังนั้นเขาจึงสนับสนุนนโยบายด้านการอุดหนุนทุนการศึกษา และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเช่นเดียวกันกับทรัมป์

"ผมชื่นชอบแนวคิดของทรัมป์ที่สนับสนุนคนที่อยู่รากหญ้า และนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการเห็นในบ้านเกิดแห่งนี้" ฮารีตั้งเป้าหมายว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2019 และต้องการขึ้นบริหารประเทศภายในระยะเวลา 10 ปี หากแม้จะผิดหวังจากการเลือกตั้งในปีหน้า