posttoday

ชู ‘วีกเอนด์ เดสติเนชั่น’ ฮับเชื่อมท่องเที่ยวภูมิภาค

02 ธันวาคม 2559

การแข่งขันที่ดุเดือดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลแต่ละประเทศต่างหามาตรการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตัวเอง

โดย...พีรดา ปราศรีวงค์

การแข่งขันที่ดุเดือดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลแต่ละประเทศต่างหามาตรการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตัวเอง จากสารพัดวิธีสร้างแรงจูงใจเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว ขณะที่ประเทศไทยนอกจากต้องรับมือกับสภาวะการแข่งขันแล้ว ยังอยู่ระหว่างการปัดกวาดจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดปี 2560 ได้สร้างความเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับแผนวิสาหกิจ ททท.ปี 2560-2564 เพื่อให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปีหน้า ททท.จะมุ่งส่งเสริมตลาดให้ครอบคลุมทุกด้าน ลดการพึ่งพาตลาดจีนเพียงตลาดเดียว แต่จะเกลี่ยความสำคัญตามความเหมาะสมและศักยภาพการเติบโตไม่ทิ้งตลาดใดตลาดหนึ่ง

ทั้งนี้ มองว่าตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวนไม่แพ้ตลาดจีน สามารถเดินทางได้บ่อยครั้งไม่จำกัดฤดูกาลเหมือนตลาดในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงหลายประเทศสมาชิกอาเซียนมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง ทั้งด้านจำนวนประชากรและกำลังซื้อสูง เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา ซึ่งในปีหน้าได้เตรียมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด วีกเอนด์ เดสติเนชั่น

นอกจากนี้ ยังจะชูจุดเด่นด้านภูมิศาสตร์ประเทศไทย มีสถานที่ตั้งตรงกลางสามารถเป็นจุดเชื่อมต่อจากไทยต่อไปยังประเทศอื่น ผ่านความร่วมมือกับสายการบินต่างชาติ การสร้างเครือข่ายการตลาดร่วมกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติอาเซียน ภาคเอกชนในสมาชิกอาเซียน วางกรอบความร่วมมือกับแผนส่งเสริมการเดินทางทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ

ด้านแผนกลยุทธ์การส่งเสริมตลาดต่างประเทศปี 2560 ในภาพรวม ททท.เตรียมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ท่องเที่ยวประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเดินทางมาเป็นอันดับต้นๆ พร้อมตอกย้ำถึงคุณค่าและประสบการณ์การเดินทางที่จะได้เมื่อมาเที่ยวประเทศไทย ผ่านวิถีความเป็นไทยที่แตกต่างจากประเทศอื่น

“แนวทางการสร้างแบรนด์ประเทศไทย เช่น การชูวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค การตอกย้ำการรับรู้วิถีชีวิตคนไทยผ่านเรื่องเล่า สร้างการเดินทางพร้อมบอกเล่าเรื่องราวแบบปากต่อปากจากประสบการณ์ ที่นักท่องเที่ยวได้รับตลอดการเดินทางพักผ่อนในไทย” ยุทธศักดิ์ กล่าว

สำหรับแนวทางขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมเน้นกลุ่มระดับกลาง-ระดับบน ซึ่งมีรายได้เฉลี่ย 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ/ปี ในปีหน้าเน้นการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต)เพิ่มขึ้น รวมถึงผลักดันให้ไทยรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มลักซ์ชัวรี่ มีรายได้เฉลี่ย 6 หมื่นเหรียญสหรัฐ/ปี ผ่านกิจกรรมทางการตลาด เช่น กลุ่มคอร์ปอเรต กลุ่มเรือยอชต์ ฯลฯ

ยุทธศักดิ์ บอกว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางมาซ้ำกว่า 80% ในปีหน้าเตรียมขยายฐานนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วย เพื่อสร้างความสมดุลให้กับการท่องเที่ยว โดยในปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 5,2915 บาท/ วัน เพิ่มขึ้น 4.88%  

พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ ททท.เร่งศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเปิดสำนักงาน ททท.มณฑลเหอหนาน ซึ่งอยู่ตอนกลางของประเทศจีน เป็นแห่งที่ 6 ของสำนักงาน ททท.ในประเทศจีน เพื่อทำการตลาดในเชิงรุกและใช้เหอหนานเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การนำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยผ่านกลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตร เพราะมณฑลเหอหนานมีประชากรกว่า 100 ล้านคน

ทั้งนี้ การเปิดสำนักงานดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากรัฐบาลจีนก่อน ด้วยปัจจุบันประเทศไทยมี 5 สำนักงาน เป็นประเทศที่มีสำนักงานมากที่สุดในอาเซียน หากเปิดได้แผนการพิจารณาหลักเกณฑ์จะแล้วเสร็จในปี 2560 ก่อนอนุมัติก่อตั้งในปีงบประมาณ 2561

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้ายังมีปัจจัยภายในและภายนอกการแข่งขันทางการท่องเที่ยวที่รอการพิสูจน์ฝีมือว่า แท้จริงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน