posttoday

'จุรินทร์' นำถกรัฐ-เอกชนกระชับค้าชายไทย-เมียนมา เร่งขยายตลาดส่งออก

03 ตุลาคม 2562

'จุรินทร์' นั่งหัวโต๊ะ ดันค้าชายแดนไทย-เมียนมา หารือ 7 ประเด็นหลัก เร่งเปิดสะพานแม่สอดแห่งที่ 2 ขยายเวลาเปิดปิดด่านถึงเที่ยงคืน

'จุรินทร์' นั่งหัวโต๊ะ ดันค้าชายแดนไทย-เมียนมา หารือ 7 ประเด็นหลัก เร่งเปิดสะพานแม่สอดแห่งที่ 2 ขยายเวลาเปิดปิดด่านถึงเที่ยงคืน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีวาระพิจารณาสำคัญคือการเร่งรัดการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา การขยายเวลา เปิด ปิด ด่านค้าชายแดนไทยเมียนมา กรณีด่านแม่สอด-เมียวดี จ.ตาก การยกระดับด่านการค้าชายแดน การอนุญาตให้รถบรรทุกเมียนมาเข้ามาบรรทุกสินค้าในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษฝั่งไทย การผลักดันการตรวจหนังสือรับรองถิ่น กำเนิดสินค้า (Form D) ณ ด้านชายแดนไทย-เมียนมา

ทั้งนี้ผลการประชุม มีแนวทางสำคัญ 7 ประเด็น คือ 1. เรื่องการเปิดสะพานแม่สอดแห่งที่ 2 ได้มีความชัดเจนคือไทย-เมียนมา ได้ MOU เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ร่วมกันเพื่อเปิดสะพาน โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการ 30 ตุลาคม 2562 นี้ และจากนี้จะเป็นงานธุรการเพื่อบรรลุการเปิดใช้สะพาน โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตามขั้นตอนเพื่อเปิดใช้ถาวรและกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ประกาศใช้ต่อไป

2.ภาคเอกชนขอขยายเวลาเปิด-ปิด ด่านแม่สอด โดยขอขยายเวลาปิดจาก 20.30น.เป็น 24.00 น. ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับไปดำเนินการ 3. การยกระดับ 3 ด่านเป็นด่านถาวร คือ จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการให้กระทรวงการต่างประเทศประชุมเจบีซีไทย-เมียนมาต่อไป จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน รอสำรวจภูมิประเทศและความเห็นชอบจากทางการเมียนมา จุดผ่อนปรนการค้าพระเจดีย์ 3 องค์ จังหวัดกาญจนบุรี ทางกรมการค้าต่างประเทศหารือกับกองกำลังสุรสีห์ในขั้นตอนต่อไป

4. กรณีการอนุญาตให้รถบรรทุกเมียนมาเข้ามาบรรทุกสินค้าในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษฝั่งไทยนั้น ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตากไปหารือกับอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เพื่อสรุปหาทางออก 5.การผลักดันการตรวจหนังสือรับรองถิ่น กำเนิดสินค้า(Form D)ณ ด้านชายแดนไทย-เมียนมา ให้กรมการค้าต่างประเทศไปประสานงานเมียนมาเพื่อใช้ระบบอิเลคทรอนิค ตามข้อตกลงอาเซียน (Asean Single window) ภายใน 1 วันที่ ธ.ค. 2562

6.กรณีผู้ถือใบอนุญาตผ่านแดน boarder pass ขอเข้าพร้อมรถโดยกำหนดพื้นที่เดินทาง เรื่องนี้ให้ท่านผู้ว่าราชการ จังหวัดตากไปพิจารณาและหารือกรมการขนส่งทางบก 7.กรณีเซนทรัลแล็ป หรือ ห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อจัดตั้งไว้ที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากนั้นอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อให้เกิดขึ้นตามขั้นตอน

รายงานข่าวกรมการค้าต่างประเทศ ว่า สถิติการค้าขายแดนไทย-เมียนมา ในช่วง 8 เดือนของปี 2562 (มกราคม-สิงหาคม) การค้าชายแดนไทยกับเมียนมามีมูลค่าการค้ารวม 133,865.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.73% โดยการส่งออกมีมูลค่า 68,907.45 ล้านบาท ลดลง 4.10% และการนำเข้ามีมูลค่า 64,958.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.08% ไทยได้ดุลการค้า 3,949.12 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกจากไทยที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าหมวดพลังงาน เช่น น้ำมันดีเซล และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ นอกจากนี้เป็นสินค้าทุนหรือสิ่งก่อสร้าง เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ใช้ในการผลลิต เช่น ผลิตภัณฑ์เหล็ก เหล็กกล้า ผ้าผืน ด้าย เป็นต้น เหตุที่เมียนมาต้องนำเข้าสินค้าประเภทสิ่งก่อสร้างอย่างต่อเนื่องเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้สินค้าไทยยังเป็นที่นิยมของชาวเมียนมา รวมถึงนักท่องเที่ยวและต่างชาติที่เข้าไปลงทุน เช่น เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนนำเข้าเกือบ 82% รองลงมาคือ ธัญพืช สัตว์น้ำ โค กระบือ สุกร แพะ แกะ เหตุที่ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติรวมถึงสินค้าประมง เพราะเมียนมายังมีทรัพยากรธรรมชาติเหลืออีกมาก ด่านการค้าสำคัญ คือ ด่านศุลกากรแม่สอด ด่านศุลกากรสังขละบุรี ด่านศุลกากรระนอง ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรเชียงแสน และด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์