posttoday

อีคอมเมิร์ซไทยโตพุ่ง

07 ธันวาคม 2561

สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ประเมินตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยปี 2568 มูลค่า 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นเบอร์ 2 ในภูมิภาค

โพสต์ทูเดย์ - สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ประเมินตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยปี 2568 มูลค่า 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นเบอร์ 2 ในภูมิภาค

นายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยในงาน CEBIT ASEAN Thailand ว่า แนวโน้มตลาดอี-คอมเมิร์ซ ในประเทศไทยมีการคาดการว่าภายในปี 2568 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า จะมีขนาดประมาณ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยจะมีขนาดตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย จากปัจจุบันขนาดตลาดในไทยมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ในปี 2568 ตลาดที่มีขนาดใหญ่สุดในอาเซียน จะเป็นประเทศอินโดนีเซีย จะมีขนาดตลาดประมาณ 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ มาจากการที่ประเทศมีประชากรจำนวนมาก และตลาดในอาเซียนประเทศอื่นๆ จะมีการเติบโตสูงในทุกประเทศ ทั้งประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ที่คาดการณ์ว่าจะมีขนาดตลาดประมาณ 8,000-1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม จากการเติบโตของตลาดในภูมิภาคอาเซียนและไทยที่ขยายตัวสูง เป็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจเข้ามาในตลาดนี้ ประกอบกับจากข้อมูลพบว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซในไทย จะมีสัดส่วนขนาดตลาดประมาณ 1-2% ของตลาดค้าปลีกเท่านั้น จึงประเมินว่าในอนาคตสัดส่วนของตลาดอี-คอมเมิร์ซ จะมีส่วนแบ่งขนาดตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนในตลาดโลกมีขนาดประมาณ 8.5% ของตลาดค้าปลีก และในประเทศญี่ปุ่น มีสัดส่วน 8% ประเทศเกาหลี 18% และประเทศจีน สัดส่วน 20% แล้ว

สำหรับตลาดในภูมิภาคที่ขยายตัวสูงยังมาจากการที่มีประชากรชนชั้นกลางในภูมิภาคมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในภูมิภาคและการใช้สมาร์ทโฟน รวมถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อเลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีการใช้ช่องทางทำตลาด ผ่านอี-คอมเมิร์ซ สามารถมีธุรกิจที่เติบโต 2 เท่าจากผู้ประกอบการอื่นๆ แล้ว

“เป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยจะเข้าไปขยายธุรกิจในตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพราะสัดส่วนตลาดจะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในปี 2568 ที่มูลค่าจะพุ่งสูงถึง 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์” นายธนาวัฒน์ กล่าว

นายธนาวัฒน์ กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) กับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ พร้อมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. สมาคมไทยไอโอที และสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เพื่อกำหนดกรอบการทำงานในการส่งเสริมสตาร์ทอัพของญี่ปุ่นและไทยร่วมกันภายในงาน CEBIT ASEAN Thailand หรืองานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18-20 ต.ค. 2561