นอร์ฮาญาตี ซูบากัท ผู้บุกเบิกเครื่องสำอางฮาลาล

เรื่อง ดุสิดา วรชาติเดชชัย

ผลิตภัณฑ์ความงามฮาลาลของ นอร์ฮาญาตี ซูบากัท เป็นอีกทางเลือกใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนจากภายในสู่ภายนอกโดยไม่ต้องมีความกังวลเรื่องการละเมิดข้อบังคับทางศาสนา

นอร์ฮาญาตี จบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งบันดุง สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ ก่อนจะเข้าทำงานในฐานะเภสัชกรของโรงพยาบาลในเมืองปาดัง ตามด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพของบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง และเริ่มเข้าสู่เส้นทางของผลิตภัณฑ์ความงามอย่างเต็มตัวตั้งแต่ปี 1985 โดยก่อตั้งบริษัทชื่อว่าปูซากา ทราดิซี อิบู เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมร่วมกับสามีของเธอที่เป็นนักวิศวกรรมเคมี และผลิตเครื่องสำอางในนามปุตรีเมื่อปี 1993

ถัดมาในปี 1995 เธอได้ทำการพัฒนาเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามฮาลาลขึ้นเป็นครั้งแรกในอินโดนีเซีย ประเทศที่ประกอบไปด้วยประชากรชาวมุสลิมกว่า 87% ภายใต้ชื่อวาดาห์ คอสเมติกส์ ที่มีความหมายในภาษาอารบิกว่ากุหลาบ เธอเริ่มต้นธุรกิจจากการตระเวนขายสินค้าตามโรงเรียนสอนศาสนาและหมู่บ้านต่างๆ โดยเฉพาะร้านเสริมสวยท้องถิ่น

ในช่วงแรกความท้าทายที่เธอต้องเผชิญคือการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ความงามรายใหญ่ในตลาดที่มีอยู่เดิมทั้งในและต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนยังวิจารณ์ว่าสินค้าของเธอเป็นการนำศาสนาเข้ามาใช้ทางการค้า แต่ความมุ่งมั่นของเธอก็ได้รับการยอมรับในที่สุด จากความตั้งใจที่อยากให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและถูกต้องตามหลักศาสนา อาทิ ไม่นำส่วนผสมของสัตว์หรือสิ่งของต้องห้ามมาใช้ในการผลิต เนื่องจากการใช้สินค้าเพื่อความงามถือเป็นการบริโภคเข้าสู่ร่างกายทางหนึ่งเช่นกัน โดยลูกค้าชาวมุสลิมหันมาเลือกซื้อเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองฮาลาล มากขึ้น จนกระทั่งปี 2011 เธอได้ทำ การจัดตั้งบริษัท พารากอน เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ความงามหลากหลายแบรนด์ในเครือ

แม้ว่าสินค้าของนอร์ฮาญาตีจะวางขายอยู่แค่ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบังกลาเทศ รวมถึงในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์อย่างลาซาด้าและเว็บไซต์ขายสินค้าความงามของอินโดนีเซียอย่างโซซิโอล่าเท่านั้น แต่เธอได้วางแผนขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคตด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเครื่องสำอางฮาลาลของเธอ ทำให้นอร์ฮาญาตีได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในนักธุรกิจหญิงดาวรุ่งของเอเชีย ประจำปี 2018 โดยนิตยสารฟอร์บส์

ปัจจุบันเครื่องสำอางฮาลาลของเธอมีส่วนแบ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของอินโดนีเซียกว่า 30% พร้อมด้วยพนักงานกว่า 8,300 คน และเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ โดยเฉพาะในด้านแฟชั่น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้อินโดนีเซียกลายเป็นเมืองหลวงของแฟชั่นสำหรับชาวมุสลิมภายในปี 2020

วาดาห์ คอสเมติกส์ ยังได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์ชั้นนำมากมาย เช่น แอนนิซา ฮาซิบูอาน ดีไซเนอร์ชาวอินโดนีเซียคนแรกบนเวทีนิวยอร์ก แฟชั่น วีก 2016 และเป็นดีไซเนอร์คนแรกที่นำเสนอคอลเลกชั่นการแต่งกายด้วยฮิญาบบนรันเวย์แห่งนี้

ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามที่ได้รับมาตรฐานฮาลาลของเธอมีจุดมุ่งหมายเพื่อผู้บริโภคชาวมุสลิมเป็นหลัก แต่นอร์ฮาญาตีได้มีการนำพรีเซนเตอร์ที่ไม่ได้สวมใส่ฮิญาบมาใช้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าด้วย เพื่อให้แบรนด์ของเธอสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนได้ครอบคลุมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือศาสนาใดก็ตาม เพราะแฟชั่นควรเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงได้และสนุกไปกับการสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด