posttoday

‘ดั่ง มิน เฟือง’ โลจิสติกส์เวียดนาม

21 มกราคม 2562

แม้ว่าเวียดนามจะมีการเติบโตด้าน โลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง แต่เวียดนามยังมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เรื่อง ปิยนุช ผิวเหลือง

แม้ว่าเวียดนามจะมีการเติบโตด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง แต่เวียดนามยังมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การพัฒนายังไม่เติบโตเต็มที่ แต่ถือว่าพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากแรงหนุนของอี-คอมเมิร์ซ และการตื่นตัวของผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักข่าวท้องถิ่นเวียดนามนิวส์ ระบุว่า โลจิสติกส์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซของเวียดนามมีศักยภาพ โดยปัจจุบันเวียดนามมีจำนวนผู้ประกอบการโลจิสติกส์ประมาณ 3,000 ราย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระหว่างประเทศ 30 ราย โดยธุรกิจโลจิสติกส์ของเวียดนามเติบโตเฉลี่ย 20-25% ต่อปี เป็นผลมาจากนโยบายที่เอื้ออำนวยของรัฐบาล และทัศนคติที่ดีของผู้ประกอบการเวียดนาม

มิง เฟือง โลจิสติกส์ (Minh Phuong Logistics) หนึ่งในบริษัทโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการท้องถิ่นเวียดนามยืดหยัดให้บริการถึง 25 ปี ภายใต้การบริหารงานของนักธุรกิจหญิง ท่ามกลางการแข่งขันทางธุรกิจกับผู้ประกอบการต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่มักเป็นเจ้าตลาดด้านโลจิสติกส์ในประเทศเวียดนาม

ดั่ง มิน เฟือง (Dang Minh Phuong) ผู้ก่อตั้งและประธาน มิง เฟือง โลจิสติกส์ (Minh Phuong Logistics) ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ที่กำลังพัฒนาในเวียดนาม เปิดเผยว่า ตั้งแต่บริษัทจัดตั้งขึ้นในปี 2538 เราได้ค่อยๆ เติบโตและเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่ง โลจิสติกส์ที่มีคุณภาพในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ยังคงแข็งแรง ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริการอย่างมืออาชีพ การดำเนินงานอย่างซื่อสัตย์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า คือสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบัน มิง เฟือง โลจิสติกส์ มีรถบริการประมาณ 1,000 คัน

ขณะเดียวกัน ดั่ง มิน เฟือง มีหน้าที่กำหนดทิศทางหลักของบริษัท โดยก่อนที่จะผันตัวเป็นผู้ประกอบการ เธอได้เริ่มต้นอาชีพการทำงานด้านโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 2536 ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทด้านโลจิสติกส์ในเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮจิมินห์ หลังจากนั้นเธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วภายหลังเป็นผู้จัดการฝ่ายขายได้เพียง 1 ปี โดยได้เลื่อนไปสู่ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบฏิบัติการของบริษัทเดียวกัน และไม่นานหลังจากนั้นในปี 2538 เธอตัดสินใจก่อตั้งธุรกิจด้านโลจิสติกส์เป็นของตัวเอง

ทั้งนี้ แนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ ดั่ง มิน เฟือง ยึดถือมาจากคำสอนของพ่อที่กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าสูญเสียทรัพย์สิน แต่ถ้าคุณสูญเสียความน่าเชื่อถือ นั้นแปลว่าคุณสูญเสียทุกสิ่ง”

ดั่ง มิน เฟือง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มิง เฟือง โลจิสติกส์ ได้ฉลองครบรอบ 20 ปี เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา และบริษัทได้มองไปยังอนาคตอีก 20 ปี ที่มุ่งเน้นการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และปรับปรุงบริการต่อเนื่อง ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ มิง เฟือง โลจิสติกส์ ได้ร่วมมือกับ Samsung SDS
บริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ เพื่อให้บริการนักธุรกิจในเวียดนาม ทั้งยังเจรจากับบริษัทจากสหรัฐ บริษัทบริการเช่ารถยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งจะเปิดให้บริการแฟรนไชส์แห่งแรกในเอเชีย ตลอดจน มิง เฟือง โลจิสติกส์ยังเป็นเจ้าของ Saigon Air Taxi ถึง 67% ที่กำลังปรับโครงสร้างเพื่อให้บริการรถเช่า เผชิญการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของแกร็บและอูเบอร์

ดั่ง มิน เฟือง ระบุว่า เวียดนามมีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) เข้ามาจำนวนมากภายหลังประกาศนโยบาย โด่ยเหมย ซึ่งนับจนถึงเดือน ธ.ค. 2560 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามมาจาก 125 ประเทศทั่วโลก มีจำนวน 24,748 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนมูลค่ารวมเป็น 318,722 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พบว่านักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ในเวียดนามคือ เกาหลีใต้ ตามด้วยญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไต้หวัน ตามลำดับ สำหรับอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนาม ในปี 2560 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.81%