เปิดกลยุทธ์ทีเส็บ เจาะตลาด CLMV

เรื่อง ดุสิดา วรชาติเดชชัย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings Incentives Conventions & Exhibitions - MICE) เป็นตลาดด้านการประชุมที่สำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย เพราะผู้ที่เดินทางมาประชุมเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงและมีความสามารถในการใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป

ขณะที่แนวโน้มการเติบโตอยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มซีแอลเอ็มวี (CLMV) โดยปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์จำนวนทั้งสิ้น 151,081 คน เพิ่มขึ้นสูงถึง 206.65% เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวไมซ์จาก CLMV คิดเป็นสัดส่วน 31.72% จากนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เดินทางมายังไทยรวมทั้งหมด 476,285 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวไมซ์จากเวียดนาม 55,306 คน ลาว 55,125 คน เมียนมา 22,733 คน และกัมพูชา 17,623 คน

นิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากความพยายามของทีเส็บที่ได้มีการเข้าไปทำการสำรวจและศึกษาตลาดไมซ์ภายใน CLMV ตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการออกแคมเปญจูงใจนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในกลุ่มไมซ์ และการแสวงหาพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ เพื่อให้ผลการดำเนินงานในปี 2562 ของทีเส็บเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30-40% จึงต้องมีการยกระดับกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกในกลุ่มประเทศดังกล่าวมากขึ้น ทั้งในภาคส่วนการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Meetings and Incentives หรือ MI) และการจัดแสดงสินค้า (Exhibitions หรือ E) เพื่อให้ไทยรักษาตำแหน่งตลาดระดับพรีเมียมของภูมิภาค อาทิ การจัดตั้งปลายทางแห่งใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวไมซ์ นอกเหนือจากกรุงเทพฯ การจัดกิจกรรมให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจ และเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว

ขณะที่กลยุทธ์ในส่วนการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ทีเส็บจะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรอย่างสายการบินบางกอกแอร์เวย์สติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และยกระดับแคมเปญ Fly and Meet Double Bonus - Redefined ด้วยสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ การได้รับยอดสะสมไมล์เดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า การอำนวยความสะดวกเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง บริการช่องทางพิเศษ (MICE Lane) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสิทธิในการขึ้นเครื่องบินเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของกลยุทธ์ดังกล่าว คือ กลุ่มบริษัทรับจัดการท่องเที่ยว ด้านการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทีเส็บได้มีการจัดกิจกรรม FAM Trip ที่เชียงใหม่ สำหรับเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวหรือสายการบินให้ได้ทราบถึงรายละเอียดของกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ และในปีนี้ มีการวางแผนจะจัดขึ้นที่ภูเก็ต ในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้

ด้านการจัดแสดงสินค้า ทีเส็บวางแผนมุ่งเจาะกลุ่มองค์กรหรือสมาคมด้านธุรกิจที่สามารถจัดกลุ่มนักท่องเที่ยวไมซ์ ได้ขั้นต่ำ 10 ราย/กลุ่ม โดยเฉพาะนักธุรกิจในกลุ่ม ASEAN+6 เพื่อมาเจรจาซื้อขายในงานแสดงสินค้าภายในไทย จะได้รับการสนับสนุนและรับสิทธิพิเศษด้านที่พัก และการเดินทางจากทีเส็บ

นอกจากนี้ นิชาภา เปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวไมซ์ของประเทศกลุ่ม CLMV ซึ่งได้มีการเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา ด้วยขนาดการเดินทางจาก 30 ราย/กลุ่ม เพิ่มขึ้นเป็น 100 ราย/กลุ่ม ภาคส่วนหลักของกัมพูชาจากงานโรดโชว์ผ่านมา ได้แก่ ธนาคาร เวชภัณฑ์ และธุรกิจขายตรง ซึ่งมักเป็นธุรกิจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยจุดหมายปลายทางในไทยที่นักท่องเที่ยวจากกัมพูชาให้ความสนใจ คือ เชียงราย กาญจนบุรี และเขาใหญ่

ถัดมาในเดือน ก.พ. ทางทีเส็บได้มีการจัดโรดโชว์ในเมียนมา ทั้งที่กรุงย่างกุ้งและกรุงมัณฑะเลย์ ด้วยขนาดการเดินทางจาก 100 ราย/กลุ่ม เพิ่มขึ้นเป็น 200 ราย/กลุ่ม โดยภาคส่วนหลักของเมียนมาจากงานโรดโชว์ ได้แก่ เวชภัณฑ์และอาหาร โดยจุดหมายปลายทางในไทยที่นักท่องเที่ยวจากเมียนมาให้ความสนใจ คือ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน และกาญจนบุรี

สำหรับจุดหมายต่อไปของการจัดโรดโชว์ของทีเส็บในเดือน มี.ค. คือ เวียดนาม ที่กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ซึ่งกลยุทธ์การจัดกิจกรรมโรดโชว์ในเชิงรุกจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางสำคัญของธุรกิจไมซ์ได้เป็นอย่างดี