posttoday

เฉิน ลิบ เกียง เจ้าพ่อกาสิโนกัมพูชา

11 กันยายน 2560

เฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซีย ผู้ติดอันดับ 1 ใน 50 นักธุรกิจที่ร่ำรวยของเอเชียประจำปี 2560 จากการจัดอันดับโดยฟอร์บส์

โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง

เฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซีย ผู้ติดอันดับ 1 ใน 50 นักธุรกิจที่ร่ำรวยของเอเชียประจำปี 2560 จากการจัดอันดับโดยฟอร์บส์ เขาเป็นเจ้าของนากาเวิลด์ (NagaWorld) กาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือบริษัท นากาคอร์ป (NagaCorp)

ปัจจุบัน เฉิน ลิบ เกียง ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นและประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท นากาคอร์ป อีกทั้งยังมีบทบาทการบริหารงานบริษัทในเครือนากาคอร์ปหลายแห่ง โดยบริษัท นากาคอร์ป ได้ลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว โรงแรม สถานบันเทิง ร้านอาหาร ห้างค้าปลีก และธุรกิจกาสิโน ซึ่งกาสิโนเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับนากาคอร์ป และผลักดันให้ เฉิน ลิบ เกียง ติดรายชื่อการจัดอันดับนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ปัจจุบันรายได้ของเขาเพิ่มขึ้น 158% หรือมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการทำธุรกิจกาสิโนในประเทศกัมพูชา เนื่องจากกาสิโนเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยว โดยมีชาวจีนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก

ทั้งนี้ สำนักข่าวท้องถิ่น ขะแมร์ ไทมส์ เปิดเผยเนื่องในโอกาสครบรอบ 21 ปี การเปิดตัวของกาสิโนนากาเวิลด์เมื่อปีที่ผ่านมา ว่า นากาเวิลด์ เป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้การบริหารงานของ เฉิน ลิบ เกียง โดยรายได้ในไตรมาสแรกปี 2559 ของนากาเวิลด์ มีมูลค่า 153.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 สำหรับรายได้รวมของบริษัท นากาคอร์ป ในปี 2558 มีมูลค่า 480.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 จะเห็นได้ว่า สัดส่วนรายได้จากกาสิโนนากาเวิลด์เป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด

ข้อมูลจากฟอร์บส์ ระบุว่า เฉิน ลิบ เกียง ก่อตั้งนากาคอร์ปในปี 2538 และจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปี 2549 ซึ่งนากาคอร์ปได้รับสัมปทานสร้างกาสิโนนากาเวิลด์ในประเทศกัมพูชาเป็นเวลา 70 ปี และยังทำสัญญาระยะสั้น โดยมีสิทธิในการตั้งกาสิโน รัศมี 200 เมตร จากพนมเปญเพียงรายเดียว ซึ่งข้อตกลงจะหมดอายุในปี 2578

ทั้งนี้ เขาติดรายชื่อการจัดอันดับเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในมาเลเซียตั้งแต่ปี 2552 ด้วยมูลค่ารายได้ 195 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปีเดียวกันมูลค่าหุ้นของนากาคอร์ปขยับเพิ่มขึ้นถึง 500% โดยเป็นมูลค่าหุ้นที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น นอกจากธุรกิจกาสิโนเขายังเป็นผู้ดูแลบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวในมาเลเซียด้วย

นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ในประเทศมาเลเซีย อีกทั้งยังมีธุรกิจน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติในประเทศแคนาดาและได้ทำธุรกิจอื่นๆ ทั่วโลก

ขณะที่มูลค่าตามราคาตลาดของนากาคอร์ปในปี 2559 มีมูลค่าถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (ปี 2549) โดยในช่วงระหว่างปี 2549-2556 นากาคอร์ปจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นรวม 538 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปี 2558 กำไรสุทธิของนากาคอร์ปเพิ่มขึ้น 27% มูลค่า 172.6 ล้านดอลลาร์ พบว่ากำไรต่อหุ้นเท่ากับ 7.60 เซนต์ และเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น คือ 1.89 เซนต์/หุ้น นอกเหนือจากธุรกิจกาสิโน นากาคอร์ปยังได้ลงทุนโครงการอื่นในกัมพูชา ได้แก่ โครงการนากา 2 ที่ลงทุนในเดือน พ.ย. 2555 ด้วยงบลงทุน 369 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยโรงแรม 2 แห่งใหม่ โรงภาพยนตร์ขนาด 2,000 ที่นั่ง ห้างค้าปลีก ร้านอาหาร และสถานบันเทิง

ธุรกิจการลงทุน 2 โครงการขนาดใหญ่ในกัมพูชา ส่งผลให้นากาคอร์ปเป็นเอกชนรายใหญ่ที่ก่อให้เกิดการจ้างงานในกัมพูชาถึง 6,000 ตำแหน่ง และจะขยับเป็น 1 หมื่นตำแหน่ง ในปี 2561 นอกเหนือจากความสัมพันธ์ด้านธุรกิจแล้ว นากาคอร์ปยังเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมทางสังคมในประเทศกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านกีฬาและการมอบทุนการศึกษา กล่าวได้ว่าปูทางความสัมพันธ์ทั้งทางด้านธุรกิจ สังคม และคนในท้องถิ่น